คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการสินสมรส & การพิสูจน์การสมยอมซื้อขาย: สามีมีอำนาจขายได้ หากโจทก์อ้างสมยอมต้องพิสูจน์
สามีเป็นผู้จัดการและมีอำนาจจำหน่ายสินบริคนห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468,1473 เมื่อภริยาอ้างว่าการซื้อขายสินบริคนห์ระหว่างสามีกับผู้ซื้อเป็นการสมยอมกันเป็นโมฆะ ภริยาผู้อ้างก็มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ได้ความตามนั้น จึงจะชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการสินสมรสและการพิสูจน์การสมยอมซื้อขาย หากอ้างเป็นโมฆะ ผู้กล่าวอ้างต้องมีหน้าที่พิสูจน์
สามีเป็นผู้จัดการและมีอำนาจจำหน่ายสินบริคนห์ตาม ป.พ.พ.ม.1468,1473 เมื่อภริยาอ้างว่าการซื้อขายสินบริคนห์ระหว่างสามีกับผู้ซื้อเป็นการสมยอมกันเป็นโมฆะ ภริยาผู้อ้างก็มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ได้ความตามนั้น จึงจะชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดบอกเลิกสัญญาเช่า การบอกเลิกสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย และผลของการไม่จดทะเบียนสัญญา
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุก ๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ป.พ.พ.ม.566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ โดยระยะเวลาบอกเลิกสัญญาเพียงพอต่อระยะเวลาชำระค่าเช่า
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุกๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การยกเหตุข้อกฎหมายใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่ปรากฏในสำนวนชั้นต้น
เมื่อปรากฎว่าข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกา ไม่มีข้อเท็ดจริงในสำนวนฎีกาของจำเลยก็ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195, 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องแย้งของบุตรเขย: แม้บุตรสาวฟ้องไม่ได้ บุตรเขยก็มีสิทธิฟ้องโจทก์ได้ตามกฎหมาย
มารดาฟ้องบุตรสาวและบุตรเขยเป็นจำเลยขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามไม่ให้โจทก์เข้ามาเกี่ยวข้อง และเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนี้ แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้ บุตรเชยก็ย่อมฟ้องให้โจทก์รับผิดตามฟ้องแย้งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องแย้งของบุตรเขย: แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้ บุตรเขยก็มีสิทธิฟ้องแย้งโจทก์ได้
มารดาฟ้องบุตรสาวและบุตรเขยเป็นจำเลยขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามไม่ให้โจทก์เข้ามาเกี่ยวข้องและเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนี้ แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้บุตรเขยก็ย่อมฟ้องให้โจทก์รับผิดตามฟ้องแย้งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายและการลวนลาม
ผู้เสียหายเมาสุราแล้วขึ้นไปลวนลามภรรยาจำเลยบนเรือนและทำร้ายจำเลยจำเลยจึงต่อสู้ แล้วโดดหนี ผู้เสียหายกลับแสดงอาการจะทำร้ายอีก จำเลยจึงทำร้ายผู้เสียหายรวม13 แห่งถึงสาหัส ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายและการรวนลาม
ผู้เสียหายเมาสุราแล้วขึ้นไปรวนลามภรรยาจำเลยบนเรือน และทำร้ายจำเลย ๆ จึงต่อสู้ แล้วโดยหนี ผู้เสียหายกลับแสดงอาการจะทำร้ายอีก จำเลยจึงทำรายผู้เสียหายรวม 13 แห่ง ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยใช้อุบายหลอกลวงรับเงินค่าก่อสร้างเพื่อประโยชน์ตนเอง แม้จะนำไปใช้จ่ายค่าก่อสร้างก็ไม่เป็นการชดใช้
โจทก์จำเลยร่วมกันเช่าที่ดินมาปลูกตึกแถวและได้ตกลงรับผิดจ่ายค่าจ้างเหมาแยกกันตามส่วน ดังนี้เมื่อจำเลยใช้อุบายหลอกลวงให้โจทก์ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลย โดยอ้างว่า ผู้รับเหมาให้มารับแทน ซึ่งไม่เป็นความจริงเช่นนี้แม้จำเลยจะได้นำเงินนั้นไปใช้จ่ายค่าประตูหน้าต่างและค่าแรงงานก่อสร้างตึกนั้นก็เพื่อประโยชน์ของจำเลยเองไม่เกี่ยวแก่โจทก์ จำเลยต้องมีความผิดตามมาตรา 304
of 131