คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการครอบครองปรปักษ์: ศาลวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงและสิทธิที่ปรากฏในชั้นพิจารณา
โจทย์ฟ้องว่า นาพิพาทมารดายกให้ และโจทก์ได้ครอบครองโดยปรปักษ์มากว่า 10 ปีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า นาพิพาทตกเป็นมรดกได้แก่โจทก์จำเลย และโจทก์มิได้ ได้สิทธิในทางครอบครองปรปักษ์ ดังนี้ศาลย่อมวินิจฉัยให้แบ่งกันได้ตามส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันโดยคำนึงถึงปัจจัยจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294. เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดีแต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมาศาลฎีกาแล้วและศาลฎีกาเห็นในข้อกฎหมายตามศาลอุทธรณ์ก็ตามศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและการงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดี แต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ขึ้นมาศาลฎีกาแล้ว และศาลฎีกาเห็นในข้อ ก.ม.ตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อตอบโต้ผู้บุกรุกและการพิจารณาเหตุผลสมควรแก่เหตุ
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่าเจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนราว 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2คำชายนั้นกลับวิ่งหนีเจ้าของบ้านวิ่งตาม และร้องขโมยพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้านเจ้าของบ้านจึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฏว่าชายนั้นเป็นคนโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมสมบูรณ์แม้พยานลงชื่อไม่ครบถ้วน หากยังมีพยาน 2 คน และผู้ทำพินัยกรรมเป็นพยานด้วย
พินัยกรรมที่พยานลงชื่อไม่ถูกต้องเสียคนหนึ่ง แต่ยังมีพยานอีกคนหนึ่งและผู้เขียนซึ่งเป็นพยานด้วยอีกคนหนึ่ง รวมเป็น 2 คนดังนี้ ก็ถือได้ว่าพินัยกรรมนั้นมีพยานครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
พยาน 2 คนลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมขณะที่ทำพินัยกรรมนั้นไม่จำต้องลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมืออีกหนหนึ่งก็มีผลเท่ากับรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ทำพินัยกรรมไปในตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมสมบูรณ์แม้พยานลงชื่อไม่ถูกต้อง พยาน 2 คน + ผู้เขียนพยาน ถือใช้ได้
พินัยกรรม์ที่พยานลงชื่อไม่ถูกต้องเสียคนหนึ่ง แต่ยังมีพยานอีกคนหนึ่งและผู้เขียนซึ่งเป็นพยานด้วยอีกคนหนึ่ง รวมเป็น 2 คน ดังนี้ ก็ถือได้ว่า พินัยกรรมนั้นมีพยานครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
พยาน 2 คนลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม์ ขณะที่ทำพินัยกรรม์นั้นไม่จำต้องลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมืออีกหนหนึ่ง ก็มีผลเท่ากับรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ทำพินัยกรรม์ไปในตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่และการชนกันของรถยนต์: การแบ่งความรับผิด
แม้รถยนต์ของโจทก์ห้ามล้อใช้การไม่ได้โจทก์ยังฝ่าฝืนต่อกฎจราจรนำมาขับขี่ อันนับว่าเป็นความเลินเล่อของโจทก์ในชั้นต้นฝ่ายจำเลยขับรถกินทางโจทก์ ผิดกฎจราจรจนเป็นเหตุให้รถชนกันขึ้นนับว่าจำเลยเป็นผู้เลินเล่อจนเป็นเหตุให้รถชนกันจำเลยจึงต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคุ้มครองผู้เช่าเคหะฯ แม้มีคำสั่งรื้อ – ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ไม่ได้
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แม้ทางการเทศบาลจะได้มีคำสั่งให้รื้อห้องเช่านั้นก็ดีก็หาทำให้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ไม่ผู้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นปกติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้เทศบาลสั่งรื้อห้องเช่า ผู้ให้เช่าก็ไม่อาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ ผู้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยนั้น ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ แม้ทางการเทศบาลจะได้มีคำสั่งให้รื้อห้องเช่านั้น ก็ดี ก็หาทำให้ผู้ให้เช่า ฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ไม่ ผุ้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นปกติ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำรับสารภาพ พยานหลักฐานประกอบ และพยานยืนยัน แม้ไม่มีประจักษ์พยาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย 2 คนฐานสมคบกันชิงทรัพย์จำเลยทั้ง 2 รับสารภาพตามฟ้องเมื่อสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ โจทก์มีคำเจ้าทรัพย์ยืนยันฟังได้ว่า การชิงทรัพย์รายนี้มีคนอีกคนหนึ่งร่วมกระทำการกับจำเลยที่1 ด้วยและมีพยานอีกคนหนึ่งเห็นจำเลยที่ 2 เดินตามหลังจำเลยที่ 1 ไปในคืนวันเกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุแล้วดังนี้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยได้ในขณะกระทำผิดเมื่อพิเคราะห์ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยที่ 2 แล้วคดีพอลงโทษจำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176
of 131