คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหนี้บริษัทจำกัดหลังชำระบัญชี เริ่มนับจากวันจดทะเบียน นายทะเบียนสั่งรับ
ในคดีฟ้องให้บริษัทจำกัดชำระหนี้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1272 ที่ว่า ต้องฟ้องภายในกำหนด 2 ปี นับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีนั้น อายุความต้องเริ่มนับแต่วันที่นายทะเบียนสั่งรับจดทะเบียนแล้ว เพราะคำสั่งเช่นนี้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้บุคคลทั้งปวงรับรู้มิใช่เริ่มนับแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ชำระบัญชีเริ่มต้นเมื่อจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี และการรับผิดของผู้ชำระบัญชีในหนี้สิน
ในคดีฟ้องให้บริษัทจำกัดชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1272 ที่ว่า ต้องฟ้องภายในกำหนด 2 ปีนับแต่วันที่ถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชีนั้น อายุความต้องเริ่มนับแต่วันที่นายทะเบียนสั่งรับจดทะเบียนแล้ว เพราะคำสั่งเช่นนี้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้บุคคลทั้งปวงรับรู้ มิใช่เริ่มนับแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "แต่จำเลยมิได้แสดงแก่เจ้าพนักงานกองทะเบียนและในหลักฐานการชำระบัญชีว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ค่ากระสอบของโจทก์ดังกล่าวแล้วข้างต้น ซึ่งโจทก์ถือว่าจำเลยปิดบังหนี้สินรายนี้ ทั้งจำเลยมิได้ชำระเงินค่ากระสอบนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องขอคำบังคับของศาลให้จำเลบชำระหนี้ดังกล่าวแล้วให้แก่โจทก์ต่อไป" นั้น เป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ จะถือว่าโจทก์กล่าวหาจำเลยให้รับผิดฐานละเมิดยังไม่ได้ เพราะการกล่าวหาให้รับผิดฐานละเมิดจะต้องกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำให้โจทก์ต้องเสียหาย
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7,8/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดอุทธรณ์คดีแพ่งปนคดีอาญา: ใช้มาตรา 229 ป.วิ.พ.
ฟ้องคดีอาญาปนคดีแพ่ง ศาลยกฟ้องคดีส่วนอาญา แต่ให้โจทก์ชนะในส่วนแพ่ง ดังนี้ จำเลยยื่นอุทธรณ์ คดีส่วนแพ่งได้ในกำหนดหนึ่งเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 มิใช่กำหนด 15 วัน ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาปนแพ่ง: อุทธรณ์คดีแพ่งต้องใช้กรอบเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แม้ฟ้องเริ่มจากคดีอาญา
ฟ้องคดีอาญาปนคดีแพ่งศาลยกฟ้องคดีส่วนอาญา แต่ให้โจทก์ชนะในส่วนแพ่ง ดังนี้จำเลยยื่นอุทธรณ์คดีส่วนแพ่งได้ในกำหนด 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 มิใช่กำหนด 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คโดยปราศจากมูลหนี้ ผู้สลักหลังยกข้อต่อสู้ได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คโดยอ้างว่าจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 1 ร่วมกันกู้เงินจากโจทก์ แล้วจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกเช็ค จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คนั้นให้โจทก์ยึดถือไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้กู้ ย่อมยกความปราศจากมูลหนี้ระหว่างจำเลยที่ 2 กับโจทก์ในการสลักหลังนั้นขึ้นต่อสู้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สลักหลังเช็คโดยปราศจากมูลหนี้ ผู้สลักหลังยกข้อต่อสู้ได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค โดยอ้างว่า จำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 1 ร่วมกันกู้เงินจากโจทก์ แล้วจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกเช็ค จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คนั้นให้โจทก์ยึดถือไว้ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้กู้ย่อมยกความปราศจากมูลหนี้ระหว่าง จำเลยที่ 2 กับโจทก์ ในการสลักหลัง นั้นขึ้นต่อสู้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานเดิมหลังศาลยกเลิกคำพิพากษาเดิมและให้พิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้ เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรับฟังพยานเดิมหลังศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาและสั่งพิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัด และให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้า ศาลสามารถวินิจฉัยได้เองจากรูปลักษณ์โดยไม่ต้องสืบพยานบุคคล
ในเรื่องเครื่องหมายการค้า รูปลักษณะเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยคล้ายคลึงกันอันจะแสดงว่าจำเลยเลียนของโจทก์หรือไม่เป็ยข้อที่ศาลพึงพิจารณารู้ได้เองเช่นบุคคลทั่วไปควรจจะรู้กัน ฉะนั้น แม้ศาลจะเพียงตรวจดูรูปลักษณะเครื่องหมายการค้าประกอบพยานเอกสารโดยไม่สืบพยานบุคคล ก็ชอบที่จะทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: ศาลพิจารณาความคล้ายคลึงจากลักษณะทั่วไปได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องสืบพยาน
ในเรื่องเครื่องหมายการค้า รูปลักษณะเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยคล้ายคลึงกันอันจะแสดงว่าจำเลยเลียนของโจทก์หรือไม่เป็นข้อที่ศาลพึงพิจารณารู้ได้เองเช่นบุคคลทั่วไปควรจะรู้กันฉะนั้น แม้ศาลจะเพียงตรวจดูรูปลักษณะเครื่องหมายการค้าประกอบพยานเอกสารโดยไม่สืบพยานบุคคล ก็ชอบที่จะทำได้
of 131