พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม แม้เลยกำหนด หากไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
การขอยื่นบัญชีพยายาฝ่ายฝืนกฎหมายหากไม่ทำให้คู่ความอีกฝ่ายเสียเปรียบศาลควรอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าจากความหลงลืม ศาลอาจอนุญาตได้หากไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ
การที่จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเพราะความหลงลืม มิใช่เป็นเพราะจำเลยมีเจตนาจงใจไม่ยื่นโดยมีเล่ห์เหลี่ยมประการใดและที่จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังนี้ ก็ไม่ทำให้โจทก์เสียเปรียบศาลควรอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเหมาช่วงและการไม่มีตัวแทน: จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ที่บริษัทรับเหมาช่วงก่อไว้
จำเลยทำสัญญารับเหมาก่อสร้างกับผู้มีชื่อแต่ไม่ได้ดำเนินการเอง ได้จ้างบริษัทอื่นรับเหมาช่วงไปทำแทน เมื่อบริษัทอื่นดังกล่าวไปก่อหนี้สินเกี่ยวกับการก่อสร้างนั้น โดยจำเลยมิได้เกี่ยวข้องด้วย จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดฐานะตัวการแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการ-ผู้รับเหมาช่วง: ความรับผิดในหนี้จากการรับเหมาช่วง
จำเลยทำสัญญารับเหมาก่อสร้างกับผู้มีชื่อ แต่ไม่ได้ดำเนินการเอง ได้จ้างบริษัทอื่นรับเหมาช่วงไปทำแทนเมื่อบริษัทอื่นดังกล่าวไปก่อหนี้สินเกี่ยวกับการก่อสร้างนั้น โดยจำเลยมิได้เกี่ยวข้องด้วยจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดในฐานะตัวการแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญาคดีเช็ค การระบุชื่อธนาคารและภูมิลำเนาจำเลยเพียงพอ
คำฟ้องต่อศาลแขวง จะต้องกล่าวระบุให้ปรากฏสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามที่มีบทบังคับอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้ว แม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือ จำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้ว แม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือ จำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา ความผิดเช็ค การระบุภูมิลำเนาผู้สั่งจ่ายเพียงพอ
คำฟ้องต่อศาลแขวง จะต้องกล่าวระบุให้ปรากฏสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามที่มีบทบังคับอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้วแม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือจำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่6/2504)
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น เมื่อได้ระบุถึงเลขที่ของเช็คและชื่อธนาคารที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายอันเป็นมูลแห่งความผิดมาในฟ้องแล้วแม้จะมิได้ระบุสถานที่ตั้งของธนาคารก็ตามแต่โจทก์ก็ได้ระบุภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย คือจำเลยไว้ จึงพอถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้ระบุสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่6/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความ: สิทธิเดินทางแม้เจ้าของเดิมมิได้ใช้เอง หากผู้เช่าใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี
ภารจำยอมในเรื่องทางเดินเป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่ง กฎหมายเพิ่งเล็งถึงความสำคัญของที่ดินไม่ใช่ส่วนตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
ตอนแรกโจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินซึ่งเป็นสามนทรัพย์ปลูกบ้านอยู่ และโจทก์ที่ 2 เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ในที่ดินนั้นด้วย ระหว่างนั้นโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมา ตอนหลังโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินนั้นและก็คงใช้ทางพิพาทเดินตลอดมา เมื่อรวมระยะเวลาทั้ง 2 ตอน เกิน 10 ปี โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ
ตอนแรกโจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินซึ่งเป็นสามนทรัพย์ปลูกบ้านอยู่ และโจทก์ที่ 2 เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ในที่ดินนั้นด้วย ระหว่างนั้นโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมา ตอนหลังโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินนั้นและก็คงใช้ทางพิพาทเดินตลอดมา เมื่อรวมระยะเวลาทั้ง 2 ตอน เกิน 10 ปี โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมทางเดินเกิดขึ้นได้จากการใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี โดยพิจารณาที่ที่ดิน ไม่ใช่ตัวบุคคล
ภารจำยอมในเรื่องทางเดินเป็นทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งกฎหมายเพ่งเล็งถึงความสำคัญของที่ดิน ไม่ใช่ส่วนตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
ตอนแรกโจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินสามยทรัพย์ปลูกบ้านอยู่ และโจทก์ที่ 2 เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ในที่ดินนั้นด้วยระหว่างนั้นโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณเรื่อยมา ตอนหลังโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินนั้น และคงใช้ทางพิพาทเดินตลอดมาเมื่อรวมระยะเวลาทั้ง 2 ตอนเกิน 10 ปี โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ
ตอนแรกโจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินสามยทรัพย์ปลูกบ้านอยู่ และโจทก์ที่ 2 เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ในที่ดินนั้นด้วยระหว่างนั้นโจทก์ทั้งสองใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณเรื่อยมา ตอนหลังโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินนั้น และคงใช้ทางพิพาทเดินตลอดมาเมื่อรวมระยะเวลาทั้ง 2 ตอนเกิน 10 ปี โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบันทึกรายรับจากการค้าที่ไม่เกิน 10 บาท ต้องทำเป็นรายครั้ง ไม่รอรวมยอดแล้วค่อยบันทึก
ประมวลรัษฎากร มาตรา 105 ตรี ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2496 มาตรา 44 บัญญัติให้ผู้รับเงินหรือรับชำระราคารวมเงินที่ได้รับทุกครั้งทำบันทึกตามแบบที่อธิบดีกำหนดเป็นวันๆ คือ ถือตามจำนวนเงินที่รับจริงเป็นคราวๆ ไป
ฉะนั้น ที่จำเลยรับจ้างถ่ายรูปแต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาท แม้จะรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาท จำเลยก็ต้องกรอกรายการรับเงินทุกครั้ง มิใช่รอไว้รวมจนครบจำนวนราคาแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง
ประชุมใหญ่ ครั้ง 2/2504
ฉะนั้น ที่จำเลยรับจ้างถ่ายรูปแต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาท แม้จะรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาท จำเลยก็ต้องกรอกรายการรับเงินทุกครั้ง มิใช่รอไว้รวมจนครบจำนวนราคาแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง
ประชุมใหญ่ ครั้ง 2/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบันทึกรับเงินค่าบริการตามประมวลรัษฎากร: ต้องบันทึกทุกครั้ง แม้เงินมัดจำจะต่ำกว่า 10 บาท
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 105 ตรี ซึ่งแก้ไขไปโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 มาตรา 44 บัญญัติให้ผู้รับเงินหรือรับชำระราคาครั้งหนึ่งๆ ไม่เกิน 10 บาท ทำบันทึกตามแบบที่อธิบดีกำหนดรวมเงินเป็นวันๆ คือ ถือตามจำนวนเงินที่รับจริงเป็นคราวๆ ไป
จำเลยรับจ้างถ่ายรูป แต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาทแต่เมื่อรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาทดังนี้จำเลยก็ต้องทำบันทึกกรอกรายการรับเงินทุกครั้งมิใช่รอไว้รวมรับเงินจนครบราคาค่าจ้างถ่ายรูปแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง
จำเลยรับจ้างถ่ายรูป แต่ละครั้งได้ตกลงราคาเกินกว่า 10 บาทแต่เมื่อรับเงินมัดจำไม่ถึง 10 บาทดังนี้จำเลยก็ต้องทำบันทึกกรอกรายการรับเงินทุกครั้งมิใช่รอไว้รวมรับเงินจนครบราคาค่าจ้างถ่ายรูปแล้วจึงออกใบรับปิดอากรแสตมป์ภายหลัง