คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมรู้ร่วมคิดชิงทรัพย์: ผู้สมรู้ต้องรับผิดร่วมกับตัวการในการคืนทรัพย์
ผู้ที่มีผิดแม้เพียงฐานสมรู้ ก็ต้องร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับผู้ที่มีผิดฐานเป็นตัวการด้วยเหมือนกัน
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 และ 65

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมรู้ร่วมคิดชิงทรัพย์: ผู้สมรู้ต้องรับผิดร่วมคืนทรัพย์สิน
ผู้ที่มีผิดแม้เพียงฐานสมรู้ ก็ต้องร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับผู้ที่มีผิดฐานเป็นตัวการด้วยเหมือนกัน
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยกว่า ก.ม. ลักษณะอาญา ม.298 และ 65.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการเข้าใจผิดและมีปัจจัยลดโทษจากความชราและบาดแผลของผู้กระทำ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้ปืนและหอกทำร้ายผู้ตายและจำเลยที่ 3 โดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้กำลังกายและมีดทำร้ายจำเลยที่ 1 และ 2 ฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ใช้หอกแทงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาเจตนา, การป้องกันตัว, และเหตุบรรเทาโทษ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้ปืนและหอกทำร้ายผู้ตายและจำเลยที่ 3 โดยเจตนาฆ่า จำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้กำลังกายและมีดทำร้ายจำเลยที่ 1 และ 2 ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ใช้หอกแทงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสัญญาประนีประนอมยอมความหลังการทำสัญญา ศาลไม่บังคับใช้สัญญาก่อนกับละเมิดใหม่
การปลูกสร้างโรงเรือนลงบนที่ดินเช่าซึ่งทำขึ้นภายหลังสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นถือว่าเป็นการละเมิดขึ้นใหม่ จึงยกสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้ก่อนมาบังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสัญญาประนีประนอมยอมความหลังจากการทำสัญญาแล้ว สิทธิในการเช่าจะถูกเพิกถอน
การปลูกสร้างโรงเรือนลงบนที่ดินเช่าซึ่งทำขึ้นภายหลังสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดขึ้นใหม่ จึงยกสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้ก่อนมาบังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์ ฎีกาได้ แม้มีเรียกค่าเสียหาย สิทธิครอบครองห้องเช่าและเจตนาของสัญญาประนีประนอม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมออกจากที่ดินวัดปทุมคงคาเพื่อให้โจทก์ปลูกตึกแถวโจทก์สัญญาว่าปลูกแล้วจะให้จำเลยเช่า 1 คูหา ซึ่งตามแต่โจทก์จะเป็นผู้เลือกให้ จำเลยจะต้องช่วยค่าก่อสร้าง 20,000 บาท
สร้างเสร็จจำเลยเข้าอยู่ในห้องเลขที่ 66/8 โจทก์จึงฟ้องว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยพละการมิได้รับความยินยอมจากโจทก์โจทก์ตั้งใจเลือกห้องเลข 4/4 ให้จำเลย การที่จำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์เป็นการละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย
เมื่อจำเลยมิได้โต้เถียงกรรมสิทธิ์ฟ้องดังกล่าวจึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์(ฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาเงินได้) ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่ เพียงแต่โจทก์มีคำขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุทำให้โจทก์หมดสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิเจ้าของที่ดินจากทางสาธารณะ การสร้างสะพานกีดขวางหน้าที่ดิน แม้จะอุทิศให้สาธารณะแล้วก็ต้องรับผิด
บทบัญญัติมาตรานี้ใช้บังคับรวมทั้งนิติบุคคลเช่นเทศบาลและจังหวัดด้วย
การที่สร้างทางเดินเท้าผ่านหน้าที่ดินของบุคคลอื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของที่เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรแล้ว แม้ทางเดินเท้านั้นจะอยู่ในที่สาธารณะและเมื่อผู้สร้างสร้างแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะด้วย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1337 นี้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินและการคุ้มครองประโยชน์การใช้ที่ดิน แม้สร้างเพื่อสาธารณะก็ต้องรับผิดชอบ
บทบัญญัติมาตรานี้ใช้บังคับรวมทั้งนิติบุคคลเช่น เทศบาลและจังหวัดด้วย.
การที่สร้างทางเดินเท้าผ่านหน้าที่ดินของบุคคลอื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของที่เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรแล้ว แม้ทางเดินเท้านั้นจะอยู่ในที่สาธารณะและเมื่อผู้สร้างสร้างแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะด้วย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1337 นี้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดขอบเขตการฟ้องร้องตามคำบรรยายฟ้อง การวินิจฉัยนอกประเด็นฟ้อง
เมื่อฟ้องของโจทก์ข้อ 3 บรรยายว่า "บัดนี้โจทก์ทราบว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยเอาตึกที่เช่านี้บางส่วนไปให้เช่าช่วง โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์จึงไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไป โจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังจำเลยดังสำเนาท้ายคำฟ้อง จำเลยรับทราบแล้วไม่ปฏิบัติตาม โจทก์จึงจำต้องมาขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง" ดังนี้ เห็นได้ว่า โจทก์ยกเหตุเช่าช่วงเป็นข้ออ้างขอให้ศาลขับไล่ หาได้ยกเหตุอื่นใด (สิทธิบอกเลิกการเช่าอย่างสัญญาเช่าธรรมดา) เป็นข้ออ้างไม่ ข้อวินิจฉัยของศาลล่างที่นอกเหนือจากประเด็นเช่าช่วง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น.
of 131