คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกาศกฎหมายไม้หวงห้าม
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้หวงห้าม ต้องบรรยายรายละเอียดประกาศทางกฎหมายในฟ้อง หากไม่บรรยาย ฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ในฐานะบริวารและผู้แทน ย่อมไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนเจตนา
ผู้ที่อยู่ในครัวเรือนของผู้อาศัยถือว่าเป็นบริวารของผู้อาศัย
ผู้อาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินถือว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นแม้จะครอบครองที่ดินมาช้านานเท่าใด ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ เว้นแต่จะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินนั้นแทนต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการเป็นผู้แทนเจ้าของที่ดิน ผู้ครอบครองไม่ได้รับกรรมสิทธิ์หากไม่ได้แจ้งความประสงค์
ผู้ที่อยู่ในครัวเรือนของผู้อาศัยถือว่าเป็นบริวารของผู้อาศัย
ผู้อาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินถือว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นแม้จะครอบครองที่ดินมาช้านานเท่าใด ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์เว้นแต่จะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินนั้นแทนต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104-1105/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการรับฟังข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: จำเลยที่ตาย/ไม่ได้เป็นคู่ความ
ที่ว่าในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น หมายความว่าคดีส่วนอาญาได้ถึงที่สุดแล้วและจำเลยในคดีแพ่งก็ต้องเป็นจำเลยรายเดียวกันกับจำเลยในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้นด้วย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่านายเจริญกับพวกจำเลยฆ่านายประเวศตาย นายเจริญจำเลยกับพวกฎีการะหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นายเจริญจำเลยตาย คดีส่วนตัวนายเจริญจำเลยเป็นอันระงับไป เมื่อมารดาและบุตรของนายประเวศผู้ตายฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานนายเจริญจำเลยละเมิดเช่นนี้ ข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งยังฟังลงไปทีเดียวไม่ได้ว่านายเจริญจำเลยมีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศดังที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยฟังมา เพราะคดีอาญานั้นยังไม่ถึงที่สุด ศาลฎีกาอาจฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นก็ได้ เมื่อเช่นนี้ ข้อเท็จจริงในข้อว่านายเจริญจำเลยมีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศอันจะถือตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ไม่มี ศาลจะพิพากษาคดีส่วนแพ่งให้ผู้รับมรดกความของนายเจริญจำเลยรับผิดฐานละเมิดไปเลยทีเดียวยังไม่ได้ต้องให้คู่ความในคดีแพ่ง นำสืบข้อเท็จจริงเช่นว่านี้กันไป
คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในคดีอาญาว่านายบุญเราและนายมินทร์(ซึ่งไม่ได้เป็นจำเลยในคดีอาญานั้นด้วยเลย) มีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศ ต่อมามารดาและบุตรนายประเวศผู้ตายได้เป็นโจทก์ฟ้องนายบุญเราและนายมินทร์เป็นจำเลยในคดีแพ่งเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดเช่นนี้ศาลจะรับฟังข้อวินิจฉัยส่วนอาญาดังกล่าวแล้วของศาลชั้นต้นมาเป็นข้อเท็จจริงอันจะถือตามในคดีแพ่งนี้หาได้ไม่ เพราะนายบุญเราและนายมินทร์ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีอาญาดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104-1105/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการรับฟังข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: จำเลยในคดีแพ่งต้องเป็นคู่ความในคดีอาญา หรือคดีอาญาต้องถึงที่สุดก่อน
ที่ว่าในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น หมายความว่าคดีส่วนอาญาได้ถึงที่สุดแล้วและจำเลยในคดีแพ่งก็ต้องเป็นจำเลยรายเดียวกันกับจำเลยในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้นด้วย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่านายเจริญกับพวกจำเลยฆ่านายประเวศตาย นายเจริญจำเลยกับพวกฎีกา ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นายเจริญจำเลยตาย คดีส่วนตัวนายเจริญจำเลยจึงเป็นอันระงับไป เมื่อมารดาและบุตรของนายประเวศผู้ตายฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานนายเจริญจำเลยละเมิด เช่นนี้ ข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งยังฟังลงไปทีเดียวไม่ได้ว่านายเจริญจำเลยมีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศดังที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยฟังมา เพราะคดีอาญานั้นยังไม่ถึงที่สุด ศาลฎีกาอาจฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นก็ได้เมื่อเช่นนี้ ข้อเท็จจริงในข้อว่านายเจริญจำเลยมีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศอันจะถือตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ไม่มี ศาลจะพิพากษาคดีส่วนแพ่งให้ผู้รับมรดกความของนายเจริญจำเลยรับผิดฐานละเมิดไปเลยทีเดียวยังไม่ได้ ต้องให้คู่ความในคดีแพ่งนำสืบข้อเท็จจริงเช่นว่านี้กันไป
คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในคดีอาญาว่านายบุญเราและนายมินทร์(ซึ่งไม่ได้เป็นจำเลยในคดีอาญานั้นด้วยเลย)มีส่วนร่วมในการฆ่านายประเวศ ต่อมามารดาและบุตรนายประเวศผู้ตายได้เป็นโจทก์ฟ้องนายบุญเราและนายมินทร์เป็นจำเลยในคดีแพ่งเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิด เช่นนี้ ศาลจะรับฟังข้อวินิจฉัยส่วนอาญาดังกล่าวแล้วของศาลชั้นต้นมาเป็นข้อเท็จจริงอันจะถือตามในคดีแพ่งนี้หาได้ไม่เพราะนายบุญเราและนายมินทร์ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีอาญาดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกฟ้องและประเด็นที่มิได้ยกขึ้นในคำให้การและฟ้องแย้ง ศาลไม่รับวินิจฉัย
ฟ้องแย้งบรรยายว่า โจทก์รับเงินไปจากจำเลยจำนวนหนึ่งคิดหักค่าจ้างขนไม้ออกแล้ว โจทก์ต้องคืนเงินให้จำเลยอีก ดังนี้ จำเลยจะนำสืบว่า ได้จ่ายค่าสิ่งของอื่นๆ แทนโจทก์และขอหักกลบลบหนี้โดยมิได้บรรยายเป็นประเด็นมาในฟ้องแย้ง ย่อมเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกประเด็นฟ้องแย้ง ศาลไม่วินิจฉัยเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นประเด็น
ฟ้องแย้งบรรยายว่า โจทก์รับเงินไปจากจำเลยจำนวนหนึ่งคิดหักค่าจ้างขนไม้ออกแล้ว โจทก์ต้องคืนเงินให้จำเลยอีก ดังนี้ จำเลยจะนำสืบว่า ได้จ่ายค่าสิ่งของอื่น ๆ แทนโจทก์และขอหักกลบลบหนี้โดยมิได้บรรยายเป็นประเด็นมาในฟ้องแย้ง ย่อมเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน: ศาลพิจารณาการสมยอมกันและการฉ้อฉลเจ้าหนี้
คดีร้องขัดทรัพย์ โจทก์ให้การแก้คำร้องว่าจำเลยกับผู้ร้องโอนทรัพย์กันโดยสมยอม เป็นเจตนาลวงตกเป็นโมฆะตามมาตรา118ศาลจะวินิจฉัยว่า การโอนทำให้โจทก์เสียเปรียบเป็นการฉ้อฉลที่เพิกถอนได้ตามมาตรา237 ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทดรองค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือญาติ ไม่ถือเป็นเงินยืม และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายหนึ่งขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายเงินทดรองไปในกิจการอย่างหนึ่ง โดยตกลงว่าจะใช้คืนให้เมื่อเสร็จกิจการนั้นแล้ว หาใช่เป็นการกู้ยืมไม่ แม้เงินที่ทดรองไปจะเกินกว่า 50 บาทก็ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การที่ออกเงินช่วยญาติให้ฟ้องร้องคดียังโรงศาลหาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีแต่อย่างใดไม่
of 131