คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำซ้อน: โจทก์ฟ้องคดีใหม่หลังคัดค้านในคดีเดิมไม่ได้ แม้ได้รับความเสียหายจากผลคดี
โจทก์ร้องคัดค้านในคดีก่อนซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นคู่ความกันอยู่แล้วและคดีนั้นก็กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล เช่นนี้ โจทก์จะนำมูลกรณีเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำซ้อน: โจทก์ฟ้องคดีใหม่ในประเด็นที่เคยคัดค้านในคดีเดิมที่ยังไม่สิ้นสุด
โจทก์ร้องคัดค้านในคดีก่อนซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นคู่ความกันอยู่แล้ว และคดีนั้นก็กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล เช่นนี้ โจทก์จะนำมูลกรณีเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องจำเลยในคดีใหม่อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดสัญญาเช่าเรือ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเรื่องการยืมใช้ การฟ้องจึงไม่สมเหตุผล ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าเรือโจทก์ไปและผิดสัญญาเช่าขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเช่าเรือและค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เช่าเรือโจทก์ แต่โจทก์ได้ให้จำเลยยืมเรือไปบรรทุกฟืนโดยไม่คิดค่าอะไรดังนี้ หากทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องให้ยืมเรือ ไม่ใช่เรื่องให้เช่าเรือดังฟ้องของโจทก์ศาลก็ต้องยกฟ้องส่วนในเรื่องค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือนั้น โจทก์เรียกร้องตามมูลสัญญาเช่าเมื่อไม่ใช่เรื่องการเช่าแล้วก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมต่อไปเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามสัญญายืม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานจากสัญญาเช่าเป็นสัญญายืมเรือ ศาลต้องยกฟ้องหากพยานจำเลยมีน้ำหนักกว่า
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าเรือโจทก์ไปและผิดสัญญาเช่า ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเช่าเรือและค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เช่าเรือโจทก์ แต่โจทก์ได้ให้จำเลยยืมเรือไปบรรทุกฟืนโดยไม่คิดค่าอะไร ดังนี้ หากทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องให้ยืมเรือ ไม่ใช่เรื่องให้เช่าเรือดังฟ้องของโจทก์ ศาลก็ต้องยกฟ้อง ส่วนในเรื่องค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือนั้น โจทก์เรียกร้องตามมูลสัญญาเช่า เมื่อไม่ใช่เรื่องการเช่าแล้ว ก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมต่อไป เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามสัญญายืม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: บันทึกถอนคำคัดค้านมรดกมีผลผูกพันตามกฎหมาย
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่ดินของพี่ชาย ณ หอทะเบียนโจทก์ซึ่งเป็นน้องต่างบิดาคัดค้านภายหลังโจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยยอมแบ่งที่บ้านให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่นาโจทก์ไม่เกี่ยวข้องดังนี้ การที่โจทก์ลงชื่อขอถอนคำคัดค้านโดยเจ้าพนักงานที่ดิน บันทึกไว้ว่าโจทก์ไม่ติดใจเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้จำเลยรับมรดกไปได้ผู้เดียวนั้นบันทึกดังกล่าว แม้โจทก์จะทำกับเจ้าพนักงานผู้ไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบก็ตามก็ย่อมถือว่าเป็นหลักฐานของสัญญาประนีประนอมยอมความอันมีผลบังคับได้อย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: บันทึกถอนคำคัดค้านมรดกมีผลผูกพัน
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่ดินของพี่ชาย ณ หอทะเบียน โจทก์ซึ่งเป็นน้องต่างบิดาคัดค้านภายหลังโจทก์จำเลยตกลงกัน โดยจำเลยยอมแบ่งที่บ้านให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่นาโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การที่โจทก์ลงชื่อขอถอนคำคัดค้านโดยเจ้าพนักงานที่ดินบันทึกไว้ว่าโจทก์ไม่ติดใจเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้จำเลยรับมรดกไปได้ผู้เดียวนั้น บันทึกดังกล่าว แม้โจทก์จะทำกับเจ้าพนักงานผู้ไกล่เกลี่ยเปรียบเทียบก็ตาม ก็ย่อมถือว่าเป็นหลักฐานของสัญญาประนีประนอมยอมความอันมีผลบังคับได้อย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คู่สัญญาและอำนาจฟ้องในสัญญากู้ การนำสืบความเป็นมาของหนี้ และการนำสืบพยานนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 5,000 บาท แล้วนำสืบว่าจำเลยเคยยืมเงินโจทก์ที่ 1 บิดาโจทก์ที่ 2 ไป 2,800 บาท ไม่ได้ทำสัญญากัน ต่อมาขอยืมอีก โจทก์ที่ 1 ให้ถามโจทก์ที่ 2 ดู โจทก์ที่ 2 ให้ยืมและได้เขียนสัญญากู้กันเป็นเงิน 5,000 บาท และโจทก์ที่ 2 ได้จ่ายเงินอีก 2,200 บาท ให้จำเลยไปแล้ว ดังนี้ แม้จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์มาก่อน 2,800 บาท แต่ก็เป็นเรื่องโจทก์นำสืบถึงความเป็นมาของจำนวนเงินกู้ตามสัญญา จึงไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้น โจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่ 1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วย มีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คู่สัญญาตามสัญญากู้ และการนำสืบความเป็นมาของหนี้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 5,000 บาทแล้วนำสืบว่าจำเลยเคยยืมเงินโจทก์ที่ 1 บิดาโจทก์ที่ 2 ไป 2,800 บาทไม่ได้ทำสัญญากันต่อมาขอยืมอีกโจทก์ที่ 1 ให้ถามโจทก์ที่ 2 ดูโจทก์ที่ 2 ให้ยืมและได้เขียนสัญญากู้กันเป็นเงิน 5,000 บาท และโจทก์ที่ 2 ได้จ่ายเงินอีก 2,200 บาทให้จำเลยไปแล้ว ดังนี้ แม้จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์มาก่อน 2,800 บาท แต่ก็เป็นเรื่องโจทก์นำสืบถึงความเป็นมาของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาจึงไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้นโจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วยมีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ออกใบรับเงินเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประมวลรัษฎากร ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษี
การที่จำเลยขายของไม่ออกใบรับเงินนั้น เป็นเรื่องไม่กระทำ คือไม่ออกใบรับมีบทบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะอยู่แล้วตาม มาตรา 105 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2502 มาตรา 55 หาเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามมาตรา 37(2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2502 มาตรา 14 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการกระทำด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ออกใบรับเงินไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษีอากร แต่เป็นความผิดตามมาตรา 105
การที่จำเลยขายของไม่ออกใบรับเงินนั้น เป็นเรื่องไม่กระทำ คือ ไม่ออกใบรับ มีบทบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะอยู่แล้วตามมาตรา 105 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 มาตรา 55 หาเป็นความผิดฐานหลีกเลียงการเสียภาษีอากรตามมาตรา 37 (2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 มาตรา 14 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการกระทำด้วยไม่
of 131