คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งไม่เปิดทำการ แต่ไม่มีเหตุอันสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน แต่ปรากฎว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน เนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฎว่า เครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง 10มีอยู่เพียงแผ่นเดียว เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งไม่ปรากฎว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่า หากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฎในคดี ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งที่มีการระงับการลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งเดียว ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลความชอบธรรมในการไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนแต่ปรากฏว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186 หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฏว่าเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง10 มีอยู่เพียงแผ่นเดียวเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งแต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งทั้งไม่ปรากฏว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่าหากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้วผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่วๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฏในคดียังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของพ.ร.บ.ล้างมลทินต่อการกักกันและการเพิ่มโทษของผู้กระทำผิดซ้ำ
ระหว่างฎีกามีพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสครบ 25 พุทธศตวรรษ2499 ออกใช้โทษที่จำเลยเคยรับมาก่อนเป็นอันไม่มีจึงกักกันจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษกักกันหลังคำพิพากษาถึงที่สุด โดยอาศัยกฎหมายที่บัญญัติขึ้นใหม่ที่เป็นคุณแก่จำเลย
การที่จะรื้อฟื้นเอาคำพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุดแล้วมาเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และมาตรา 3
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ถึง 16 ได้บัญญัติเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้และได้มี มาตรา41 บัญญัติถึงเงื่อนไขในการที่จะกักกันไว้ด้วยซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติกักกันฯ พ.ศ.2479 มาตรา8,9. ต้องนำบทบัญญัติ มาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่บัญญัติภายหลังเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษกักกันหลังคดีอาญาถึงที่สุด โดยอาศัยบทบัญญัติกฎหมายที่บัญญัติขึ้นใหม่ที่เป็นคุณแก่จำเลย
การที่จะรื้อฟื้นเอาคำพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว มาเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ถึง 16 ได้บัญญัติเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้และได้มี ม.41 บัญญัติถึงเงื่อนไขในการที่จะกักกันไว้ด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 ม.8,9 ต้องนำบทบัญญัติม.41 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่บัญญัติภายหลังเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมครอบครองที่ดินส่วนสัดไม่เกิน 10 ปี อ้างกรรมสิทธิ์ยันเจ้าของร่วมไม่ได้ ศาลแบ่งที่ดินให้ตามการครอบครอง
เจ้าของที่ดินร่วมในโฉนดคนหนึ่งครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัดแต่ไม่เกิน 10 ปี จะอ้างกรรมสิทธิ์ในส่วนนั้นยันเจ้าของร่วมอีกผู้หนึ่งไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2501)
เมื่อศาลเห็นสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลจะแบ่งที่ดินเป็นส่วนๆ ให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมแต่ละคนก็ได้โดยไม่สั่งให้เอาที่ดินออกขายแบ่งราคากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัดไม่เกิน 10 ปี ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ยันเจ้าของร่วมอื่นได้ ศาลแบ่งที่ดินให้ตามการครอบครองเดิมได้
เจ้าของที่ดินร่วมในโฉนดคนหนึ่งครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัดแต่ไม่เกิน 10 ปี จะอ้างกรรมสิทธิ์ในส่วนนั้นยันเจ้าของร่วมอีกผู้หนึ่งไม่ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2501)
เมื่อศาลเห็นสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลจะแบ่งที่ดินเป็นส่วน ๆ ให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ร่วมแต่ละคนก็ได้โดยไม่สั่งให้เอาที่ดินออกขายแบ่งราคากัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลูกสร้างอาคารชิดเขตที่ดินของผู้อื่น แม้ผิดเทศบัญญัติ แต่หากไม่ละเมิดสิทธิ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยปลูกตึกแถวชิดตึกแถวของโจทก์โดยได้รับอนุญาตจากเทศบาล แม้จะเป็นการผิดเทศบัญญัติ แต่ถ้ามิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์แล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิมาฟ้องขอให้รื้อถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พระราชบัญญัติล้างมลทิน 2499: ผลกระทบต่อการเพิ่มโทษผู้ต้องโทษซ้ำ
จำเลยที่ต้องคำพิพากษาให้เพิ่มโทษมาตั้งแต่ยังไม่มีพระราชบัญญัติล้างมลทิน 2499 นั้น ต่อมามีพระราชบัญญัติล้างมลทิน2499 จำเลยที่ฎีกา แม้จะไม่ได้ฎีกาในข้อนี้ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยไม่เพิ่มโทษจำเลยนั้นได้
พระราชบัญญัติล้างมลทิน 2499 มาตรา 3 ย่อมไม่มีความหมายกินถึงผู้ที่รอการลงโทษไว้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 41 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยไม่มีเอกสารต้นฉบับจริง ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและสมรู้ร่วมคิด
เสมียนตรวจคนเข้าเมืองประจำอำเภอซึ่งมีหน้าที่ทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และปลัดอำเภอซึ่งมีหน้าที่เซ็นใบสำคัญ ได้จัดทำใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวออกให้ไปโดยรู้อยู่ว่าไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตัวจริง ย่อมเป็นการปลอมหนังสือตาม มาตรา 230
จำเลยผู้เป็นคนต่างด้าวแต่ไม่มีใบสำคัญประจำตัวอยู่ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ออกใบแทนใบสำคัญ เพื่อที่จะให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในการทำใบสำคัญจัดทำใบแทนใบสำคัญให้โดยรู้อยู่ว่าใบสำคัญตัวจริงไม่มีอยู่ ดังนี้ นับว่าเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งจัดทำใบแทนใบสำคัญให้โดยรู้อยู่ว่าไม่มีใบสำคัญตัวจริงจัดว่าเป็นการสมรู้ด้วยการกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้จัดออกใบแทนใบสำคัญดังกล่าวแล้วด้วย
of 131