คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ถือว่าจำเลยมีความผิดไปด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิดกฎหมาย และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเราไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตามกฎหมายและจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางการจับกุม: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ผูกพันจำเลย หากไม่มีเจตนาสมคบหรือรู้เห็นร่วมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิด ก.ม.และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธ ครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเรา ไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตาม ก.ม.และจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213-1215/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินของบริษัท: นิติกรรมสมบูรณ์เมื่อทำตามข้อบังคับและอยู่ในวัตถุประสงค์
เอกสารสัญญากู้ซึ่งบริษัทจำกัดอันเป็นนิติบุคคลกู้เงินบุคคลอื่นมาหมุนเวียนในธุรกิจการค้า โดยทางกรรมการของบริษัทที่กระทำไปโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่และข้อบังคับ ทั้งข้อบังคับก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืม ย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทจึงเป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตามกฎหมาย หาใช่เป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์หรือส่วนตัวกรรมการผู้นั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213-1215/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินของบริษัท: นิติกรรมถูกต้องหากอยู่ในวัตถุประสงค์และอำนาจกรรมการ
เอกสารสัญญากู้ซึ่งบริษัทจำกัดอันเป็นนิติบุคคลกู้เงินบุคคลอื่นมาหมุนเวียนในธุระกิจการค้าโดยทางกรรมการของบริษัทที่กระทำไปโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่และข้อบังคับทั้งข้อบังคับก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืมย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทจึงเป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตาม ก.ม.หาใช่เป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์ หรือส่วนตัวกรรมการผู้นั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับเหมาผิดสัญญาเนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ และมิอาจถือประโยชน์จากการที่ผู้ว่าจ้างดำเนินการเอง
เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต้องจัดหาสิ่งก่อสร้างและให้คนงานทำ ครั้นตอนหลังไม่สามารถชำระค่าแรงแก่ผู้ก่อสร้างก็แปลว่าหยุดงานได้ กับทั้งไม่มีเงินซื้อสิ่งของที่จะก่อสร้างต่อไป ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้รับเหมาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดสัญญาที่ไม่ทำการให้เสร็จตามสัญญา
ในกรณีที่ผู้รับเหมาผิดสัญญาแล้วจนผู้ว่าจ้างจัดหาสิ่งก่อสร้างและจ่ายค่าจ้างแก่ผู้ก่อสร้างที่เขาเคยจ้างไว้ต่อไปเช่นนี้ ผู้รับเหมานั้นหาอาจถือเอาประโยชน์มาเป็นการกระทำของตนได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับเหมาผิดสัญญาเนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ แม้จำเลยจะจัดหาสิ่งก่อสร้างและจ่ายค่าแรงแทน
เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต้องจัดหาสิ่งก่อสร้างและให้คนงานทำ ครั้นตอนหลังไม่สามารถชำระค่าแรงแก่ผู้ก่อสร้างก็แปลว่าหยุดงานได้ กับทั้งไม่มีเงินซื้อสิ่งของที่จะก่อสร้างต่อไป ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้รับเหมาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดสัญญาที่ไม่ทำการให้เสร็จตามสัญญา
ในกรณีที่ผู้รับเหมาผิดสัญญาแล้วจนผู้ว่าจ้างจัดหาสิ่งก่อสร้างและจ่ายค่าจ้างแก่ผู้ก่อสร้างที่เขาเคยจ้างไว้ต่อไปเช่นนี้ผู้รับเหมานั้นหาอาจถือเอาประโยชน์มาเป็นการกระทำของตนได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินและไถ่ถอนจำนอง: การตีความกำหนดเวลาตามสัญญา
เมื่อสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยข้อ 3 กล่าวว่า "ฝ่ายที่ 2 (คือจำเลย) สัญญาจะทำการไถ่ถอนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโฉนดเลขที่ 597 และโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ฝ่ายที่ 1 ให้เป็นกรรมสิทธิ์ให้เป็นการเสร็จสิ้นใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญานี้ " ส่วนข้อความอีกตอนหนึ่งท้ายสัญญามีว่า " และได้ลงนามไว้ในหนังสือมอบอำนาจของหอทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นก่อนหรือหลังกำหนด 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้"
ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 597 ภายใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญาจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้ว เพราะเห็นได้ว่าก่อนหรือหลัง 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้ " นั้น ย่อมหมายความแต่เฉพาะเรื่องการลงนามในหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น มิได้มุ่งหวังว่าจำเลยจะทำการไถ่ถอนจำนองภายหลัง 4 เดือนนานเท่าใดก็ได้
ส่วนข้อที่โจทก์จำเลยร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายวัทธนาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากโฉนดที่ 597 ภายหลังกำหนด 4 เดือนนั้น ก็เป็นเรื่องที่ร่วมกันฟ้องผู้อื่นโดยเหตุที่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันในโฉนด เป็นคนละเรื่องกับความยินยอมเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอนการจำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาซื้อขายที่ดินและการไถ่ถอนจำนอง การลงนามมอบอำนาจไม่ใช่การขยายเวลาไถ่ถอน
เมื่อสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยข้อ 3 กล่าวว่า "ฝ่ายที่ 2(คือ จำเลย) สัญญาจะทำการไถ่ถอนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโฉนดเลขที่ 597 และโอนกรรสิทธิให้แก่ฝ่ายที่ 1 ให้เป็นกรรมสิทธิให้เป็นการเสร็จสิ้นใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญานี้" ส่วนข้อความอีกตอนหนึ่งท้ายสัญญามีว่า "และได้ลงนามไว้ในหนังสือมอบอำนาจของหอทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นก่อนหรือหลังกำหนด 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้"
ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 597 ภายใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญาจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้วเพราะเห็นได้ว่าก่อนหรือหลัง 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้ " นั้นย่อมหมายความแต่เฉพาะเรื่องการลงนามในหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น มิได้มุ่งหวังว่าจำเลยจะทำการไถ่ถอนจำนองภายหลัง 4 เดือนนานเท่าใดก็ได้
ส่วนข้อที่โจทก์จำเลยร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายวัทธนา ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากโฉนดที่ 597 ภายหลังกำหนด 4 เดือน นั้นก็เป็นเรื่องที่ร่วมกันฟ้องผู้อื่นโดยเหตุที่มีชื่อถือกรรมสิทธิร่วมกันในโฉนด เป็นคนละเรื่องกับความยินยอมเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอนการจำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษพยายามฆ่าและการเพิ่มโทษจำเลยที่เคยกระทำผิดซ้ำ จำเป็นต้องกำหนดโทษสำเร็จก่อนลดฐาน
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายนั้น ศาลต้องกำหนดโทษจำเลยอย่างกระทำผิดสำเร็จก่อนแล้วจึงลดฐานพยายามตาม กฎหมายอาญามาตรา 60 เมื่อมีเหตุจะต้องเพิ่มโทษจำเลยจึงให้เพิ่มทีหลัง จะเอาเหตุเพิ่มโทษมาหักกลบลบกับโทษฐานพยายามไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษพยายามฆ่าและการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ศาลต้องกำหนดโทษสำเร็จก่อนลดฐานพยายาม และเพิ่มโทษทีหลังห้ามหักกลบลบกัน
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายนั้น ศาลต้องกำหนดโทษจำเลยอย่างกระทำผิดสำเร็จก่อนแล้วจึงลดฐานพยายามตาม ก.ม.อาญา ม.60 เมื่อมีเหตุจะต้องเพิ่มโทษจำเลยจึงให้เพิ่มทีหลัง จะเอาเหตุเพิ่มโทษมาหักกลบลบกับโทษฐานพยายามไม่ได้
of 131