คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1108/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามลักทรัพย์และการนับโทษต่อคดีอื่น แม้โจทก์มิได้กล่าวในคำฟ้อง
เมื่อจำเลยงัดประตูบ้านเจ้าทรัพย์และทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ยังไม่ทันเขยื้อนเพราะมีเหตุอันพ้นวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางมิให้กระทำลงสำเร็จโดยตำรวจตรวจเหตุการณ์มาพบและจับจำเลยได้เสียก่อน จำเลยจึงเอาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์เขยื้อนไปจากที่มิได้ การกระทำของจำเลยดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว
การขอให้นับโทษจำเลยติดต่อกับอีกคดีอื่นนั้น แม้โจทก์มิได้กล่าวในคำฟ้องหรือคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่ระหว่างพิจารณาโจทก์ได้ร้องขอและศาลได้สอบจำเลยๆ รับว่าเป็นความจริงแล้ว ศาลก็มีอำนาจนับโทษจำเลยติดต่อกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยืมเงินในหน้าที่ราชการต้องมีสัญญา การมอบหมายหน้าที่ไม่ทำให้เกิดความรับผิดในฐานผู้ยืม
ยืนตาม ก.ม.นั้นต้องเกิดขึ้นโดยสัญญา
โดยหน้าที่ราชการจำเลยที่ 1 ได้ยืมเงินทดลองไปจากกองคลังกรมไปรษณีย์เพื่อจ่ายในราชการอธิบดีรับรองข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ควรมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่รักษาเงิน
ดังนี้ใบยืมที่จำเลยที่ 1 เซ็นไว้จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานในวงราชการ การที่จำเลยที่ 1 ต้องเซ็นใบยิมก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติราชการ เพียงเท่านี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ยืมหรือตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้น และการร้องทุกข์ในคดีอาญาเกี่ยวกับเรือ
ข้อกฎหมายที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ไม่ทันในชั้นศาล และการร้องทุกข์ของผู้เช่าเรือที่ได้รับความเสียหาย
ข้อ ก.ม.ที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123,124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121 และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญามาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตฎีกาข้อเท็จจริงต้องยื่นก่อนหมดอายุฎีกา มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่คู่ความจะขอรับคำอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 นั้น จะต้องยื่นคำขอเสียก่อนที่จะพ้นกำหนดอายุฎีกา ถ้าหากยื่นคำร้องขอภายหลังแม้จะได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตฎีกาต้องยื่นภายในกำหนดอายุฎีกา หากยื่นหลังกำหนด แม้ได้รับอนุญาต ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้
การที่คู่ความจะขอรับคำอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม วิ.อาญา ม.221 นั้น จะต้องยื่นคำขอเสียก่อนที่จะพ้นกำหนดอายุฎีกา ถ้าหากยื่นคำร้องขอภายหลังแม้จะได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมเลิกเช่าและการสละสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ข้อตกลงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
จำเลยเช่าห้องโจทก์เพื่ออยู่อาศัยมีกำหนด 1 ปี และก่อนครบกำหนดตามสัญญาเช่าเล็กน้อยจำเลยมีหนังสือยินยอมแจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าว่าจะเลิกการเช่าและสละสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ในเมื่อถึงกำหนดสัญญาเช่า เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้รับความยินยอมจากจำเลยผู้เช่าตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมเลิกสัญญาเช่าและการสละสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
จำเลยเช่าห้องโจทก์เพื่ออยู่อาศัยมีกำหนด 1 ปี และก่อนครบกำหนดตามสัญญาเช่าเล็กน้อยจำเลยมีหนังสือยินยอมแจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าว่าจะเลิกการเช่า และสละสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 ในเมื่อถึงกำหนดสัญญาเช่า เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้รับความยินยอมจากจำเลยผู้เช่าตามความหมายแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 มาตรา 16 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกายกฟ้องคดีฆ่าคนตายและพกพาอาวุธปืน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แยกกะทงลงโทษจำคุกฐานฆ่าคนโดยเจตนากว่า 5 ปี และปรับฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลฎีกาไม่เชื่อว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายและปืนก็ไม่ใช่ของจำเลยและไม่ได้จับจากจำเลยศาลฎีกาย่อมพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีฆ่าคนตายและมีอาวุธปืน เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานยืนยันความผิดของจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แยกกระทงลงโทษจำคุกฐานฆ่าคนโดยเจตนากว่า 5 ปีและปรับฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลฎีกาไม่เชื่อว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายและปืนก็ไม่ใช่ของจำเลยและไม่ได้จับจากจำเลย ศาลฎีกาย่อมพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้
of 131