คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุทางอาญา: การใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเองที่เกินสมควร
ผู้ตายเมาสุราอาละวาดถือมีดไล่แทงผู้มีชื่อ ๆ หนีแอบข้างหลัง จำเลย ๆ ร้องขอห้าม ผู้ตายไม่ฟังจึงกอดคอจำเลยและแทงจำเลยถูกชายโครง จำเลยจึงแทงผู้ตายรวม 11 แผล ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นลักษณะของการป้องกัน แต่การกระทำเกินกว่าเหตุเข้าเกณฑ์ตาม ม.251,53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การแทงตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายและสถานการณ์ที่จำเลยต้องเผชิญ
ผู้ตายเมาสุราอาละวาดถือมีดไล่แทงผู้มีชื่อๆ หนีแอบข้างหลังจำเลยๆ ร้องขอห้าม ผู้ตายไม่ฟังจึงกอดคอจำเลยและแทงจำเลยถูกชายโครง จำเลยจึงแทงผู้ตายรวม 11 แผล ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นลักษณะของการป้องกัน แต่กระทำเกินกว่าเหตุเข้าเกณฑ์ตาม มาตรา 251,53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งวางประกันค่าฤชาธรรมเนียม แม้โจทก์อยู่ในอำนาจศาล หากมีเหตุเชื่อได้ว่าจะหลีกเลี่ยงชำระ
แม้โจทก์เป็นผู้ที่อยู่ในอำนาจศาล ถ้ามีเหตุอันแน่นแฟ้นอันเป็นที่เชื่อได้ว่า เมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหลาย ศาลก็มีอำนาจสั่งให้โจทก์วางเงินประกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนนำจับ: ต้องมีคำขอชัดเจนจากพนักงานอัยการ
ในเรื่องเงินค่าสินบนนำจับนี้เมื่อมิได้มีคำขอมาด้วยโดยแจ้งชัดเป็นแต่เพียงบรรยายฟ้องมาลอยๆ ว่ามีผู้ขอรับค่าสินบนนำจับ จะประสงค์อย่างไรมิได้ว่าไว้ดังนี้ก็ชอบที่ศาลจะไม่ให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนนำจับต้องมีคำขอชัดเจนจากอัยการ หากไม่มี ศาลไม่จำเป็นต้องบังคับให้จำเลยจ่าย
ในเรื่องเงินค่าสินบนนำจับนี้เมื่อมิได้มีคำขอมาด้วยโดยแจ้งชัดเป็นแต่เพียงบรรยายฟ้องมาลอย ๆ ว่ามีผู้ขอรับค่าสินบนนำจับ จะประสงค์อย่างไรมิได้ว่าไว้ดังนี้ ก็ชอบที่ศาลจะไม่ให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี, การคุ้มครองค่าเช่าสำหรับห้องที่ใช้ประกอบการค้า, และการรับฟังพยานภาพถ่าย
ได้ความว่าโจทก์ใช้แบบฟอร์มศาล(9 ทวิ) ใบมอบฉันทะเขียนเป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องความโดยเขียนระบุข้อความไว้ชัดเจนในเอกสารที่เขียนเป็นใบมอบอำนาจว่าให้ผู้มีชื่อเป็นผู้ฟ้องเรื่องนี้แทนโจทก์โดยมีข้อความว่า "ข้าพเจ้า ฯลฯ มอบอำนาจให้ (ระบุชื่อผู้รับมอบ) ทำการฟ้อง (ระบุชื่อผู้ถูกฟ้องฐาน ข้อหาที่ฟ้อง) ต่อศาลแทนข้าพเจ้าและให้ดำเนินคดีต่อไปจนถึงที่สุดเพราะข้าพเจ้าอยู่ต่างจังหวัดไม่สดวกที่จะมาดำเนินคดีได้ "ลงชื่อผู้มอบ ผู้รับมอบ และพยานและมีอากรแสตมป์ จำนวนเงิน 5 บาท ปิดในเอกสารนั้น เช่นนี้ถือว่าเป็นการมอบอำนาจที่สมบูรณ์ตาม ก.ม.แล้ว
ในกรณีที่โจทก์อ้างภาพถ่ายห้องพิพาทเป็นพยานถือว่าเป็นภาพจำลองไม่ใช่พยานเอกสารอันจะต้องส่งสำเนาให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยานดังบังคับไว้ใน ป.วิ.แพ่ง ม.90 ดังนั้นโจทก์ผู้อ้างจึงไม่ต้องส่งสำเนาให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี, การคุ้มครองค่าเช่าเมื่อเปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่า, และการรับฟังภาพถ่ายเป็นพยาน
ได้ความว่าโจทก์ใช้แบบฟอร์มศาล (9 ทวิ)ใบมอบฉันทะเขียนเป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องความโดยเขียนระบุข้อความไว้ชัดเจนในเอกสารที่เขียนเป็นใบมอบอำนาจว่าให้ผู้มีชื่อเป็นผู้ฟ้องเรื่องนี้แทนโจทก์โดยมีข้อความว่า 'ข้าพเจ้า ฯลฯ มอบอำนาจให้ (ระบุชื่อผู้รับมอบ) ทำการฟ้อง (ระบุชื่อผู้ถูกฟ้องฐาน ข้อหาที่ฟ้อง) ต่อศาลแทนข้าพเจ้าและให้ดำเนินคดีต่อไปจนถึงที่สุดเพราะข้าพเจ้าอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกที่จะมาดำเนินคดีได้ 'ลงชื่อผู้มอบ ผู้รับมอบและพยานและมีอากรแสตมป์จำนวนเงิน 5 บาทปิดในเอกสารนั้นเช่นนี้ถือว่าเป็นการมอบอำนาจที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
ในกรณีที่โจทก์อ้างภาพถ่ายห้องพิพาทเป็นพยานถือว่าเป็นภาพจำลองไม่ใช่พยานเอกสารอันจะต้องส่งสำเนาให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยานดังบังคับไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ดังนั้นโจทก์ผู้อ้างจึงไม่ต้องส่งสำเนาให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสิทธิเช่าเมื่อผู้เช่าขายฝากทรัพย์สินบนที่ดินเช่า และสิทธิของผู้รับโอนที่ดินในการบอกเลิกสัญญา
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวรของเคหะ เมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินเช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผุ้รับโอนที่ดิน (ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตาม ป.พ.พ. ม.566,569.570.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างเคหะ หากผู้เช่าขายฝากแล้วไม่ไถ่คืน สิทธิเช่าจะสิ้นสุดลง ผู้รับโอนมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขับไล่ได้
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯนั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวณของเคหะเมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้วผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินที่เช่าตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 มาตรา16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าผู้รับโอนที่ดิน(ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566,569,570

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการบังคับตามสัญญา แม้การรังวัดไม่เป็นไปตามวิธีที่ตกลง แต่เนื้อที่ตรงตามสัญญา
โจทก์จำเลยพิพาทกันในเรื่องที่ดินที่สุดได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมกันต่อศาลใจความสำคัญว่าตกลงให้เจ้าพนักงานที่ดินไปทำการรังวัดโดยวิธีปูโฉนดให้ได้เนื้อที่ 11 ไร่ 80 วา ให้เป็นของโจทก์ ส่วนที่เหลือให้เป็นของจำเลย
เจ้าพนักงานไปรังวัดแล้วรายงานต่อศาลว่าหาหมุดไม่พบไม่อาจทำการรังวัดโดยวิธีปูโฉนดได้ แต่ก็ได้ทำการรังวัดโดยวิธีอื่นและได้เนื้อที่ 11 ไร่ 80 วา ตามรายงานที่ส่งศาลโจทก์จำเลยมารับทราบและตรวจดูแผนที่แล้วได้แถลงร่วมกันขอให้เรียกผู้ทำแผนที่มาเบิกความเพื่อศาลจะได้คำนวณเนื้อที่ว่าตรงกับที่โจทก์จำเลยทำยอมไว้หรือไม่
เมื่อผู้ทำแผนที่มาเบิกความว่าแผนที่พิพาทมีเนื้อที่ 11 ไร่ 80 วาถูกต้องแล้วดังนี้จำนวนเนื้อที่ที่เจ้าพนักงานรังวัดโดยวิธีอื่นนี้อยู่ในข้อตกลงอันสืบเนื่องมาจากสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันนั่นเองชอบที่จะบังคับได้
of 131