คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสำคัญในความผิดฐานใช้แสตมป์ปลอม แม้แสตมป์ปลอมมาจากโรงงาน จำเลยไม่มีเจตนาถือว่าไม่มีความผิด
กฎหมายอาญา มาตรา 43 ถือว่าบุคคลใดกระทำการใดลงโดยเจตนาจึงจะเอาโทษหากกระทำโดยมิได้เจตนาแล้วก็บัญญัติไม่เอาโทษและหลักกฎหมาย ในข้อนี้ใช้ครอบมาถึงพระราชบัญญัติภาษีเครื่องดื่มพ.ศ. 2495ด้วยตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา11 แห่ง กฎหมายอาญาดังนั้นการที่จำเลยเป็นเจ้าของโรงงานน้ำอัดลมและปรากฏว่าขวดน้ำโซดาได้ปิดแสตมป์ปลอมออกไปจากโรงงานของจำเลยก็ดีหากยังมีทางสงสัยว่าจำเลยอาจได้แสตมป์นี้มาโดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นของปลอมแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานมีและใช้แสตมป์เครื่องดื่มปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดฐานใช้แสตมป์ปลอม และข้อยกเว้นความรับผิดตามกฎหมายอาญา ม.43
ก.ม.อาญา ม.43 ถือว่า++ใดกระทำการใดลงโดย++จึงจะเอาโทษ หากระทำโดยมิได้เจตนาแล้วก็บัญญัติไม่เอาและหลัก ก.ม.ในข้อในี้ใช้ครอบครอง พ.ร.บ.ภาษีและเครื่องดื่ม พ.ศ.2495 ด้วยตามที่บัญญัติไว้ใน ม.11 ก.ม.อาญา ดังนั้นการที่จำเลยเจ้าของโรงงานน้ำอัดลมและปรากฏว่าขวดน้ำโซดาได้ปิดแสตมป์++ออกไปจากโรงงานของจำเลย หากยังมีทางสงสัยว่าจำเลยอาจได้แสตมป์นี้มาโดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นของปลอมแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานมีและใช้แสตมป์เครื่องดื่มปลอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์และสนับสนุนการยิงผู้เสียหาย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีสาเหตุกับผู้เสียหายวันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึงเมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็ไม่ห้ามครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่ายิงเรื่องอะไรจำเลยกลับพูดว่าวันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งจำเลยที่ 2 รู้และเห็นจำเลยที่ 1 มีปืนมาในขณะนั้นดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้ง 2 มีเจตนาร่วมกันในอันที่จะกระทำแก่ผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุนก่อนแล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนภายในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกันจำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่ไม่ได้ห้ามการยิง และแสดงเจตนาทำร้าย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีเหตุกับผู้เสียหาย วันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึง เมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ไม่ห้าม ครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่าเรื่องอะไร จำเลยกลับพูดว่า วันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งที่จำเลยที่ 2 รู้และเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีปืนในขณะนั้น ดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้งสองเจตนาร่วมกันในอันที่กระทำแก่ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุน แล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกัน จำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าโดยเจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินที่มีข้อพิพาทเรื่องการครอบครองก่อนการจดทะเบียน การเสี่ยงรับซื้อทราบข้อพิพาท
โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนการโอนแล้ว และว่าจำเลยได้ครอบครองปรปักษ์มาเมื่อ 5-6 ปีจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยครอบครองมากว่า 10 ปี แม้จำเลยจะมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริตจำเลยก็นำสืบว่าจำเลยได้ครอบครองปรปักษ์มาตั้งแต่เจ้าของเดิมกว่า 10 ปีแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินที่มีการโต้แย้งกรรมสิทธิเดิม ผู้ซื้อทราบข้อเท็จจริงแต่ยังซื้อ โจทก์ต้องพิสูจน์ความสุจริต
โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนการโอนแล้ว และว่าจำเลยได้ครอบครองปรปักษ์มาเมื่อ 5 - 6 ปี จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยครอบครองมากว่า 10 ปี แม้จำเลยจะมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์รับโอนมาโดยไม่สุจริตจำเลยก็นำสืบว่าจำเลยได้ครอบครองปรปักษ์มาตั้งแต่เจ้าของเดิมกว่า 10 ปีแล้วได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีมรดกของผู้เยาว์และการหมดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์มีมารดาเป็นผู้เทนโดยชอบธรรมมารดาของทายาทผู้เยาว์มิได้ฟ้องคดีมรดกเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตาย ต่อมาเมื่อผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้วจะมาฟ้องคดีมรดกเองหาได้ไม่ เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ. ม.183.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีมรดกโดยผู้เยาว์ผ่านผู้แทนโดยชอบธรรมมีกำหนดเวลาฟ้อง หากพ้นกำหนดสิทธิขาดสิ้น
เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์มีมารดาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมารดาของทายาทผู้เยาว์มิได้ฟ้องคดีมรดกเสียภายในกำหนด1 ปีนับแต่วันเจ้ามรดกตายต่อมาเมื่อผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้วจะมาฟ้องคดีมรดกเองหาได้ไม่เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา183

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่: ผู้เช่าเดิมครอบครองก่อนทำสัญญาเช่าใหม่ มีผลต่ออำนาจฟ้องหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าแผงลอยจากกรมประชาสงเคราะห์ จำเลยอาศัย ขอให้ขับไล่จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้อาศัยและต่อสู้ว่าจำเลยอยู่ในแผงลอยรายพิพาทมาก่อนเวลาที่โจทก์อ้างว่าเช่าจากกรมประชาสงเคราะห์เช่นนี้ถ้าเป็นจริงอย่างที่จำเลยต่อสู้โจทก์ชอบจะฟ้องกรมประชาสงเคราะห์ ที่ไม่สามารถส่งมอบแผงลอยรายพิพาทให้โจทก์ได้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์และมิได้เช่าแทนจำเลยพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ว่าแม้จะฟังว่าโจทก์ทำสัญญาเช่าเพื่อตนเองโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพราะจำเลยครอบครองแผลลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่าดังนี้อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ว่าถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยครอบครองแผงลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์โจทก์จะมีอำนาจฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยหรือไม่อุทธรณ์ข้อนี้จำเลยมิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่าโจทก์เป็นผู้เช่าแทนจำเลยอุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่: ผู้เช่าไม่มีสิทธิฟ้องผู้ครอบครองก่อนทำสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าแผงลอยจากกรมประชาสงเคราะห์ จำเลยอาศัย ขอให้ขับไล่ จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้อาศัยและต่อสู้ว่าจำเลยอยู่ในแผงลอยรายพิพาทมาก่อนเวลาที่โจทก์อ้างว่าเช่าจากกรมประชาสงค์เคราะห์เช่นนี้ถ้าเป็นจริงอย่างที่จำเลยต่อสู้ โจทก์ชอบจะฟ้องกรมประชาสงเคราะห์ ที่ไม่สามารถส่งมอบแผงลอยรายพิพาทให้โจทก์ได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์และมิได้เช่าแทนจำเลย พิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์แม้จะฟังว่าโจทก์ทำสัญญาเช่าเพื่อตนเอง โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย เพราะจำเลยครอบครองแผงลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่า ดังนี้อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ว่าถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยครอบครองมาแผงลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์ โจทก์จะมีอำนาจฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยหรือไม่ อุทธรณ์ข้อนี้จำเลยมิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่าโจทก์เป็นผู้เช่าแทนจำเลย อุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.224.
of 131