พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีโกงเจ้าหนี้: สิทธิฟ้องไม่ระงับหากคดีเดิมยังไม่ถึงที่สุด
ผู้เสียหายคนหนึ่งฟ้องจำเลยฐานโกงเจ้าหนี้ต่อสาลชั้นต้นศาลหนึ่ง ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งฟ้องจำเลยในความผิดเดียวกันต่อศาลชั้นต้นอีกศาลหนึ่งการที่ศาลในคดีแรกพิพากษายกฟ้อง แต่ผู้เสียหายอุทธรณ์และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์นั้น ไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญาของผู้เสียหายในคดีหลังมาฟ้องระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) เพราะหาใช่เป็นกรณีที่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องนั้นไม่ คดีก่อนยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาฟ้องแย้ง: ศาลต้องรับไว้พิจารณาก่อน หากเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจำเลยจะชนะหรือไม่
ศาลต้องพิจารณาฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม-วรรคสี่ คือ เป็นแต่เพียงตรวจคำคู่ความว่าจะรับฟ้องแย้งหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเกี่ยวกับฟ้องเดิมก็ต้องรับไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยยกฟ้องแย้งเสีย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลต้องรับฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมไว้พิจารณา ไม่ควรรีบวินิจฉัยยกฟ้อง
ศาลต้องพิจารณาฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรค 3-4 คือ เป็นแต่เพียงตรวจคำคู่วามว่าจะรับฟ้องแย้งหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเกี่ยวกับฟ้องเดิมก็ต้องรับไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยยกฟ้องแย้งเสีย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน โอนให้ผู้ซื้อที่ครอบครองก่อนมีสิทธิเหนือกว่า
การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กันเองนั้น กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันทีแล้ว หาจำต้องจดทะเบียนโอนกันเสียก่อนไม่ เพราะกฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ ไม่ใช่เป็นแบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
เมื่อจำเลยทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กับเจ้าของ พร้อมชำระราคาและรับมอบการครอบครองไว้โดยสุจริตแล้วก่อนโจทก์ จำเลยก็ย่อมมีสิทธิในรถยนต์ยิ่งกว่าโจทก์
เมื่อจำเลยทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กับเจ้าของ พร้อมชำระราคาและรับมอบการครอบครองไว้โดยสุจริตแล้วก่อนโจทก์ จำเลยก็ย่อมมีสิทธิในรถยนต์ยิ่งกว่าโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวบังคับจำนองต้องระบุระยะเวลาชัดเจน เพื่อให้พิจารณาความเหมาะสมของระยะเวลาได้
โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยเพียงว่าให้จำเลยชำระเงินและไถ่ถอนการจำนองเสียภายในเร็ววันที่สุดนั้นเห็นได้ว่าไม่ได้กำหนดให้ไถ่ถอนการจำนองเมื่อใด เอาความแน่นอนในการที่จะพิเคราะห์ว่าภายในเวลาอันสมควรหรือไม่ ไม่ได้ จึงไม่เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบอกกล่าวบังคับจำนองต้องระบุระยะเวลาชำระหนี้ที่แน่นอน การกำหนดแค่ 'เร็ววันที่สุด' ถือไม่ชอบ
โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยเพียงว่า ให้จำเลยชำระเงินและไถ่ถอนการจำนองเสียภายในเร็ววันที่สุดนั้น เห็นได้ว่า ไม่ได้กำหนดให้ไถ่ถอนการจำนองเมื่อใด เอาความแน่นอนในการที่จะพิเคราะห์ว่าภายในเวลาอันสมควรหรือไม่ไม่ได้ จึงไม่เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2506)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินมือเปล่า การแย่งการครอบครอง และการหมดสิทธิเรียกร้องคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้ที่อ้างสิทธิตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 จำต้องแสดงให้เห็นว่าที่ดินนั้นเป็นที่บ้านที่สวนตามความหมายในบทนั้น ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นได้ว่าเป็นที่บ้านที่สวน มาก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วก็จำต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันว่าด้วยที่ดินมือเปล่า
การที่จำเลยร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิจารณากรณีพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินว่าโจทก์บุกรุกแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่านั้น ไม่ทำให้การครอบครองของโจทก์สะดุดหยุดลง ฉะนั้น หากจำเลยมิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเสียภายใน 1 ปีจำเลยก็ย่อมหมดสิทธิเรียกร้องคืนแล้ว
การที่จำเลยร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิจารณากรณีพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินว่าโจทก์บุกรุกแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่านั้น ไม่ทำให้การครอบครองของโจทก์สะดุดหยุดลง ฉะนั้น หากจำเลยมิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเสียภายใน 1 ปีจำเลยก็ย่อมหมดสิทธิเรียกร้องคืนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่าต้องพิสูจน์สภาพ 'บ้านสวน' ก่อนประมวลกฎหมายแพ่งฯ หากถูกแย่งการครอบครองต้องฟ้องภายใน 1 ปี
ผู้ที่อ้างสิทธิตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 จำต้องแสดงให้เห็นว่าที่ดินนั้นเป็นที่บ้านที่สวนตามความหมายในกฎหมายบทนั้น ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นได้ว่าเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อน ประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ก็จำต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันว่าด้วยที่ดินมือเปล่า
การที่จำเลยร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิจารณากรณีพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินว่าโจทก์บุกรุกแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่านั้น ไม่ทำให้การครอบครองของโจทก์สะดุดหยุดลง ฉะนั้น หากจำเลยมิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเสียภายใน 1 ปี จำเลยก็ย่อมหมดสิทธิเรียกร้องคืนแล้ว
การที่จำเลยร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิจารณากรณีพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินว่าโจทก์บุกรุกแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่านั้น ไม่ทำให้การครอบครองของโจทก์สะดุดหยุดลง ฉะนั้น หากจำเลยมิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเสียภายใน 1 ปี จำเลยก็ย่อมหมดสิทธิเรียกร้องคืนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินหลังสัญญาซื้อขาย & ค่าเสียหายจากการขัดขวางการใช้สิทธิ
การที่โจทก์ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยที่สัญญาซื้อขายให้ตกลงกันว่าให้โจทก์มีสิทธิครอบครองได้ทันที และได้ส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นเรียบร้อยแล้ว แม้โจทก์จะยังไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินตามข้อสัญญาดังกล่าวได้
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้อง พฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้นโจทก์พึงได้รับเฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้อง พฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้นโจทก์พึงได้รับเฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินหลังสัญญาซื้อขาย การละเมิดสิทธิโดยการขัดขวางการใช้ประโยชน์ และการคำนวณค่าเสียหายที่เหมาะสม
การที่โจทก์ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยที่สัญญาซื้อขายมีข้อตกลงกันว่าให้โจทก์มีสิทธิครอบครองได้ทันที และได้รับส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นเรียบร้อยแล้ว แม้โจทก์จะยังไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินตามข้อสัญญาดังกล่าวได้
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้องพฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้น โจทก์พึงได้รับแต่เฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้องพฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้น โจทก์พึงได้รับแต่เฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น