คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1719

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 213 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5524/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกโดยผู้จัดการร่วม กรณีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันได้ และสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลบัญชี
การที่จะขอให้ศาลชี้ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1726 ได้นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ผู้จัดการมรดกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันแล้วมีความเห็นแตกต่างกันจนไม่สามารถจัดการมรดกได้ และเกิดมีเสียงเท่ากัน การที่ผู้ร้องอ้างว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันละเลยเพิกเฉยไม่ยอมเข้าปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับผู้ร้องในอันที่จะจัดการมรดกนั้น มิใช่เป็นกรณีที่จะมาขอให้ศาลชี้ขาดตามบทบัญญัติดังกล่าวได้
ผู้จัดการมรดกจะมาร้องขอให้ศาลออกคำสั่งเรียกให้ธนาคารส่งและแจ้งบัญชีเงินฝากรวมทั้งหลักฐานการเบิกถอนและสรรพเอกสารที่เกี่ยวข้องของผู้ตายหรือของผู้คัดค้านต่อศาลเพื่อให้ตนตรวจสอบหาได้ไม่ เป็นเรื่องที่ผู้จัดมรดกจะต้องดำเนินการเองตามสิทธิและหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4320/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกสินสมรสหลังการเสียชีวิต โดยพิจารณาจากสัดส่วนสินสมรสและส่วนแบ่งทายาท
จำเลยกับนายม้วนเป็นสามีภริยากันตั้งแต่ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 จึงเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่ดินที่ได้มาระหว่างที่จำเลยกับนายม้วนเป็นสามีภริยากันจึงเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับนายม้วน เมื่อนายม้วนตายต้องแบ่งสินสมรสตามกฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งจำเลยได้ 1 ส่วน นายม้วนได้ 2 ส่วน ส่วนของนายม้วนตกแก่ทายาททั้งหมดคือจำเลยในฐานะภริยาและทายาทอื่นรวมทั้งหมด 8 คน
พฤติการณ์ของจำเลยแสดงให้เห็นว่า การที่จำเลยลงชื่อรับมรดกที่ดินนั้นเป็นการครอบครองมรดกไว้แทนทายาทอื่น ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังทายาทว่าไม่เจตนาจะยึดถือหรือครอบครองที่ดินแปลงนี้แทนทายาทอื่นอีกต่อไป โจทก์จึงฟ้องในนามของทายาทขอให้แบ่งมรดกได้ไม่ขาดอายุความ
คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ขอให้แบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 671 ให้ทายาทคือนายเหมือนกับพวกตามส่วน แต่ระหว่างพิจารณาจำเลยและนายเหมือนกับพวกได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีอื่นว่า "ค่าที่ดินแปลงที่พิพาทนี้ในส่วนยอดเงินแคชเชียร์เช็คจำนวน 289,428 บาท ซึ่งมีชื่อนางเผือก ลำใย จำเลย และนายเหมือนผู้ร้องสอด เงินจำนวนนี้เป็นยอดเงินซึ่งจำเลยและผู้ร้องสอดมีข้อพิพาทกันในคดีแพ่งที่ 221/2527 (คือคดีนี้) ซึ่งหากคดีแพ่ง 221/2527 ถึงที่สุดว่าใครเป็นผู้มีสิทธิ ผู้นั้นจะเป็นผู้รับเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยไป" เมื่อศาลพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่จำต้องแก้ไขคำขอท้ายฟ้องในคดีนี้ เพราะไม่ทำให้ผลของการวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นถือเสมือนว่าเป็นข้อตกลงในการบังคับคดีเกี่ยวกับคำขอบังคับของโจทก์และเป็นข้อตกลงที่ไม่เกินส่วนที่ขอไว้ตามคำขอเดิม ศาลจึงพิพากษาให้ได้ไม่เป็นการเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2983/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมรดก: ต้องเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง และระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่ครอบครอง
ที่ดินมรดกซึ่งมีผู้จัดการมรดกตามคำสั่งของศาลนั้น เมื่อยังรับฟังไม่ได้ว่าได้มีการแบ่งแยกกันครอบครองเป็นสัดส่วน ต้องฟังว่าที่ดินมรดกยังอยู่ในระหว่างจัดการมรดกและถือว่าบรรดาทายาทที่ครอบครองที่ดินแปลงนี้อยู่ซึ่งรวมทั้งผู้ร้องที่ 1 เป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นด้วย หาใช่ครอบครองเพื่อตนเองไม่ ดังนั้น ผู้ร้องที่ 1จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมรดกโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ร้องที่ 2 ได้ซื้อที่ดินมรดกซึ่งรวมทั้งที่ดินพิพาทจากผู้ร้องที่ 1 โดยทำสัญญาซื้อขายกันเอง และผู้ร้องที่ 2 ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา แต่นับถึงวันยื่นคำร้องคดีนี้ยังไม่ถึง 10ปี ดังนี้ ผู้ร้องที่ 2 ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่จัดการมรดกตามกฎหมาย แต่ศาลต้องไต่สวนเมื่อมีข้อกล่าวหาการจัดการที่ไม่ถูกต้อง
ผู้จัดการมรดกอาจกระทำการตามหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาท
คำร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้จัดการมรดกไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและจัดการแบ่งปันมรดกไม่ถูกต้อง เมื่อปรากฏจากบัญชีเครือญาติว่าเจ้ามรดกมีทายาทโดยธรรม 9 คน แต่ผู้จัดการมรดกแถลงรับต่อศาลว่าแบ่งมรดกให้ทายาทเพียง 8 คน โดยไม่แจ้งเหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาทอีกคนหนึ่งศาลต้องไต่สวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า การจัดการมรดกถูกต้องและเป็นการละเลยไม่กระทำการตามหน้าที่หรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวน ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการมรดกมีอำนาจจัดการโดยไม่ต้องยินยอมทายาท แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและแบ่งมรดกให้ถูกต้อง
ผู้จัดการมรดกอาจกระทำการตามหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากทายาท คำร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้จัดการมรดกไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและจัดการแบ่งปันมรดกไม่ถูกต้อง เมื่อปรากฏจากบัญชีเครือญาติว่าเจ้ามรดกมีทายาทโดยธรรม9 คน แต่ผู้จัดการมรดกแถลงรับต่อศาลว่าแบ่งมรดกให้ทายาทเพียง8 คน โดยไม่แจ้งเหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาทอีกคนหนึ่งศาลต้องไต่สวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า การจัดการมรดกถูกต้องและเป็นการละเลยไม่กระทำการตามหน้าที่หรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวน ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกไม่ถูกต้อง การงดไต่สวนคำคัดค้านที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ศาลชั้นต้นตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องอ้างว่า ผู้ร้องไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและจัดการแบ่งปันมรดกไม่ถูกต้อง ผู้ร้องแถลงรับต่อศาลตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 22 กันยายน 2529 ว่า เจ้ามรดกมีทายาท 9 คนแต่แบ่งมรดกให้ทายาทเพียง 8 คน โดยไม่แจ้งเหตุผลว่า เหตุใดจึงไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความไว้ตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวยังไม่บริบูรณ์การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการไต่สวนคำร้อง ของ ผู้คัดค้านจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเพราะการจัดการมรดกของผู้ร้องจะถูกต้องและเป็นการละเลยไม่ทำการตามหน้าที่หรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านต้องนำสืบให้ปรากฏควรที่ศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนต่อไปให้สิ้นกระแสความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การงดไต่สวนคำคัดค้านที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ศาลชั้นต้นตั้ง ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องอ้างว่าผู้ร้องไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมายและจัดการแบ่งปันมรดกไม่ถูกต้อง ผู้ร้องแถลงรับต่อ ศาลตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า เจ้ามรดกมีทายาท 9 คนแต่ แบ่งมรดกให้ทายาทเพียง 8 คน โดย ไม่ แจ้ง เหตุผลว่า เหตุใดจึงไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความไว้ตาม รายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวยังไม่บริบูรณ์การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการไต่สวนคำร้อง ของ ผู้คัดค้าน จึงไม่ชอบด้วย กระบวนพิจารณา เพราะการจัดการมรดกของผู้ร้องจะถูกต้องและเป็นการละเลยไม่ทำการตาม หน้าที่หรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านต้อง นำสืบให้ปรากฏ ควรที่ศาลชั้นต้นต้องดำเนิน กระบวนพิจารณาไต่สวนต่อไปให้สิ้นกระแสความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในการเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์มรดกที่ตกเป็นโมฆียะ
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่จะต้องนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของเจ้ามรดก นิติกรรมการโอนเป็นโมฆียะกรรมที่โจทก์ได้บอกล้างแล้ว การบอกล้างโมฆียะกรรมของโจทก์ตลอดจนการนำคดีมาฟ้องเป็นการกระทำอันจำเป็นเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรมของเจ้ามรดก เพื่อที่จะนำทรัพย์มรดกมาแบ่งปันให้แก่ทายาทเป็นการใช้สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1719 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในการเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่จะต้องนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของเจ้ามรดก นิติกรรมการโอนเป็นโมฆียะกรรมที่โจทก์ได้บอกล้างแล้ว การบอกล้างโมฆียะกรรมของโจทก์ตลอดจนการนำคดีมาฟ้องเป็นการกระทำอันจำเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรมของเจ้ามรดก เพื่อที่จะนำทรัพย์มรดกมาแบ่งปันให้แก่ทายาทเป็นการใช้สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1719 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในการเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์มรดกที่เป็นโมฆียะตามพินัยกรรม
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่จะต้องนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทของเจ้ามรดก นิติกรรมการโอนเป็นโมฆียะกรรมที่โจทก์ได้บอกล้างแล้ว การบอกล้างโมฆียะกรรมของโจทก์ตลอดจนการนำคดีมาฟ้องเป็นการกระทำอันจำเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรมของเจ้ามรดก เพื่อที่จะนำทรัพย์มรดกมาแบ่งปันให้แก่ทายาทเป็นการใช้สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1719โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.
of 22