คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทัศนีย์ จั่นสัญจัย ธรรมเกณฑ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10105/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายหลังชำระหนี้แทนลูกหนี้ สิทธิในการรับชำระหนี้จะตกเป็นของผู้รับช่วงสิทธิเดิม
เจ้าหนี้เป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้ต่อธนาคาร ก. เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่เจ้าหนี้อาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 101 ปรากฏว่าธนาคาร ก. ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้ไว้เต็มจำนวนแล้ว เจ้าหนี้จึงขอรับชำระหนี้ไม่ได้เพราะต้องด้วยข้อยกเว้นตาม มาตรา 101 วรรคหนึ่งตอนท้าย และวรรคสอง การที่เจ้าหนี้ชำระหนี้ให้แก่ธนาคาร ก. ตามหนังสือค้ำประกันถึงแม้มีผลให้เจ้าหนี้เข้ารับช่วงสิทธิของธนาคาร ก. บรรดามีเหนือลูกหนี้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 693 แต่เจ้าหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้หลังพ้นกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้แล้ว ดังนี้ ขณะยื่นคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้จึงยังไม่ได้รับช่วงสิทธิที่จะมาขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้โดยอาศัยคำขอรับชำระหนี้เดิมของเจ้าหนี้ได้ การรับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ในกรณีนี้เจ้าหนี้ชอบที่จะต้องเข้ารับช่วงสิทธิของธนาคาร ก. ในส่วนที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10059/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางอาคารชุด: เจ้าของร่วมมีหน้าที่ชำระ แม้ไม่ได้รับบริการที่จอดรถ
พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 มาตรา 18 (เดิม) ที่ใช้บังคับในขณะนั้นบัญญัติว่า "เจ้าของร่วมต้องร่วมกันออกค่าใช้จ่ายที่เกิดจากบริการส่วนรวม และที่เกิดจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ตามส่วนแห่งประโยชน์ที่มีต่อห้องชุด... เจ้าของร่วมต้องร่วมกันออกค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลรักษาและการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์ส่วนกลาง..." และตามข้อบังคับนิติบุคคลโจทก์ กำหนดให้เจ้าของร่วมต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางด้วยเช่นกัน ดังนั้น จำเลยจึงมีหน้าที่ตามกฎหมายและข้อบังคับที่จะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลาง มิใช่หน้าที่ที่เกิดจากสัญญา จึงไม่ใช่เรื่องสัญญาต่างตอบแทน เมื่อไม่ปรากฏข้อสัญญายกเว้นการชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางไว้เป็นพิเศษ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ไม่จัดสถานที่จอดรถในอาคารชุดให้เป็นข้ออ้างว่าจำเลยมีสิทธิไม่ชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลาง โดยถือว่าเป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9923/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายและครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ศาลฎีกาแก้ไขโทษให้ลงโทษปรับด้วยตามกฎหมายยาเสพติด
โจทก์บรรยายฟ้องมาแล้วว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 115 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเมทแอมเฟตามีนจำนวน 115 เม็ด ดังกล่าว คำนวณสารบริสุทธิ์ได้ 3.116 กรัม เมื่อปรากฏว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 15 เม็ด ที่จำเลยจำหน่ายให้แก่สายลับเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนจำนวน 115 เม็ด ที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย ดังนั้น จึงย่อมสามารถคำนวณหาสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีนจำนวน 15 เม็ด โดยคำนวณเทียบกับปริมาณสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีนจำนวน 115 เม็ด ซึ่งคำนวณแล้ว เป็นสารบริสุทธิ์ 0.406 กรัม ซึ่งเกินกว่าสามร้อยเจ็ดสิบห้ามิลลิกรัม แต่ไม่ถึงยี่สิบกรัม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง ซึ่งตามมาตรา 100/1 บัญญัติว่า ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษจำคุกและปรับ ให้ศาลลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ โดยคำนึงถึงการลงโทษในทางทรัพย์สินเพื่อป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ลงโทษจำคุกจำเลยฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ลงปรับด้วยนั้น จึงไม่ถูกต้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 แต่โจทก์มิได้ฎีกาในปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกาไม่อาจพิพากษาลงโทษปรับจำเลยได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยซึ่งต้องห้ามตาม ป.อ. มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8746/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งพนักงานไปปฏิบัติงานที่บริษัทลูกหนี้: การให้บริการตามกฎหมาย
ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 77/2 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "การกระทำกิจการดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามบทบัญญัติในหมวดนี้ (1) การขายสินค้าหรือการให้บริการโดยผู้ประกอบการ..." ตามมาตรา 77/1 (10) คำว่า "บริการ" หมายความว่า การกระทำใด ๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่เป็นการขายสินค้า และให้หมายความรวมถึงการใช้บริการของตนเองไม่ว่าประการใด ๆ ..." ปรากฏว่าพนักงานที่เจ้าหนี้ส่งไปทำงานในบริษัทลูกหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ถือหุ้นอยู่ยังคงเป็นลูกจ้างของเจ้าหนี้เนื่องจากเจ้าหนี้เป็นผู้จ่ายเงินเดือนและค่าสวัสดิการต่าง ๆ ทั้งยังคงต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหนี้ การที่เจ้าหนี้ส่งพนักงานไปปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทลูกหนี้ โดยลูกหนี้เป็นผู้รับผิดชอบชดใช้เงินเดือนและค่าสวัสดิการซึ่งเจ้าหนี้จ่ายให้แก่พนักงานของเจ้าหนี้ไป แม้จะไม่เป็นการกระทำใด ๆ ซึ่งเป็นการหาประโยชน์อันมีมูลค่าจากลูกหนี้โดยตรง แต่การที่เจ้าหนี้เรียกเก็บเงินจากลูกหนี้เท่ากับที่จ่ายให้แก่พนักงานก็ยังต้องด้วยคำนิยามของคำว่า "บริการ" จึงถือว่าเจ้าหนี้ให้บริการแก่ลูกหนี้แล้ว เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจึงมีสิทธิเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกหนี้ผู้รับบริการตาม ป.รัษฎากร มาตรา 82/4 วรรคหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อลูกหนี้ต้องชำระค่าบริการสำหรับเงินเดือนและสวัสดิการพนักงานของเจ้าหนี้ที่เรียกเก็บจากลูกหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิได้รับค่าภาษีมูลค่าเพิ่มจากเงินดังกล่าวด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8467/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากการรอนสิทธิที่ดิน: อายุความ 10 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
ความรับผิดของจำเลยเกิดจากที่ดินที่จำเลยขายให้แก่โจทก์ถูกรอนสิทธิ หาใช่เพราะจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ อันจะอ้างอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 มาปรับใช้หาได้ไม่ ซึ่งอายุความในเรื่องการรอนสิทธิมีบัญญัติไว้ในมาตรา 481 เฉพาะกรณีที่ผู้ซื้อได้ประนีประนอมยอมความกับบุคคลภายนอก หรือยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้อง เมื่อที่ดินถูกเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงไม่เข้าบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความทั่วไปตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 193/30 มีกำหนดสิบปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8268/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งปรับตามสัญญาประกัน เนื่องจากไม่ใช่คู่สัญญาโดยตรงกับศาล
ตามสัญญาประกันมีผู้ประกันเป็นผู้ทำสัญญาประกันต่อศาล ผู้ประกันจึงเป็นคู่สัญญากับศาล หากมีการผิดสัญญาประกันดังกล่าวผู้ประกันเป็นฝ่ายอาจถูกบังคับตามสัญญาประกันแต่เพียงผู้เดียว จำเลยมิใช่คู่สัญญาประกันกับศาล จึงไม่จำต้องรับผิดตามสัญญาประกันหรืออาจถูกบังคับตามสัญญาประกัน ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 119 วรรคหนึ่ง จำเลยจึงไม่มีอำนาจอุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7968/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายทะเบียน/เสียภาษี) ร่วมกับรับของโจร ศาลฎีกาพิจารณาความผิดฐานปลอมและใช้เป็นกรรมเดียว
บันทึกคำให้การของ ส. ข. และ ด. เป็นคำให้การที่มีรายละเอียดได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุม โดยบุคคลทั้งสามต่างให้การว่า จำเลยเป็นผู้มีส่วนร่วมและรู้เห็นกับการกระทำความผิดมาตั้งแต่ต้น แม้บันทึกคำให้การของบุคคลทั้งสามจะเป็นพยานบอกเล่าก็ตาม แต่โจทก์มีร้อยตำรวจเอก บ. ซึ่งเป็นผู้สอบสวนพยานมาเบิกความรับรอง ประกอบกับทั้งสามคนต่างได้ถูกฟ้องในความผิดเกี่ยวกับรับของโจรและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมต่อศาลชั้นต้นและศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น คำให้การของบุคคลทั้งสามดังกล่าวจึงรับฟังสนับสนุนพยานโจทก์ได้ นอกจากนี้ ตามพฤติการณ์ของจำเลยก่อนและขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจรถยังได้ความว่าจำเลยกับ ส. กับพวกเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครพร้อมกัน ทั้งยังได้เข้าร่วมเจรจากับกลุ่มชาวกัมพูชาที่ตลาดบ้านแหลมจนกระทั่งขับรถยนต์ทั้งสองคันออกจากตลาดบ้านแหลมพร้อมกันและถูกเรียกตรวจพร้อมกัน จำเลยยังได้แอบอ้างแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งขอความอนุเคราะห์ให้ปล่อยรถยนต์คันที่ ส. เป็นผู้ขับ พฤติการณ์ของจำเลยตามที่พยานโจทก์นำสืบย่อมแสดงออกได้โดยชัดแจ้งว่า จำเลยรู้เห็นเป็นใจและร่วมกับ ส. กับพวกปลอมทะเบียนรถยนต์และปลอมแผ่นป้ายวงกลมเสียภาษีรถยนต์ซึ่งติดอยู่กับรถยนต์คันที่ ส. เป็นผู้ขับจริง
แต่การปลอมและใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมนั้น ตามพฤติการณ์เห็นได้ว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาอย่างเดียวกันคือ ให้บุคคลทั่วไปและเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยในประเด็นนี้จึงเป็นกรรมเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7212/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ของคู่ความย่อมเป็นสิทธิส่วนตัว การถอนอุทธรณ์ต้องเป็นโดยคู่ความเอง มิใช่นิติบุคคลที่มาแทน
โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยเห็นว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย ถือเป็นการใช้สิทธิส่วนตัวของโจทก์ในฐานะเป็นผู้เสียหาย มิใช่เป็นการฟ้องคดีแทนหรือทำการแทน อบต.ทุ่งคลอง ซึ่งเป็นนิติบุคคลโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่นายก อบต.ทุ่งคลอง แต่อย่างใด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ในฐานะคู่ความในคดีย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น การที่ผู้ร้องซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบต.ทุ่งคลอง แทนโจทก์ซึ่งหมดวาระไปแล้วมายื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์แทน อบต.ทุ่งคลอง ซึ่งมิใช่คู่ความในคดี ย่อมไม่มีผลเป็นการถอนอุทธรณ์ของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6969/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดทางอาญาต่อผู้เสียหายเฉพาะราย การเข้าร่วมเป็นโจทก์ และการเรียกค่าเสียหาย
จำเลยพูดหลอกลวงโจทก์ร่วมที่ 1 เท่านั้น จำเลยมิได้หลอกลวงโจทก์ร่วมที่ 2 หรือเจตนาให้ได้ทรัพย์สินจากโจทก์ร่วมที่ 2 การที่โจทก์ร่วมที่ 2 รับฟังเรื่องราวจากโจทก์ร่วมที่ 1 แล้วหลงเชื่อว่าเป็นความจริงและประสงค์ร่วมลงทุนกับโจทก์ร่วมที่ 1 ด้วย โดยโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีโจทก์ร่วมที่ 1 เพื่อส่งมอบให้แก่จำเลยนั้น ไม่ได้เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญาของจำเลยต่อโจทก์ร่วมที่ 2 โจทก์ร่วมที่ 2 จึงไม่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6915/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้าอาวุธปืนผิดกฎหมาย: ศาลฎีกาแก้ไขบทลงโทษฐานค้าอาวุธปืนเป็นบทหนักสุด แม้ไม่มีคู่ความฎีกา
อาวุธปืนคาร์ไบน์และเครื่องกระสุนปืนคาร์ไบน์ที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีและค้าดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันและเป็นการกระทำผิดต่อเนื่องในคราวเดียวกัน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฐานค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยมาไม่ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
of 19