พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจเกินหน้าที่และอนุญาตตัดไม้โดยมิชอบ ไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.129 อาญา
จะมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.129 ก็ต่อเมื่อได้ความว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครองหรือพิทักษ์รักษาทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดใด ถ้ามันมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วย ก.ม.และมันทำลายทรัพย์หรือหนังสือนั้น ๆ หรือ ทำให้วิปลาศ บุบสลายหรือมันยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น โดยมันรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ดี จึงจะมีความผิด
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน ม.129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่ เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน ม.129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่ เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1226/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอาศัยไม่สมบูรณ์หากไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย แม้มีการโอนทรัพย์สินไปแล้ว
เกี่ยวกับสิทธิอาศัยโจทก์อ้างว่าโจทก์ได้มาโดยทางนิติกรรม(คือหนังสือสัญญาให้อาศัยห้องแถวท้ายฟ้อง) แต่โจทก์รับว่าหนังสือสัญญาให้อาศัยไม่ได้จดทะเบียน ดังนี้หนังสือให้อาศัยที่โจทก์อ้างจึงไม่สมบูรณ์ตาม ป.พ.พ.ม. 1299 วรรคต้น โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิอาศัย แม้ผู้ให้อาศัยจะได้โอนห้องแถวที่โจทก์อ้างว่ามีสิทธิอาศัยไปให้แก่บุคคลภายนอกไป โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องผู้โอนและผู้รับโอนแต่อย่างใดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้สัญญาไม่ได้ระบุขอบเขตที่ดินชัดเจน และการตีความข้อตกลงเรื่องค่าปรับ
ในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินไม่มีระบุให้รู้ว่าตรงไหนจะซื้อขายกัน เมื่อโจทก์นำสืบว่าที่ตรงไหนจะซื้อขายกันจึงเป็นการสืบอธิบายเอกสารไม่ต้องห้ามมิใช่นำสืบเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเอกสาร
อนึ่งในสัญญานั้นแม้จะมีข้อความว่า ถ้าผู้ขายไม่ยอมขาย ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับ 1,500 บาท ข้อความเช่นนี้หมายความว่า เมื่อผู้ขายผิดนัด นอกจากผู้ซื้อมีสิทธิบังคับให้ผู้ขายขายที่ให้แล้วผู้ซื้อยังมีสิทธิปรับผู้ขายอีกตามจำนวนเงินที่กะกันไว้
อนึ่งในสัญญานั้นแม้จะมีข้อความว่า ถ้าผู้ขายไม่ยอมขาย ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับ 1,500 บาท ข้อความเช่นนี้หมายความว่า เมื่อผู้ขายผิดนัด นอกจากผู้ซื้อมีสิทธิบังคับให้ผู้ขายขายที่ให้แล้วผู้ซื้อยังมีสิทธิปรับผู้ขายอีกตามจำนวนเงินที่กะกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องแม้โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษหนักขึ้น หากเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด
คดีอาญา ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลย โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวขอให้ศาลวางโทษหนักขึ้นอีก เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่มีความผิด ก็พิพากษายกฟ้องเสียได้