พบผลลัพธ์ทั้งหมด 405 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3814/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและคัดค้านคำตัดสินชัดเจน การทราบคำพิพากษาแล้วย่อมไม่สามารถอ้างเหตุไม่ทราบได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้ายคำร้องขอให้พิจารณาใหม่จะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่ คู่ความ ได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลคำร้องของโจทก์ กล่าวแต่เพียงว่า โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา โจทก์มีความประสงค์ ดำเนินคดีต่อไปเท่านั้น หาได้กล่าวคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอย่างไร ตามคำร้องก็ปรากฏข้อความซึ่งแสดงว่า โจทก์ทราบคำพิพากษาแล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของ กฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3457/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาใหม่หลังขาดนัดฟ้อง - กำหนดเวลาและเหตุสุดวิสัย
การที่จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นแต่เพียงเหตุที่จำเลยอาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ แต่การยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องกระทำภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรก
ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2524 จะมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง จึงมีผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2524 จำเลยอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 แต่จำเลยไม่ทราบการถูกฟ้องและการส่งคำบังคับ การที่จำเลยมิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 นับได้ว่าไม่สามารถยื่นคำขอโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จึงอาจยื่นคำขอได้ภายในกำหนด15 วันนับแต่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง จำเลยทราบว่าถูกยึดที่ดินตามคำบังคับเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2524 ถือได้ว่าได้ทราบถึงการส่งคำบังคับแล้ว พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ย่อมสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2524 แต่เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2524 ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ย่อมไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2524 จะมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง จึงมีผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2524 จำเลยอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 แต่จำเลยไม่ทราบการถูกฟ้องและการส่งคำบังคับ การที่จำเลยมิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2524 นับได้ว่าไม่สามารถยื่นคำขอโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จึงอาจยื่นคำขอได้ภายในกำหนด15 วันนับแต่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง จำเลยทราบว่าถูกยึดที่ดินตามคำบังคับเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2524 ถือได้ว่าได้ทราบถึงการส่งคำบังคับแล้ว พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ย่อมสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2524 แต่เพิ่งมายื่นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2524 ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ย่อมไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3064/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่หลังการส่งคำบังคับโดยวิธีปิดคำบังคับ
ในการขอให้พิจารณาใหม่นั้น เมื่อศาลชั้นต้นมิได้กำหนดการอย่างใดๆ ไว้เลย เพียงแต่มีคำสั่งให้ส่งคำบังคับโดยวิธีส่งหมายธรรมดา หากไม่พบหรือไม่มีผู้รับก็ให้ปิดคำบังคับได้จึงเป็นเรื่องให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 หากมีการปิดคำบังคับก็จะมีผลใช้ได้ และถือว่าจำเลยได้ทราบคำบังคับหลังจากเวลาได้ล่วงพ้นไปแล้ว 15 วัน
เมื่อส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยใช้วิธีปิดคำบังคับในวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จึงมีผลเท่ากับจำเลยได้ทราบคำบังคับในวันที่ 2 มกราคม 2525 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันซึ่งครบกำหนดในวันที่ 16 มกราคม 2525 แต่จำเลยมายื่นในวันที่ 28 มกราคม2525 จึงเป็นการยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลย
เมื่อส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยใช้วิธีปิดคำบังคับในวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จึงมีผลเท่ากับจำเลยได้ทราบคำบังคับในวันที่ 2 มกราคม 2525 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันซึ่งครบกำหนดในวันที่ 16 มกราคม 2525 แต่จำเลยมายื่นในวันที่ 28 มกราคม2525 จึงเป็นการยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3064/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาการแจ้งคำบังคับและการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ที่ล่าช้า
ในการขอให้พิจารณาใหม่นั้น เมื่อศาลชั้นต้นมิได้กำหนดการอย่างใด ๆ ไว้เลย เพียงแต่มีคำสั่งให้ส่งคำบังคับโดยวิธีส่งหมายธรรมดา หากไม่พบหรือไม่มีผู้รับก็ให้ปิดคำบังคับได้ จึงเป็นเรื่องให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 หากมีการปิดคำบังคับก็จะมีผลใช้ได้ และถือว่าจำเลยได้ทราบคำบังคับหลังจากเวลาได้ล่วงพ้นไปแล้ว 15 วัน
เมื่อส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยใช้วิธีปิดคำบังคับในวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จึงมีผลเท่ากับจำเลยได้ทราบคำบังคับในวันที่ 2 มกราคม 2525 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันซึ่งครบกำหนดในวันที่ 16 มกราคม 2525 แต่จำเลยมายื่นในวันที่ 28 มกราคม 2525 จึงเป็นการยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลย
เมื่อส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยใช้วิธีปิดคำบังคับในวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จึงมีผลเท่ากับจำเลยได้ทราบคำบังคับในวันที่ 2 มกราคม 2525 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วันซึ่งครบกำหนดในวันที่ 16 มกราคม 2525 แต่จำเลยมายื่นในวันที่ 28 มกราคม 2525 จึงเป็นการยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาการยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด โดยคำนึงถึงเหตุสุดวิสัยและการสิ้นสุดของเหตุนั้น
โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องยังสถานที่ซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย จำเลยจึงไม่มีโอกาสทราบว่าถูกฟ้องเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ แต่พฤติการณ์เช่นว่านั้นได้สิ้นสุดลงในวันที่ 11 มีนาคม 2525 เมื่อจำเลยทราบจากธนาคารว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินฝากในบัญชีกระแสรายวันของจำเลย จำเลยจะต้องยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน คือเริ่มนับแต่วันที่ 12 และครบกำหนดในวันที่ 26 มีนาคม 2525 การที่จำเลยมายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2525 จึงเป็นอันพ้นกำหนดเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำขอพิจารณาใหม่: นับจากวันส่งคำบังคับ หรือเมื่อปฏิบัติตามวิธีที่ศาลกำหนด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 โดยปกติคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลย แต่ถ้าศาลได้กำหนดให้ส่งคำบังคับโดยวิธีอื่นเช่น โดยปิดหมายหรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ก็จะต้องมีการปฏิบัติตามที่ศาลกำหนดเสียก่อน จะนับตั้งแต่วันที่ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยทันทีไม่ได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ศาลกำหนดเวลาให้จำเลยปฏิบัติตามคำบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำขอพิจารณาใหม่: นับจากวันส่งคำบังคับ หรือเมื่อปฏิบัติตามวิธีส่งที่ศาลกำหนด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 โดยปกติคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลย แต่ถ้าศาลได้กำหนดให้ส่งคำบังคับโดยวิธีอื่นเช่น โดยปิดหมายหรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ก็จะต้องมีการปฏิบัติตามที่ศาลกำหนดเสียก่อน จะนับตั้งแต่วันที่ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยทันทีไม่ได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ศาลกำหนดเวลาให้จำเลยปฏิบัติตามคำบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องโต้แย้งความไม่ถูกต้องของคำสั่งศาล การขาดนัดพิจารณาเป็นประเด็นความสงบเรียบร้อย
คำขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์อ้างเหตุแต่เพียงว่าทนายโจทก์เจ็บป่วยไม่สามารถมาศาลได้เท่านั้น ไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ประเด็นข้อนี้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงมีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องโต้แย้งความไม่ถูกต้องของคำสั่งศาล การอ้างเหตุเจ็บป่วยทนายโจทก์ไม่เพียงพอ
คำขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์อ้างเหตุแต่เพียงว่าทนายโจทก์เจ็บป่วยไม่สามารถมาศาลได้เท่านั้นไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ประเด็นข้อนี้เป็นประเด็นในปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงมีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/หมายนัดที่ถูกต้อง แม้ชื่อจำเลยในฟ้องผิดพลาดเล็กน้อย ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ/พิจารณาโดยจงใจ
แม้ในคำฟ้องและหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยชื่อนางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ โดยจำเลยชื่อนางสุจารีโลกะวิทย์ ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นเพียงการสะกดการันต์ผิดพลาดเล็กน้อย และที่บ้านจำเลยไม่มีบุคคลอื่นที่มีชื่อว่านางสุดจารีย์อันจะทำให้เข้าใจผิดไปได้ และปรากฏด้วยว่าการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การเป็นเพราะจำเลยหาเหตุที่ฟ้องของโจทก์สะกดการันต์ชื่อจำเลยไม่ถูกต้องการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ เมื่อปรากฏต่อมาว่าเจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายนัดกำหนดวันสืบพยานไว้ที่บ้านจำเลย จึงต้องถือว่าได้มีการส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วเช่นเดียวกัน การที่จำเลยไม่ มาศาลจึงถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ย่อมไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้