พบผลลัพธ์ทั้งหมด 405 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรพิจารณาคดีใหม่: จำเลยลี้ภัยอยู่ต่างประเทศและยื่นคำขอภายในกำหนดหลังกลับไทย
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเพิ่งกลับเข้ามาเมื่อศาลพิจารณาพิพากษาเสร็จไปแล้ว และได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่กลับเข้ามา ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 ขาดนัดไม่สามารถมาศาลได้ หาใช่จงใจขาดนัดไม่ มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ และการที่จำเลยที่ 1ไม่อาจยื่นคำขอก่อนกลับเข้ามาประเทศไทยก็เป็นกรณีที่ไม่สามารถ ยื่นคำขอโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกโดยไม่ชอบและการขอพิจารณาคดีใหม่หลังพ้นกำหนดเวลา ศาลต้องไต่สวนก่อน
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ซึ่งจะต้องยื่นภายในไม่เกินหกเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว ถ้าการส่งคำบังคับได้กระทำโดยมิชอบจะถือว่ามีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อพ้นเวลากำหนดไม่ได้
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาล โดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาล โดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกโดยมิชอบและการพิจารณาคำขอพิจารณาคดีใหม่ การส่งหมายโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ไม่ชอบหากส่งถึงภูมิลำเนาได้
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ซึ่งจะต้องยื่นภายในไม่เกินหกเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว ถ้าการส่งคำบังคับได้กระทำโดยมิชอบจะถือว่ามีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อพ้นเวลากำหนดไม่ได้
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาลโดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
การส่งหมายโดยใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์และปิดประกาศหน้าศาลโดยไม่ปรากฏเหตุที่ไม่สามารถจะส่ง ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานที่แน่นอนของจำเลยนั้น ย่อมไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่: การส่งคำบังคับโดยชอบและผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ในการขอพิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ไม่ว่าในกรณีปกติหรือในกรณีที่มีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ระยะเวลาในการขอพิจารณาคดีใหม่ภายในสิบห้าวันหรือภายในหกเดือนแล้วแต่กรณีนั้น จะเริ่มบังคับต่อเมื่อได้มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว หากไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้วจะยื่นคำขอพิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208 ดังกล่าว
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้ จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่ได้
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้ จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่, คำบังคับ, การส่งหมายนัด, และการเพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรม
ในการขอพิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 ไม่ว่าในกรณีปกติหรือในกรณีที่มี พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ระยะเวลาในการ พิจารณาคดีใหม่ภายในสิบห้าวันหรือภายในหกเดือนแล้วแต่กรณี นั้น จะเริ่มบังคับต่อเมื่อได้มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว หากไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้วจะยื่น คำขอพิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208 ดังกล่าว
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งศาลไม่ได้
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งศาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2137/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการขอพิจารณาใหม่ จำเป็นต้องระบุเหตุผลการขาดนัดอย่างละเอียดตามกฎหมาย
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวแต่เพียงว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาเท่านั้น มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงเหตุที่จำเลยได้ขาดนัด จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย ศาลต้องอนุญาตหากมีเหตุผลน่าเชื่อถือ และไม่ถือเป็นการขาดนัด
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าทนายโจทก์ป่วย เมื่อมีเหตุน่าเชื่อว่าทนายโจทก์ป่วยจนไม่อาจดำเนินคดีได้ ถือได้ว่ากรณีมีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ประกอบกับเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก จึงมีเหตุอันควรที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้ โดยมิต้องคำนึงว่ามีการยื่นบัญชีระบุพยานแล้วหรือไม่ เพราะเป็นคนละกรณีกัน
เมื่อศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและไม่มีพยานมาสืบ ให้สืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาติให้โจทก์เลื่อนคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 กรณีไม่ถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาโดยขาดนัดจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208
เมื่อศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและไม่มีพยานมาสืบ ให้สืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาติให้โจทก์เลื่อนคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 กรณีไม่ถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาโดยขาดนัดจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องอนุญาตหากมีเหตุผลเชื่อได้ และเป็นการเลื่อนครั้งแรก
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าทนายโจทก์ป่วยเมื่อมีเหตุน่าเชื่อว่าทนายโจทก์ป่วยจนไม่อาจดำเนินคดีได้ ถือได้ว่า กรณีมีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ประกอบกับเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก จึงมีเหตุอันควรที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้ โดยมิต้องคำนึงว่ามีการยื่นบัญชีระบุพยานแล้วหรือไม่ เพราะเป็นคนละกรณีกัน
เมื่อศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและไม่มีพยานมาสืบ ให้สืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 กรณีไม่ถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาโดยขาดนัดจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา208
เมื่อศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและไม่มีพยานมาสืบ ให้สืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 กรณีไม่ถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาโดยขาดนัดจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำร้องพิจารณาใหม่และการหมดอายุของเหตุพฤติการณ์นอกเหนือความสามารถในการควบคุม
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องเพราะจำเลยยื่นคำขอเมื่อพ้น 15 วัน นับแต่วันทราบคำบังคับ จำเลยอุทธรณ์ เห็นว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุที่ขาดนัดและเหตุที่ยื่นคำขอล่าช้ามาโดยละเอียดพอสมควรแล้ว แต่ในข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลหาได้กล่าวมาโดยละเอียดชัดแจ้งไม่ จึงพิพากษายืน จำเลยจึงมายื่นคำขอพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยบรรยายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นด้วย ดังนี้ คำขอให้พิจารณาใหม่ที่จำเลยยื่นในครั้งหลังก็ต้องอยู่ในบังคับแห่งกำหนดเวลาตามมาตรา 208 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเช่นเดียวกับฉบับแรก เมื่อปรากฏว่าพนักงานเดินหมายส่งคำบังคับให้แก่จำเลยวันที่ 14 กันยายน 2521 และคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับหลัง จำเลยอ้างว่า ศ. ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกับจำเลยและเป็นผู้รับหมายไว้แทนเพิ่งมอบคำบังคับให้จำเลยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2521 แม้กรณีที่จำเลยอ้างว่าเพิ่งทราบคำบังคับจะถือได้ว่ามีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวก็ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันที่จำเลยทราบคำบังคับ จำเลยมายื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ฉบับหลังเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2522 จึงพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้สิ้นสุดลง คำร้องดังกล่าวจึงต้องห้ามตามมาตรา 208 ส่วนการที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับแรกโดยไม่บรรยายข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลไม่ชอบด้วยมาตรา 208 วรรคท้าย จนศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องไปแล้วนั้น ก็เป็นความผิดพลาดบกพร่องของจำเลยเอง ไม่อาจถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ที่จะขยายระยะเวลาให้จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่ เกินกำหนดเวลาตามกฎหมาย และเหตุพฤติการณ์นอกเหนือความสามารถในการควบคุม
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องเพราะจำเลยยื่นคำขอเมื่อพ้น 15 วันนับแต่วันทราบคำบังคับ จำเลยอุทธรณ์เห็นว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุที่ขาดนัดและเหตุที่ยื่นคำขอล่าช้ามาโดยละเอียดพอสมควรแล้ว แต่ในข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลหาได้กล่าวมาโดยละเอียดชัดแจ้งไม่ จึงพิพากษายืน จำเลยจึงมายื่นคำขอพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยบรรยายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นด้วย ดังนี้คำขอให้พิจารณาใหม่ที่จำเลยยื่นในครั้งหลังก็ต้องอยู่ในบังคับแห่งกำหนดเวลาตามมาตรา 208 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเช่นเดียวกับฉบับแรก เมื่อปรากฏว่าพนักงานเดินหมายส่งคำบังคับให้แก่จำเลยวันที่ 14กันยายน 2521 และคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับหลัง จำเลยอ้างว่า ศ. ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกับจำเลยและเป็นผู้รับหมายไว้แทนเพิ่งมอบคำบังคับให้จำเลยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2521 แม้กรณีที่จำเลยอ้างว่าเพิ่งทราบคำบังคับจะถือได้ว่ามีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวก็ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันที่จำเลยทราบคำบังคับ จำเลยมายื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ฉบับหลังเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2522 จึงพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้สิ้นสุดลง คำร้องดังกล่าวจึงต้องห้ามตามมาตรา 208. ส่วนการที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ฉบับแรกโดยไม่บรรยายข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลไม่ชอบด้วยมาตรา 208 วรรคท้ายจนศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องไปแล้วนั้น ก็เป็นความผิดพลาดบกพร่องของจำเลยเอง ไม่อาจถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ที่จะขยายระยะเวลาให้จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้อีก