คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 208

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 405 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี และการขอพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 208 ต้องมีเหตุผลชัดเจนและคัดค้านคำตัดสิน
จำเลยขาดนัดพิจารณา และศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะมายื่นคำร้องขอแก้ไขหรือเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดพลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ไม่ได้ เพราะการขอแก้ไขตามมาตรานี้จะต้องกระทำก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล หากคำขอของจำเลยมิได้มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้ง ก็ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 208 อันจะควรรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยขาดนัดโดยมีเหตุสุดวิสัยและยื่นคำขอภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดและศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาใหม่ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งภายหลังเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดี ย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด - พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ - การส่งคำบังคับ
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อปรากฎว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดและศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งภายหลังเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดีย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีหลังต่อสู้คดีแล้ว คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านคำตัดสินชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงิน ตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายจากธนาคารให้โจทก์แล้วบอกห้ามจ่ายเงิน จำเลยให้การรับว่าได้ออกเช็คให้โจทก์เพื่อนายธน (นายธนขอยืมเงินไปซื้อรถโจทก์) และเพื่อให้โจทก์โอนรถยนต์ให้นายธน ๆ จะได้เอารถคันนั้นมาเป็นประกันเงินที่นายธนยืมจากจำเลยไป แต่แล้วทราบว่า โจทก์ไม่มีรถโอนให้นายธน จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เป็นเรื่องกลฉ้อฉลจำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินให้โจทก์ ต่อมาจำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยขอให้พิจารณาใหม่ โดยกล่าวในคำขอว่า ตามรายงานพิจารณาของศาลและคำพิพากษาของศาลจังหวัดภูเก็ตยังไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของรูปคดี แล้วบรรยายถึงเหตุที่ตนได้ขาดนัดว่าไม่มีเจตนาหลักเหลี่ยงหรือขัดอำนาจของศาลแต่ประการใด ในที่สุดได้บรรยายว่า ประเด็นที่จะนำสืบก็ตกแก่ฝ่ายจำเลย จะต้องสืบพยานหักล้างหลักฐานก่อนโจทก์ ทั้งรูปคดีของโจทก์ก็เป็นกลฉ้อฉล มีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ดังนี้ ที่ ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเห็นว่า การขาดนัดนี้เกิดขึ้นเมื่อจำเลยให้การต่อสู้คดีไว้แล้ว ข้อความในคำขอก็อนุมานได้ว่าจำเลยหมายถึงเหตุผลดังที่จำเลยได้ต่อสู้คดีในคำให้การ พอที่จะถือได้ว่าจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2505 ระเบียบวาระพิเศษ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุชนะคดี หากไม่มีเหตุชนะคดี การพิจารณาใหม่จึงไม่เป็นประโยชน์
คำขอให้พิจารณาใหม่นั้น นอกจากต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้ง ซึ่งเหตุที่ได้ขาดนัดแล้ว ยังต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลด้วย ทั้งนี้ เพื่อแสดงว่า ตนอาจชนะคดีได้อย่างไรบ้าง หากไม่มีทางชนะคดีแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยมิได้ขาดนัดโดยจงใจ และผลกระทบต่อจำเลยอื่นร่วมในคดี
จำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ส่วนจำเลยที่ 1 มิได้จงใจขาดนัด กรณีเช่นนี้จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 (1) มาปรับเพื่อให้จำเลยที่ 2 ได้รับประโยชน์ด้วยกับจำเลยที่ 1 หาได้ไม่ คดีต้องพิจารณาใหม่โดยให้จำเลยที่ 1 มีโอกาสให้การ แต่จำเลยที่ 2 คงถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การเช่นเดิม ต่อจากนั้นไปจำเลยที่ 2 จะได้รับประโยชน์ในชั้นพิจารณาอย่างใดหรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่รูปคดีเป็นอีกตอนหนึ่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้พิจารณาใหม่ภายหลังเมื่อตัดสินแล้ว ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา คือ อุทธรณ์ฎีกาได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504 และครั้งที่ 6/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล และอำนาจศาลสั่งงดบังคับคดีระหว่างพิจารณาคดีใหม่
คำสั่งใด ๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกา คัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้ เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาล, การงดการบังคับคดี, และอำนาจศาลในการพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งใดๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้วคู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อนถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนได้แล้วคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการตัดสิทธิการสืบพยานจำเลย ศาลพิจารณาคำร้องขอพิจารณาใหม่โดยการสอบถามได้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย ๆ ยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด ่จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้ง ๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัด จะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณา-สิทธิสืบพยาน-การมอบฉันทะ-การไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้นเป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้งๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดจะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้
of 41