คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 39 (2)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 413 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีเงื่อนไข ไม่ถือเป็นการยอมความในคดีอาญา
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งเกี่ยวกับเช็คที่ฟ้องจำเลยในคดีอาญาว่า จำเลยยอมผ่อนชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เดือนละ 5,000 บาท หากจำเลยชำระเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ก็จะถอนฟ้องคดีอาญา แต่จำเลยไม่ชำระเงินให้แก่โจทก์ ดังนี้ ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวไม่มีข้อความใดที่แสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันที แต่กลับมีเงื่อนไขที่จำเลยจะต้องผ่อนชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์จนครบถ้วนเสียก่อน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องถอนฟ้องคดีอาญาตามที่ตกลง กรณีหามีผลเป็นการยอมความในคดีอาญาแต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความคดีแพ่ง ไม่ตัดสิทธิฟ้องคดีอาญา หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งเกี่ยวกับเช็คที่ฟ้องจำเลยในคดีอาญาว่าจำเลยยอมผ่อนชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เดือนละ5,000บาทหากจำเลยชำระเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วโจทก์ก็จะถอนฟ้องคดีอาญาแต่จำเลยไม่ชำระเงินให้แก่โจทก์ดังนี้ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวไม่มีข้อความใดที่แสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันทีแต่กลับมีเงื่อนไขที่จำเลยจะต้องผ่อนชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์จนครบถ้วนเสียก่อนเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องถอนฟ้องคดีอาญาตามที่ตกลงกรณีหามีผลเป็นการยอมความในคดีอาญาแต่อย่างใดไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ศาลอนุญาตได้และคดีระงับ
คดีความผิดต่อส่วนตัวผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วแต่ยังอยู่ภายในกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ก็ถือเป็นการถอนคำร้องทุกข์ก่อนคดีจะถึงที่สุดศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งอนุญาตให้ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ได้ไม่เป็นการลบล้างหรือเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามป.วิ.อ.มาตรา39(2)อันมีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นระงับไปด้วยในตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกระทำอนาจารที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
เหตุที่จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายอายุ 20 ปี เกิดขึ้นในเวลากลางคืนบนรถโดยสารและข้างทางขณะที่ ป.คนขับลงรถไปปัสสาวะในที่เกิดเหตุคงมีแต่ ป.ซึ่งต้องหาว่าร่วมกระทำผิดด้วยเพียงคนเดียวแต่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง การกระทำผิดของจำเลยจึงมิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล เป็นความผิดอันยอมความได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 เมื่อผู้เสียหายยื่นคำร้องของถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4421/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและผลกระทบต่อการดำเนินคดีอาญา: ภาระการพิสูจน์ของผู้ฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วคดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลยจำเลยส่งหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยต่อศาลและแถลงว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว โจทก์ร่วมรับว่าทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจริง แต่ทำด้วยความสำคัญผิดแต่โจทก์ก็ไม่ได้แถลงขอสืบพยานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานให้เห็นว่าทำสัญญานั้นโดยสำคัญผิดก็ต้องฟังว่าสัญญานั้นสมบูรณ์
การยอมความกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้น ไม่จำเป็นต้องกระทำต่อหน้าศาลเสมอไปอาจกระทำกันนอกศาลก็ได้แต่กรณีที่โจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมถูกหลอกให้ทำสัญญา และไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมไม่ยอมรับข้อสัญญาโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์จึงต้องฟังว่าสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2498/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเลิกคดีอาญาที่มีเงื่อนไขการชำระเงิน หากไม่ปฏิบัติตาม ผู้เสียหายมีสิทธิยกเลิกได้ ไม่ถือว่าเป็นการยอมความ
ผู้เสียหายตกลงเลิกคดีกับจำเลย โดยจำเลยจะนำเงินมาชำระให้แก่ผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายจึงจะถอนคำร้องทุกข์ การที่จำเลยจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้เสียหายเป็นเงื่อนไขในการถอนคำร้องทุกข์ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยไม่ชำระเงินให้ครบถ้วนตามที่ตกลง จึงมีผลว่าผู้เสียหายไม่ผูกพันที่จะต้องถอนคำร้องทุกข์ และผู้เสียหายมีสิทธิยกเลิกข้อตกลงที่ได้ทำมาแล้วเสียได้ คดียังถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเลิกคดีที่มีเงื่อนไข: สิทธิของผู้เสียหายในการยกเลิกหากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม
ผู้เสียหายตกลงเลิกคดีกับจำเลย โดยจำเลยจำนำเงินมาชำระให้แก่ผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายจึงจะถอนคำร้องทุกข์ การที่จำเลยจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้เสียหายเป็นเงื่อนไขในการถอนคำร้องทุกข์เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยไม่ชำระเงินให้ครบถ้วนตามที่ตกลงจึงมีผลว่าผู้เสียหายไม่ผูกพันที่จะต้องถอนคำร้องทุกข์ และผู้เสียหายมีสิทธิยกเลิกข้อตกลงที่ได้ทำมาแล้วเสียได้ คดียังถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีอาญาฐานฉ้อโกง ย่อมระงับสิทธิฟ้องคดีฐานฉ้อโกงได้ แต่ไม่กระทบความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ผู้เสียหายมีหนังสือถึงจำเลยมีใจความว่า ผู้เสียหายได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาทจากจำเลยเป็นค่าชดใช้เงินที่ได้ฉ้อโกงไปจากผู้เสียหาย ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ดังกล่าวอีกต่อไป ดังนี้ ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ความผิดฐานฉ้อโกงตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ลงโทษจำเลย ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268 นั้น ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ระงับเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ตนปลอมนี้ด้วยกรณีเช่นนี้มาตรา 268 วรรค 2 บัญญัติให้ลงโทษตาม มาตรา 268 แต่กระทงเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยอมความคดีฉ้อโกง: ผลกระทบต่อการฟ้องร้องและการบังคับชำระหนี้
ผู้เสียหายมีหนังสือถึงจำเลยมีใจความว่าผู้เสียหายได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาทจากจำเลยเป็นค่าชดใช้เงินที่ได้ฉ้อโกงไปจาก ผู้เสียหาย ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ดังกล่าว อีกต่อไปดังนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกัน โดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วความผิดฐานฉ้อโกงตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา341 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ลงโทษจำเลย ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลย ใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268นั้น ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ ย่อมไม่ระงับเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารและ ใช้เอกสารที่ตนปลอมนี้ด้วยกรณีเช่นนี้มาตรา 268 วรรคสอง บัญญัติให้ลงโทษตาม มาตรา 268 แต่กระทงเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาในกำหนดระยะเวลาฎีกาและการระงับสิทธิเรียกร้อง
ในคดีอาญาแม้จะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็มิได้ห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย และอาจมีการอนุญาตหรือรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ได้ คดีจึงถึงที่สุดเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยมิต้องคำนึงว่ามีการยื่นฎีกาแล้วหรือไม่
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องภายในกำหนดระยะเวลาฎีกา แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ก็เป็นการถอนฟ้องก่อนที่คดีจะถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรคสอง แล้วเมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
เมื่อปรากฏว่าคดีได้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสั่ง
เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)อันมีผลให้คำพิพากษาของศาลล่างระงับไปด้วยในตัว ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2528)
of 42