คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 224

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 645 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้เช่าต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาเช่าและกฎหมาย หากไม่ชอบด้วยกฎหมายโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะไม่ใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรืออาศัย กรณีไม่เข้าเกณฑ์ห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าห้องพิพาทระบุว่า เจ้าของเดิมได้รับเงินค่าเช่าห้องพิพาทจากจำเลยและลงลายมือชื่อเจ้าของเดิมเป็นผู้รับเงินด้วย เป็นหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 แล้วจำเลยย่อมอ้างการเช่ายันต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนจากเจ้าของเดิมได้ โจทก์อ้างว่าเจ้าของเดิมได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว โดยโจทก์มิได้ตั้งรูปคดีว่าเจ้าของเดิมได้เลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว แม้โจทก์จะนำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้ก็เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนจากเจ้าของเดิมย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569
การเช่าห้องพิพาทเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนโดยเก็บล่วงหน้าของทุกเดือนซึ่งกำหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความตกลงกันหรือไม่อาจสันนิษฐานได้ โจทก์ให้ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวเลิกสัญญาให้จำเลยออกจากห้องพิพาทเมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ 2522 และทางไปรษณีย์ได้จัดการส่งหนังสือให้จำเลยตามใบตอบรับและแบบแจ้งเหตุขัดข้อง เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ 2522 และโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2522 การบอกกล่าวของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่ให้โอกาสจำเลยรู้ตัวก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งตามกฎหมาย การบอกกล่าวของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 สัญญาเช่าจึงยังไม่ระงับ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ไม่จดทะเบียน: สิทธิบอกเลิกสัญญาของผู้รับโอน
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท และจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้ว แม้ฎีกาข้อเท็จจริงนั้นขึ้นมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ผู้ให้เช่าทำสัญญาตกลงกับผู้เช่าไว้ว่าจะให้ผู้เช่าเช่าที่พิพาทได้ตลอดไป โดยผู้ให้เช่าจะไม่เป็นฝ่ายเลิกสัญญาเป็นข้อตกลงให้ สัญญาเช่ามีอายุการเช่าเกินกว่าสามปี เมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติไว้ จึงฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้เพียงสามปีเท่านั้น การเช่าที่เกินกำหนดสามปี เป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา ผู้รับโอนที่พิพาทจากเจ้าของเดิมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับผู้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 การที่ผู้เช่ายังอยู่ในที่พิพาทต่อมาเมื่อพ้นกำหนดตามคำบอกกล่าวแล้วจึงเป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเช่าที่ดิน และผลกระทบต่อการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่าที่ดินที่พิพาทกันในขณะที่ยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้เกินเดือนละ 2,000 บาท หรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาถึงที่ตั้ง จำนวนเนื้อที่ ราคา และสภาพทั่วๆ ไปของที่พิพาทแล้วอาจให้เช่าได้ในขณะที่ยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 และ 248 แม้ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ก็ไม่มีผล คดีได้ยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเช่าที่ดินเกิน 2,000 บาท/เดือน เป็นอุทธรณ์ฎีกาที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่าที่ดินที่พิพาทกันในขณะที่ยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้เกินเดือนละ 2,000 บาทหรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาถึงที่ตั้ง จำนวนเนื้อที่ ราคา และสภาพทั่ว ๆไปของที่พิพาทแล้วอาจให้เช่าได้ในขณะที่ยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 และ 248 แม้ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ก็ไม่มีผลคดีได้ยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกฟ้องนอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่อยู่ในข้อห้ามอุทธรณ์
ปัญหาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาท ตามตาราง 1 ข้อ (2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลวินิจฉัยนอกฟ้องนอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์ได้
ปัญหาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกคำให้การ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาทตามตาราง 1 ข้อ(2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีขับไล่ที่ไม่ใช่ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์ ทำให้ไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยสู้ว่าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิมารดาและบิดาบุญธรรมของจำเลย ไม่ได้อยู่โดยอาศัยสิทธิโจทก์ ถือว่ามิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ เพราะการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องเป็นการกล่าวแก้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง (อ้างฎีกาที่ 1054/2509) จึงเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แม้คู่ความอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้ก็ไม่ทำให้คู่ความมีสิทธิฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีขับไล่โดยอ้างสิทธิอื่นไม่ใช่กรรมสิทธิ์ตนเอง ถือเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้อาศัยออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาทจำเลยสู้ว่าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิมารดาและบิดาบุญธรรมของจำเลย ไม่ได้อยู่โดยอาศัยสิทธิโจทก์ ถือว่ามิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ เพราะการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องเป็นการกล่าวแก้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง(อ้างฎีกาที่ 1054/2509) จึงเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแม้คู่ความอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้ก็ไม่ทำให้คู่ความมีสิทธิฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องให้จดทะเบียนโอนที่ดินตามสัญญาซื้อขาย เป็นคดีอสังหาริมทรัพย์ให้อุทธรณ์ได้
คดีฟ้องให้จดทะเบียนโอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อขาย เป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องคดีบุกรุกและเรียกค่าเสียหาย: ศาลวางหลักการพิจารณาค่าเสียหายควบคู่กับการขับไล่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์เรียกค่าเสียหายเดือนละ 500 บาทจำเลยให้การว่าเป็นที่ทางราชการหวงห้ามมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันมิอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้แม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยก็ตามศาลพิพากษายกฟ้องข้อหาทางอาญาให้ขับไล่จำเลยและใช้ค่าเสียหายเดือนละ 30 บาท จำเลยอุทธรณ์ได้ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง
of 65