พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาที่ต้องยกฟ้องเนื่องจากข้อเท็จจริงไม่ตรงตามที่กล่าวอ้างในฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเคหสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่ของผู้เสียหายศาลก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483-1484/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดินเช่า แม้มีเจตนาสร้างศาลา แต่กระทำโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ถือเป็นการขัดขวางการครอบครอง
จำเลยรับว่าผู้มีชื่อเช่าที่พิพาทจากวัดและจำเลยได้เข้าไปขุดหลุมตอกหลักในที่พิพาทโดยไม่ได้ของอนุญาตจากผู้เช่า ๆ ทักท้วงจำเลยกับพวกก็ไม่ฟัง ดังนี้แม้จำเลยจะเข้าไปทำด้วยความศรัทธาเพื่อปลูกสร้างศาลาธรรมสังเวช เมื่อจำเลยบังอาจยึดถือเอาที่พิพาทปลูกศาลาโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายแต่ประการใด เช่นนี้เรียกว่าเจตนากระทำให้วัดและผู้เช่าครอบครองที่พิพาทโดยไม่ปกติสุข ตามมาตรา 327 และไม่ใช่เป็นการแย่งกรรมสิทธิทางแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483-1484/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดินเช่า: เจตนาเข้ายึดครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายอาญา
จำเลยรับว่าผู้มีชื่อเช่าที่พิพาทจากวัดและจำเลยได้เข้าไปขุดหลุมตอกหลักในที่พิพาทโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้เช่าผู้เช่าทักท้วงจำเลยกับพวกก็ไม่ฟัง ดังนี้แม้จำเลยจะเข้าไปทำด้วยความศรัทธาเพื่อปลูกสร้างศาลาธรรมสังเวช เมื่อจำเลยบังอาจยึดถือเอาที่พิพาทปลูกศาลาโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายแต่ประการใด เช่นนี้เรียกว่าเจตนากระทำให้วัดและผู้เช่าครอบครองที่พิพาทโดยไม่ปกติสุข ตามมาตรา 327 และไม่ใช่เป็นการแย่งกรรมสิทธิทางแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้จ้างวานให้บุกรุกที่ดิน: ความผิดฐานบุกรุกในฐานะผู้ใช้จ้าง
การมีจอบเสียมอันเป็นเครื่องมือขุดดิน เข้าไปขุดนาของผู้อื่นเรียกไม่ได้ว่ามีศาสตราวุธไปบุกรุก
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไป กระทำความผิดตามมาตรา 64
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไป กระทำความผิดตามมาตรา 64
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ผู้อื่นบุกรุก: จำเลยมีความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด แม้ไม่มีส่วนร่วมโดยตรง
การมีจอบเสียมอันเป็นเครื่องมือขุดดิน เข้าไปขุดนาของผู้อื่น เรียกไม่ได้ว่ามีศาสตราวุธไปบุกรุก
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไปกระทำความผิดตามมาตรา 64
จำเลยจ้างบุคคลอื่นกับพวกไปขุดนาโจทก์ ดังนั้นจำเลยย่อมมีผิดฐานบุกรุกในฐานะที่ใช้ให้ผู้อื่นไปกระทำความผิดตามมาตรา 64
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก vs. ป้องกันภัยสาธารณะ: การกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ถือเป็นความผิดอาญา
การกระทำอันจะเป็นผิดตามมาตรา 328 ก.ม.ลักษณะอาญานั้นจะต้องเป็นการกระทำที่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา 327 อันเป็นหลักทั่วไปในเรื่องความผิดฐานบุกรุก คือ ผู้กระทำมีเจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ของเขาอันจะพึงเคลื่อนจากที่มิได้นั้นโดยความปกติสุข
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตต์นาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหาย แต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้ จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และการเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉิน ซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลายหรือทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 อีกด้วย.
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตต์นาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหาย แต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้ จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และการเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉิน ซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลายหรือทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 อีกด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายสาธารณะ ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือทำให้เสียทรัพย์
การกระทำอันจะเป็นผิดตามมาตรา 328 กฎหมายลักษณะอาญานั้นจะต้องเป็นการกระทำที่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา 327 อันเป็นหลักทั่วไปในเรื่องความผิดฐานบุกรุก คือ ผู้กระทำมีเจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ของเขาอันจะพึงเคลื่อนจากที่มิได้นั้นโดยความปกติสุข
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตนาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหายแต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และ การเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉินซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลาย หรือ ทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324 อีกด้วย
จำเลยพาราษฎรไปขุดร่องชักน้ำในเขตนาของโจทก์ ทำให้เนื้อที่นาของโจทก์พังเสียหายแต่จำเลยกระทำเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำห้วยน้ำแก่นทำลายฝายหลวงอันเป็นเหมืองสาธารณะซึ่งจะทำให้เกิดเสียหายแก่นาราษฎรมากมายหลายตำบล ดังนี้จำเลยหาได้มีเจตนาที่จะมิให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยความปกติสุขแต่ประการใดไม่ หากแต่จำเลยได้กระทำไปเพื่อบำบัดป้องกันภยันตรายแก่สาธารณะ อันแลเห็นอยู่ว่าจะเกิดขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 327 และจำเลยย่อมไม่มีผิดตามมาตรา 328 และ การเสียหายที่จะเกิดขึ้น ย่อมนับได้ว่า เป็นภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉินซึ่งบุคคลอาจทำบุบสลาย หรือ ทำลายทรัพย์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรายนี้ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 450 และการที่จำเลยกระทำนี้ ก็ไม่เกินสมควรแก่เหตุ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324 อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของบ้านมีสิทธิรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อป้องกันผู้อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ผิดฐานบุกรุก
การเข้าไปรื้อหลังคาเรือนของตน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่มีอำนาจจะเข้าอยู่ในเรือนอาศัยอยู่ต่อไปนั้น ไม่มีผิดฐานบุกรุกเคหะสถานตามมาตรา 329.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อขับไล่ผู้บุกรุก ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกเคหะสถาน
การที่เข้าไปรื้อหลังคาเรือนของตน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่มีอำนาจจะเข้าอยู่ในเรือนอาศัยอยู่ต่อไปนั้น ไม่มีผิดฐานบุกรุกเคหะสถานตามมาตรา 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย คดีกรรมและวาระเดียวกัน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกและทำร้ายร่างกายโจทก์ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อัยการโจทก์ได้ฟ้องและศาลได้ตัดสินลงโทษจำเลยคดีเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องฐานบุกรุกอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำเพราะความผิดฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกายเป็นกรรมและวาระเดียวกัน