คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 456.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ด้วยการชำระหนี้ด้วยเรือน การระงับหนี้เดิม
จำเลยตกลงกับโจทก์ เอาเรือนของจำเลยตีใช้หนี้เงินกู้ให้โจทก์เป็นราคา 9,500 บาทโดยให้โจทก์รื้อเอาเรือนไปใน 5 วัน นั้น หาจำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ.มาตรา 456 ไม่ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการแปลงหนี้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 349 โดยคู่กรณีได้ตกลงเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ คือเอาเรือนของ จำเลยชำระหนี้แทนที่จะต้องนำเงินมาชำระตามสํญญากู้ ฉะนั้นหนี้เงินกู้ระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นอันระงับไป./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการซื้อที่ดินของคนต่างด้าว: ต้องมีสนธิสัญญาและได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีสัญญา สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5, 6 คนต่างด้าวจะเข้าถือกรรมสิทธิในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้ และแม้จะมีสนธิสัญญาเช่นว่านั้นก็ตาม แต่การได้มาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ทั้งต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาให้มีกรรมสิทธิในที่ดินได้ คนต่างด้าวนั้นก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดินและแม้จะขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๆ ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้.
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์จึงไม่มีทางได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 113 จำเลยไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาและไม่ต้องชดใช้เบี้ยปรับ แต่จำเลยควรคืนมัดจำให้โจทก์.
(อ้างฎีกา 188/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาจะซื้อขายที่ยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ตกลงซื้อนาจากจำเลย ชำระราคาแล้ว และเข้าครอบครองตลอดมา หลักฐานการจะซื้อขายอยู่ที่ทำการสหกรณ์ ยังไม่ได้โอนกันตามระเบียบ จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนขาย ฟ้องดังนี้ตีความได้ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลย เป็นสัญญาจะซื้อขาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าวตาม พ.ร.บ.ที่ดิน 2486: ต้องมีสนธิสัญญา และได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มาตรา 5, 6 คนต่างด้าวจะเข้าถือสิทธิในที่ดินได้ ก็ต่อเมื่อมีสนธิสัญญาบัญญัติให้ไว้ แต่ถ้าไม่มีสนธิสัญญาบัญญัติให้มีกรรมสิทธิในที่ดินได้ คนต่างด้าวก็ไม่มีสิทธิจะได้มาซึ่งที่ดิน และแม้จะขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีอำนาจอนุญาตได้
โจทก์เป็นคนจีนทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลย ในเวลาที่จะต้องโอนที่ดินตามสัญญานั้น ประเทศจีนยังไม่ได้ประกาศใช้สนธิสัญญากับประเทศไทย โจทก์ไม่มีทางที่จะได้กรรมสิทธิในที่ดินตามสัญญาได้ จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายข้าวเกิน 500 บาท ชำระหนี้ทันที ไม่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ
การตั้งตัวแทนไปทำากรซื้อข้าว โดยรับข้าวจากผู้ซื้อมาทันที อันเป็นการชำระหนี้กัน แม้ราคาข้าวที่ซื้อกันเกินกว่า 500 บาท ก็หาต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเรือนให้แล้วรื้อถอน: สภาพเปลี่ยนจากอสังหาริมทรัพย์เป็นสังหาริมทรัพย์ กรรมสิทธิ์โอนได้
โรงเรือนที่โดยสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้าเจ้าของยกให้โดยให้รื้อถอนไปจากที่ดิน ผู้รับจึงรื้อถอนไปนั้น สภาพของเรือนตอนที่ถูกรื้อโดยคำสั่งของผู้ให้นี้ ไม่อยู่ในลักษณะที่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ต่อไป แต่ได้กลายสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์แล้ว แต่บัดนั้น การยกให้แม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนก็ย่อมสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ขายไม่ผิดนัดสัญญา หากผู้ซื้อไม่ยอมรับการครอบครองก่อนโอน และผู้ขายคืนเงินมัดจำแล้ว ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
ทำสัญญาขายที่ดินและบ้านเรือนให้เขาโดยได้รับเงินมัดจำไว้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถโอนให้ผู้ซื้อภายในกำหนดตามสัญญาได้ เพราะมีเหตุขัดข้อง เจ้าพนักงานยังไม่ยอมทำโอนให้ภายในกำหนดสัญญา ผู้ขายได้แสดงความจำนงให้ผู้ซื้อครอบครองที่ ๆ จะซื้อไปก่อน ผู้ซื้อไม่ยอม ดังนี้จะถือว่าผู้ขายเป็นฝ่ายผิดนัดไม่ได้
ผู้รับมัดจำขอคืนเงินมัดจำแล้ว อีกฝ่าย 1 ไม่ยอมรับดังนี้จะฟ้องขอให้ผู้รับมัดจำเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าหนี้ร่วมและการถือว่าลูกหนี้ละเลยหนี้เมื่อเจ้าพนักงานพร้อมโอนแต่จำเลยไม่ดำเนินการ
ทำสัญญาขายที่ดินกันแล้ว คู่สัญญาไปขอทำการโอนที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินในเรื่องนี้ตลอดมา ไม่ปรากฎว่าเจ้าพนักงานได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทำการโอน เหตุทางอำเภอยังไม่โอนให้ ก็เพราะรอฟังคำสั่งกรมที่ดินอยู่เท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นทางการยังดำเนินการพิจารณาเรื่องราวที่ขอโอนอยู่ ดังนี้ไม่ถือว่าการโอนหรือการชำระหนี้เป็ฯพ้นวิสัยอันจะทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามมาตรา 219 และถือว่า สัญญาซื้อขายจะถือเอาการที่เจ้าพนักงานยังมิได้ทำสัญญาให้ดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาไม่ได้
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า ลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน
ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อซึ่งร่วมกันหลายคน ถือว่าผู้ซื้อแต่ละคนเป็นเจ้าหนึ้ร่วมกันตามมาตรา 298 เจ้าหนี้ร่วมเพียงคนเดียวก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบอำนาจให้ผูแทนฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ทั้งหมดได้
โจทก์ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้คนหนึ่งให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องเพียงว่าใบมอบอำนาจฟ้องร้องไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย ในวันชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่าโจทก์ไมีมีอำนาจฟ้อง เพราะเจ้าหนี้ร่วมอีก2คน มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้อง ิได้โต้แย้งในเรื่องความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแต่ประการใด จนเมื่อศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยจึงยกเป็นข้ออ้างว่าโจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ ดังนี้ถือว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความจริงแห่งใบมอบอำนาจ และถือได้ว่าจำเลยยอมรับในความแท้จริง แห่งใบมอบอำนาจนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกสัญญาสัญญาซื้อขายที่ดิน: สิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินคืน
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าคู่สัญญาตกลงเลิกสัญญากันแล้วโจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดิน ถ้าบังคับไม่ได้ก็ขอให้คืนเงินที่โจทก์ชำระไปแล้วกับค่าเสียหายอีกด้วยโดยอ้างว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ยินยอมเลิกสัญญากันแล้วดังนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระไว้แล้ว ตามมาตรา 319 ได้ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
สัญญาซื้อขายที่ดิน มีข้อตกลงว่าชำระราคาค่าที่ดินครบถ้วนแล้วจะไปทำโอนกันนั้น มีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเกิน 500 บาท แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ ก็ฟ้องได้หากมีการชำระราคาแล้ว การนำสืบถึงแหล่งที่มาของทรัพย์ไม่ถือเป็นการสืบนอกประเด็น
การซื้อขางสังหาริมทรัพย์ ราคาเกินห้าร้อยบาท ผู้ซื้อได้ชำระราคาแล้ว แม้ไม่มีหลักถานเปนหนังสือฟ้องขอไห้ผู้ขายส่งทรัพย์ที่ซื้อได้
ฟ้องว่าจำเลยขายทรัพย์ไห้ แล้วนำสืบว่าจำเลยไปซื้อมาจากอื่นแล้วเอามาขายเอากำไรจากโจทดังนี้ ไม่เปนการสืบนอกประเด็น
of 2