พบผลลัพธ์ทั้งหมด 306 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อผู้เสียหายรู้ตัวผู้กระทำละเมิดและค่าเสียหาย
อายุความฟ้องร้องเรื่องละเมิดวันที่ถือว่าผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งหลักทรัพย์ประกันตัวที่ไม่เป็นเท็จ แม้เคยใช้หลักทรัพย์รายเดิมไปแล้ว
จำเลยได้ยื่นประกันตัวบุคคลอื่นอีกต่างหากต่อเจ้าพนักงานอัยการและระบุว่าจำเลยมีสวนผลไม้และไม่มีภาระติดพัน แม้ความจริงหลักทรัพย์รายนี้จำเลยได้ยื่นระบุประกันตัวบุคคลอื่นไว้ที่ศาลแล้วก็ตาม ก็ไม่เป็นผิดฐานแจ้งเท็จเพราะการที่จำเลยยื่นขอประกันบุคคลอื่นที่ศาลได้ระบุหลักทรัพย์นั้นไม่เป็นการทำนิติกรรมให้เกิดภาระติดพันแก่หลักทรัพย์ (สวนผลไม้)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อมูลหลักทรัพย์ประกันตัวที่ไม่เป็นเท็จ แม้เคยใช้หลักทรัพย์นั้นค้ำประกันคดีอื่นไปแล้ว
จำเลยได้ยื่นประกันตัวบุคคลอื่นอีกต่างหากต่อเจ้าพนักงานอัยการ และระบุว่าจำเลยมีสวนผลไม้และไม่มีภาระติดพัน แม้ความจริงหลักทรัพย์รายนี้จำเลยได้ยื่นระบุประกันตัวบุคคลอื่นไว้ที่ศาลแล้ว ก็ตาม ก็ไม่เป็นผิดฐานแจ้งเท็จเพราะการที่จำเลยยื่นขอประกันบุคคลอื่นที่ศาลได้ระบุหลักทรัพย์นั้นไม่เป็นการทำนิติกรรมให้เกิดภาระติดพันแก่หลักทรัพย์ (สวนผลไม้)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: จำเลยต้องมีความผิดหรือไม่ และบทกฎหมายที่ใช้
จะอ้างแต่เพียงว่าบาดเจ็บของจำเลยทั้งสองถูกอะไรไม่ปรากฏแต่ผลเกิดจากจำเลยทั้งสองชกต่อยและกอดปล้ำทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันยืนยันขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา254,256 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: จำเลยต้องมีความผิดหรือไม่ และบทกฎหมายที่ใช้
จะอ้างแต่เพียงว่าบาดเจ็บของจำเลยทั้งสองถูกอะไรไม่ปรากฎ แต่ผลเกิดจากจำเลยทั้งสองชกต่อยและกอดปล้ำทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันยืนยันขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.254,256 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยถูกยั่วโทสะจากพฤติการณ์ชู้สาวและชำเรา
เมื่อจำเลยที่ไม่ชอบด้วย ก.ม.เป็นชู้กับผู้ตาย จำเลยมาแอบจับชู้ระหว่างแอบจับชู้ผู้ตายทำชำเรากับเมียน้อยของจำเลยระหว่างกระทำชำเราเสียงสุกรร้องผู้ตายออกมามองเห็นปลอดภัยแล้วก็กลับไปทำชำเราต่อแต่ถูกยิงเสียก่อน พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเข้าลักษณะยั่วโทษะตาม ก.ม.อาญา ม.72 แล้ว
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ ก.ม.อาญา ร.ศ.127 แต่คดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้วเช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมาย อาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้องหยิบยกประมวลก.ม.อาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม ม.3
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ ก.ม.อาญา ร.ศ.127 แต่คดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้วเช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมาย อาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้องหยิบยกประมวลก.ม.อาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม ม.3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยถูกยั่วยุ: ศาลลดโทษจากความผิดฐานฆ่าเนื่องจากพฤติการณ์ชู้และถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
เมียจำเลยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นชู้กับผู้ตายจำเลยมา แอบจับชู้ระหว่างแอบจับชู้ผู้ตายทำชำเรากับเมียน้อยของ จำเลยระหว่างกระทำชำเราเสียงสุกรร้องผู้ตายออกมามองเห็น ปลอดภัยแล้วก็กลับไปทำชำเราต่อแต่ถูกยิงเสียก่อน พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรมเข้าลักษณะยั่วโทสะตามกฎหมายอาญามาตรา72 แล้ว
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ กฎหมายอาญา ร.ศ.127 แต่คดีมา สู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้ว เช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้อง หยิบยกประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม มาตรา3
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ กฎหมายอาญา ร.ศ.127 แต่คดีมา สู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้ว เช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้อง หยิบยกประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม มาตรา3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146-2147/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่โดยสุจริตไม่ถึงขั้นต้องรับผิดชอบในความเสียหายต่อทรัพย์สิน
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำราษฎรเข้าทำทำนบในนาของเอกชนตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งสั่งการไปตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายและเชื่อตามคำสั่งนั้นโดยสุจริต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146-2147/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ปฏิบัติงานตามคำสั่งชอบด้วยกฎหมาย: กรณีบุกรุกที่ดิน
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำราษฎรเข้าทำทำนบในนาของเอกชนตามคำสั่งของนายอำเภอ ซึ่งสั่งการไปตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายและเชื่อตามคำสั่งนั้นโดยสุจริต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องรับผิด(ประชุมใหญ่ครั้งที่10/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ ‘สุรา’ ต้องแสดงได้ว่าเมื่อผสมกับน้ำแล้วดื่มกินได้ และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราผิดกฎหมาย
เมื่อตามฟ้องและคำให้การจำเลย ฟังได้เพียงว่าจำเลยมีแอลกอฮอล์ตามฟ้องไว้จริง ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และตัดสินว่าจำเลยไม่มีผิดหาได้ไม่
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป.
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป.