คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 306 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอม และการยกเหตุถูกหลอกลวงในชั้นฎีกา
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใดๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม: สิทธิโจทก์บังคับคดีจากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุเฉพาะทรัพย์จำนอง และจำเลยมิได้อุทธรณ์
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนองที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วจำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใด ๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและขอบเขตการบังคับคดี: ศาลอนุญาตบังคับคดีหนี้จากทรัพย์สินอื่นได้หากสัญญาไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์จำนอง
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใดๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์กรรมสิทธิ์กระบือ: พยานบุคคล (ผู้ใหญ่บ้าน) และลักษณะตำหนิที่เชื่อถือได้
พยานเป็นผู้ใหญ่บ้านทั้งมีอาชีพทางทำนาและมีกระบือหลายตัว แม้จะไม่ใช่ผู้ชำนาญการพิเศษก็จริง แต่รู้ลักษณะตำหนิกระบืออยู่บ้างถ้อยคำที่พยานเบิกความในเรื่องตำหนิกระบือถือว่ารับฟังและเชื่อถือได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: พิจารณาเจตนาและเหตุป้องกันตัว
จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน แม้บาดแผลของผู้ตายจะมีถึง 6 แผลก็ตาม แต่แผลที่สำคัญมีแผลเดียวคือที่คอใต้หูซ้าย นอกนั้นเป็นแผลที่ไม่อาจทำให้ถึงตาย ดังนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า การต่อสู้ และการป้องกันตัว: การประเมินบาดแผลเพื่อพิสูจน์เจตนา
จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน แม้บาดแผลของผู้ตายจะมีถึง 6 แผลก็ตาม แต่แผลที่สำคัญมีแผลเดียวคือที่คอใต้หูซ้าย นอกนั้นเป็นแผลที่ไม่อาจทำให้ถึงตาย ดังนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ทำร้ายร่างกาย เจตนาฆ่าต้องดูจากบาดแผลสำคัญ ไม่ใช่จำนวนบาดแผล
จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน แม้บาดแผลของผู้ตายจะมีถึง 6 แผลก็ตาม แต่แผลที่สำคัญมีแผลเดียวคือที่คอใต้หูซ้าย นอกนั้นเป็นแผลที่ไม่อาจทำให้ถึงตาย ดังนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย
of 31