คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 212

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 433 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษรวมกะทงความผิดต่อเนื่อง: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์นำโทษความผิดที่ถึงที่สุดแล้วมารวมกับโทษฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกโจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกะทงหนึ่งก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกะทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม ก.ม.อาญา ม.288 กะทงหนึ่ง และ ม. 246 อีกกะทงหนึ่ง แต่รวมกะทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมกระทงโทษในคดีอนาจารและลักทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการรวมโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วเข้ากับกระทงลักทรัพย์ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยก โจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งก็ตามศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288 กระทงหนึ่งและ มาตรา 246 อีกกระทงหนึ่ง รวมกระทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานพยายามฆ่าไม่ชอบ เนื่องจากบาดแผลไม่ร้ายแรงและไม่มีสาเหตุ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา แต่ทั้งสองศาลฟังต้องกันว่ายังฟังไม่ได้ว่าผู้ตาย ตายเพราะบาดแผลที่ถูกทำร้าย จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา ศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยไปถึงว่าจำเลยอาจจะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ( ประชุมใหญ่ 7 - 8/97 )
จำเลยกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุกันจำเลยใช้มีดขนาดเล็แทงเพียงครั้งเดียว แม้จะมีโอกาศทำร้ายซ้ำอีกก็มิได้ทำ บาดแผลที่ถูกทำร้ายไม่ถึงขนาดร้ายแรง จึงยังสันนิษฐานไม่ได้ว่า จำเลยพยายามจะฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิเคราะห์เจตนาและความร้ายแรงของบาดแผล
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาแต่ทั้งสองศาลฟังต้องกันว่ายังฟังไม่ได้ว่าผู้ตาย ตายเพราะบาดแผลที่ถูกทำร้ายจำเลยฝ่ายเดียวฎีกาศาลฎีกาย่อมจะไม่วินิจฉัยไปถึงว่าจำเลยอาจจะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7-8/97)
จำเลยกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุกัน. จำเลยใช้มีดขนาดเล็กแทงเพียงครั้งเดียวแม้จะมีโอกาสทำร้ายซ้ำอีกก็มิได้ทำบาดแผลที่ถูกทำร้ายไม่ถึงขนาดร้ายแรงจึงยังสันนิษฐานไม่ได้ว่า จำเลยพยายามจะฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการพิจารณาโทษที่เหมาะสม
คดีอาญาที่โจทก์ยื่นฎีกาแม้ศาลจะเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์จำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ แต่ถ้ารูปคดีเห็นว่าจำเลยกระทำป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก และศาลอุทธรร์วางโทษมาเบาไป ศาลฎีกาวางโทษจำเลยให้สูงกว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก ศาลฎีกาเพิ่มโทษจำเลย
คดีอาญาที่โจทก์ยื่นฎีกาแม้ศาลจะเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ แต่ถ้ารูปคดีเห็นว่าจำเลยกระทำป้องกันตัวเกินกว่าเหตุอย่างมาก และศาลอุทธรณ์วางโทษมาเบาไปศาลฎีกาวางโทษจำเลยให้สูงกว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำโดยอัยการคนละคน ศาลฎีกาตัดสินว่ายังถือเป็นการฟ้องซ้ำ
พนักงานอัยการจังหวัดอื่นซึ่งอธิบดีกรมอัยการได้แต่งตั้งขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะเรื่อง โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2478 มาตรา 20(1) ได้ยื่นฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดในทางอาญา ไว้ต่อศาลท้องที่ที่เกิดเหตุแล้วอัยการประจำศาลนั้น จะยื่นฟ้องจำเลยคนนี้ในความผิดฐานเดียวกันซ้ำขึ้นอีกไม่ได้ เพราะโจทก์ในคดีก่อนและคดีที่ฟ้องใหม่ก็เป็นอัยการด้วยกัน จึงต้องถือว่าเป็นโจทก์คนเดียวกัน
แม้ศาลฎีกาตัดสินไม่รับฟ้องยืนตามศาลล่างเพราะเป็นกรณีที่โจทก์ยื่นฟ้องซ้ำเข้ามาอีก ศาลฎีกาก็คงให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ไม่ได้รับสำเนาฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจจับกุมโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แม้ได้รับคำสั่ง ก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ
ผู้บังคับบัญชาสั่งให้จำเลยสืบจับผู้ลักเล่นการพะนันจำเลยจะจับใครย่อมอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยเมื่อปรากฎว่า จำเลยแกล้งจับโจทก์ซึ่งมิได้เป็นผู้เล่นการพะนัน จำเลยก็ต้องมีความผิด จะอ้างคำสั่งผู้บังคับบัญชามาเป็นข้อยกเว้นโทษไม่ได้
ตำรวจแกล้งจับคนโดยไม่มีความผิด โดยมีอาวุธไปด้วย ต้องลงโทษตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ถ้าโจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกาไม่แก้กำหนดโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจจับกุมโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แม้มีคำสั่งผู้บังคับบัญชา ก็ไม่อาจเป็นเหตุยกเว้นความผิดได้
ผู้บังคับบัญชาสั่งให้จำเลยสืบจับผู้ลักเล่นการพนัน จำเลยจะจับใครย่อมอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลย เมื่อปรากฏว่า จำเลยแกล้งจับโจทก์ซึ่งมิได้เป็นผู้เล่นการพนัน จำเลยก็ต้องมีความผิดจะอ้างคำสั่งผู้บังคับบัญชามาเป็นข้อยกเว้นโทษไม่ได้
ตำรวจแกล้งจับคนโดยไม่มีความผิด โดยมีอาวุธไปด้วย ต้องลงโทษตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดถ้าโจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกาไม่แก้กำหนดโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยตามบทที่เบา แม้ศาลสูงเห็นควรลงโทษตามบทที่หนักกว่าก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม มาตรา 223 ซึ่งเป็นบทที่เบาและโจทก์มิได้อุทธรณ์ แม้ศาลสูงจะเห็นควรลงโทษตามบทที่หนักตาม มาตรา 224 ก็ลงโทษตามบทที่หนักมิได้
of 44