พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมเป็นผู้กู้ร่วม แม้เดิมทีตั้งใจเป็นผู้ค้ำประกัน ย่อมมีผลผูกพันตามสัญญา
แม้ในชั้นต้นจำเลยที่ 1 ตั้งใจเพียงจะเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 2-3 ก็ดี แต่เมื่อโจทก์ต้องการให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้กู้ด้วย จำเลยที่ 1 ก็ยินยอมและได้ลงชื่อในหนังสือสัญญากู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 แล้ว ก็เท่ากับจำเลยที่ 1 ได้สละความตั้งใจเดิมและยอมเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในฐานเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ยังไม่ผูกพัน & การเข้าครอบครองโดยอาศัยสิทธิไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม
การที่เจ้าอาวาสลงชื่อในสัญญาเช่าหมาย ล.5 โดยเจตนาจะถือเป็นเพียงแต่ร่างสัญญาโดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัดก่อนอีกทีหนึ่ง ไม่มีความประสงค์จะให้เป็นสัญญาอันแท้จริง สัญญาเช่าดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์จำเลยอย่างใด ที่จำเลยอ้างว่าเข้าอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าตามสัญญาหมาย ล.5 จึงฟังไม่ได้ เป็นแต่เพียงอาศัยเท่านั้น เมื่อเป็นการอาศัยจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้จดทะเบียนการเช่าและภาระจำยอมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1312
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย ๆ ฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น เป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก.
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย ๆ ฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้น เป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่มิได้มีเจตนาผูกพัน และการเข้าอยู่อาศัยโดยอาศัยสิทธิ ย่อมไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม
การที่เจ้าอาวาสลงชื่อในสัญญาเช่าหมาย ล.5 โดยเจตนาจะถือเป็นแต่เพียงร่างสัญญาโดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัดก่อนอีกทีหนึ่ง ไม่มีความประสงค์จะให้เป็นสัญญาอันแท้จริง สัญญาเช่าดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์จำเลยอย่างใด ที่จำเลยอ้างว่าเข้าอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าตามสัญญาหมาย ล.5จึงฟังไม่ได้ เป็นแต่เพียงอาศัยเท่านั้น เมื่อเป็นการอาศัยจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้จดทะเบียนการเช่าและภาระจำยอมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้นเป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก
การที่โจทก์ฟ้องจำเลย จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งนั้นเป็นคดีเดียวกันทั้งนั้น ทนายโจทก์ที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้วมีสิทธิทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจำเลยได้ ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายใหม่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863-864/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางการหย่าและซื้อขายทรัพย์สิน: โมฆะเมื่อเจตนาหลอกลวง
สามีภริยาไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ แต่ความจริงนั้นทั้งสองฝ่ายมิได้มี่เจตนาจะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา กันเลย ที่ทำไปก็เพื่อจะลวงผู้อื่นเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามีภริยานั่นเอง แล้วภริยาทำนิติกรรมขายที่ดินบ้านเรือนอัน เป็นสินเดิมให้สามีเพื่อกีดกันบุตรของภริยาอันเกิดแก่สามีคนเก่า แต่ความจริงมิได้ขายกัน ดังนี้ นิติกรรมซื้อขาย ย่อมเป็นโมฆะ.
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายฝาก ให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากัน จริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้/
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายฝาก ให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากัน จริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้/
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863-864/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางและการซื้อขายที่ดินโดยกลฉ้อฉล ศาลเพิกถอนได้
สามีภริยาไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ แต่ความจริงนั้นทั้งสองฝ่ายมิได้มีเจตนาจะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันเลย ที่ทำไปก็เพื่อจะลวงผู้อื่นเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามีภริยานั่นเอง แล้วภริยาทำนิติกรรมขายที่ดินบ้านเรือนอันเป็นสินเดิมให้สามีเพื่อกีดกันบุตรของภริยาอันเกิดแต่สามีคนเก่า แต่ความจริงมิได้ขายกัน ดังนี้นิติกรรมซื้อขายย่อมเป็นโมฆะ
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายขาดให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากันจริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายขาดให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากันจริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยปราศจากหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร และสิทธิเรียกร้องผลประโยชน์จากการกระทำแทน
จำเลยเป็นผู้แทนรับโอนที่ดินแทนโจทก์ แม้มิได้มีหนังสือเป็นหลักฐานในการที่ตั้งจำเลยเป็นตัวแทน โจทก์ก็ฟ้องขอให้จำเลยโอนโฉนดให้ตนได้
แม้โฉนดมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โจทก์สืบว่าความจริงเป็นที่ของโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
แม้โฉนดมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โจทก์สืบว่าความจริงเป็นที่ของโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนรับโอนที่ดิน - สิทธิของเจ้าของเดิม - การเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนด
จำเลยเป็นผู้แทนรับโอนที่ดินแทนโจทก์ แม้มิได้มีหนังสือเป็นหลักฐานในการที่ตั้งจำเลยเป็นตัวแทน โจทก์ก็ฟ้องขอให้จำเลยโอนโฉนดให้ตนได้
แม้โฉนดมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โจทก์สืบว่าความจริงเป็นที่ของโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
แม้โฉนดมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โจทก์สืบว่าความจริงเป็นที่ของโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัย สัญญาซื้อขาย และค่าเสียหายจากผิดสัญญา
ตกลงทำสัญญาซื้อขายกระสอบป่านต่อกันได้พูดถึงจำนวนราคาและว่าผู้ซื้อจะต้องเสียค่าภาษีและค่าขนส่งต่างหาก แต่มิได้ระบุว่ากระสอบนั้นจะเป็นกระสอบที่สั่งซื้อจากต่างประเทศ ดังนี้ ฝ่ายผู้ขายจะยกเอาเหตุที่เกิดสงครามมหาอาเซียว่าเป็นเหตุพ้นวิสัยที่สั่งกระสอบจากต่างประเทศไม่ได้มาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความรับผิดฐานผิดสัญญาไม่ได้ ผิดสัญญาขายกระสอบแล้วผู้ซื้อก็ได้ซื้อกระสอบจากที่อื่นเรื่อยๆ มาดังนี้ จะขอให้ส่งมอบกระสอบตามสัญญาไม่ได้ได้แต่ได้รับค่าเสียหาย การกำหนดค่าเสียหายฐานผิดสัญญาซื้อขายนั้น คำนวณราคาที่ต่างกันระหว่างราคาตามสัญญากับราคาในวันผิดสัญญาหรือในวันที่ใกล้กับวันผิดสัญญา