คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 25

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 88 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3264/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการขอถอนอุทธรณ์ คดีละเมิดที่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
เมื่อลูกหนี้ถูกผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาลให้ล้มละลายและศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจเข้าว่าคดีหรือดำเนินคดีแพ่งอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาล และมีอำนาจขอให้ศาลงดการพิจารณาคดีแพ่งดังกล่าว ตลอดทั้งการขอถอนฟ้องสำหรับกรณีที่ลูกหนี้เป็นโจทก์ได้
โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ฟ้องจำเลยว่ากระทำละเมิดต่อลูกหนี้เป็นเหตุให้ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย แม้ลูกหนี้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย ก็มิใช่เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีล้มละลายของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอถอนอุทธรณ์.โดยไม่จำต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการลูกหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3264/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเข้าว่าคดีและขอถอนอุทธรณ์ แม้มิใช่คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
เมื่อลูกหนี้ถูกผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาลให้ล้มละลาย และศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจเข้าว่าคดีหรือดำเนินคดีแพ่งอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาล และมีอำนาจขอให้ศาลงดการพิจารณาคดีแพ่งดังกล่าวตลอดทั้งการขอถอนฟ้องสำหรับกรณีที่ลูกหนี้เป็นโจทก์ได้
โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ฟ้องจำเลยว่ากระทำละเมิดต่อลูกหนี้เป็นเหตุให้ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย แม้ลูกหนี้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วยก็มิใช่เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีล้มละลายของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอถอนอุทธรณ์.โดยไม่จำต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการลูกหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการอายัดเงินในคดีบังคับคดีและการขัดแย้งกับคำพิพากษาในคดีล้มละลาย
เงินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ป. ในคดีล้มละลายร้องขออายัดในคดีนี้ ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ป. ซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ด้วยไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระต่อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของ บริษัท ป. ไม่ว่าในฐานะใดย่อมไม่มีสิทธิที่จะอายัด เงินดังกล่าวได้ และมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย ดังกล่าวก็ไม่มีผลให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะ อายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้
กรณีที่ศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์รับไป คือไม่อายัดให้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขออายัดไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่ใช่กรณีที่โจทก์จะต้องไปขอเพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 146

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2730/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีแพ่งเมื่อจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการตามกฎหมายล้มละลาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจ้างแรงงานและเรียกค่าเสียหาย ปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในอีกคดีหนึ่งขณะที่คดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยได้ขอเข้าว่าคดีนี้แทนจำเลย และได้มีคำขอโดยทำเป็นคำร้องเพื่อให้ศาลสั่งจำหน่ายคดี ทั้งเป็นโจทก์คดีนี้ได้ยื่นคำขอรับชำรหนี้ไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะตรวจและสอบสวนแล้วทำความเห็นต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 105 และมาตรา 106 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ แม้ศาลฎีกาจะดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาไปในคดีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ยังจะต้องทำการสอบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อศาลอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้น การที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างไร ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียได้ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2730/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการตามกฎหมายล้มละลาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจ้างแรงงานและเรียกค่าเสียหายปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในอีกคดีหนึ่งขณะที่คดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยได้ขอเข้าว่าคดีนี้แทนจำเลย และได้มีคำขอโดยทำเป็นคำร้องเพื่อให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีทั้งโจทก์คดีนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะตรวจและสอบสวนแล้วทำความเห็นต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 105 และมาตรา 106 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯแม้ศาลฎีกาจะดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาไปในคดีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ยังจะต้องทำการสอบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อศาลอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้น การที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างไรศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียได้ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ไม่มีประกันในคดีล้มละลาย ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามขั้นตอน หากไม่ปฏิบัติตามถือเป็นความผิดของเจ้าหนี้เอง
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 25 มิใช่บทบังคับว่า เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องเข้าว่าคดีแพ่งอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลขณะที่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ทุกเรื่องเสมอไป ในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้เข้าว่าคดีแพ่งซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลดังกล่าว และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยเฉพาะหนี้ที่ไม่มีประกันแล้ว โจทก์กลับอุทธรณ์ฎีกาโดยไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย จนเป็นเหตุให้ล่วงเลยกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้นั้น ย่อมต้องถือว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์ดังกล่าวเนื่องมาจากความผิดของโจทก์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายคดีลูกหนี้ล้มละลาย: ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการแล้ว แม้เจ้าหนี้จะถอนคำขอรับชำระหนี้
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง และ ต่อมาได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต่อเนื่องเกี่ยวโยงกัน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173แม้ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีที่ฟ้องนั้นเสีย จำเลยก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 25ศาลมีอำนาจงดการพิจารณาคดีไว้ หรือจะสั่งประการใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ มิใช่มีอำนาจสั่งงดการพิจารณาไว้อย่างเดียวโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในคดีอื่นและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะต้องสอบสวนและทำความเห็นเสนอต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 105, 106เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ของจำเลยที่ 1ไว้ในคดีล้มละลายด้วย การพิจารณาคดีของจำเลยที่ 1ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีของจำเลยที่ 1 เสียได้ ตามมาตรา 25 ตอนท้าย คำสั่งจำหน่ายคดีเช่นนี้มิใช่สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132
ระหว่างที่คดีโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแม้โจทก์จะขอถอนคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโดยชอบแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะยกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1 ต่อไป ตามคำร้องของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีลูกหนี้ล้มละลายและการสะดุดหยุดอายุความจากคำขอรับชำระหนี้
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง และต่อมาได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต่อเนื่องเกี่ยวโยงกัน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 แม้ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีที่ฟ้องนั้นเสีย จำเลยก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 25ศาลมีอำนาจงดการพิจารณาคดีไว้ หรือจะสั่งประการใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ มิใช่มีอำนาจสั่งงดการพิจารณาไว้อย่างเดียวโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในคดีอื่นและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะต้องสอบสวนและทำความเห็นเสนอต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 105,106เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ของจำเลยที่ 1ไว้ในคดีล้มละลายด้วย การพิจารณาคดีของจำเลยที่ 1ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีของจำเลยที่ 1 เสียได้ ตามมาตรา 25 ตอนท้าย คำสั่งจำหน่ายคดีเช่นนี้มิใช่สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132
ระหว่างที่คดีโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแม้โจทก์จะขอถอนคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโดยชอบแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะยกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1 ต่อไป ตามคำร้องของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีของบุคคลล้มละลายที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ ศาลพิพากษาว่าที่ดินไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าโจทก์ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ขอเข้าว่าความแทนโจทก์ โจทก์จะดำเนินคดีเองต่อไปไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 24 ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดีของโจทก์เสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากบุคคลล้มละลายและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ขอเข้าว่าความ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ ศาลพิพากษาว่าที่ดินไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าโจทก์ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ขอเข้าว่าความแทนโจทก์โจทก์จะดำเนินคดีเองต่อไปไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 24 ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดีของโจทก์เสีย
of 9