พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายความไม่อำนาจมอบหมายให้ผู้อื่นยื่นอุทธรณ์แทนอีกทอดหนึ่ง
ทนายความจะแต่งตั้งให้บุคคลอื่นยื่นคำฟ้องอุทธรณ์แทนทนายความ อีกทอดหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472-1473/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ต้องระบุประเด็นชัดเจนต่อเนื่องจากอุทธรณ์เดิม ศาลต้องพิจารณาตามประเด็นที่อุทธรณ์
ฟ้องอุทธรณ์หรือฟ้องฎีกาจะต้องตั้งประเด็นตามมาตรา 225 และต้องแสดงเหตุผลประกอบตามมาตรา 172 ป.ม.วิ.แพ่ง
ศาลชั้นต้นสืบพะยานของ ป.สองปากแล้วสั่งงดสืบพะยานของ ป. และพิพากษาให้ ป.แพ้คดี ป.ยื่นอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานไม่ชอบ และว่าพะยานหลักฐานของ ป.เท่าที่สืบมาแล้วควรฟังได้ เพราะเหตุใด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่เรื่องงดสืบพะยาน แล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสืบพะยานต่อไปและพิพากษาใหม่ศาลชั้นต้นสืบพะยานแล้วพิพากษาให้ ป.แพ้คดีตามเดิม ป.ยื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 บรรยาย การดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นและกล่าวว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลและข้อกฎหมายดังที่ ป.ได้ยกเป็นองค์อุทธรณ์ ในคำฟ้องอุทธรณ์เดิมแล้วขอศาลอุทธรณ์ได้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ฉะบับเดิมของ ป.มาเป็นองค์อุทธรณ์ในชั้นนี้ทุกประการด้วย ดังนี้เห็นได้ว่า คำฟ้องอุทธรณ์ใหม่ของ ป.ต่อเนื่องมาจากคำฟ้องอุทธรณ์เดิม ไม่ได้อ้างถึงถ้อยคำอื่นในสำนวนเช่นคำแถลงการณ์เป็นต้น แต่ต้องอ้างถึงคำฟ้องอุทธรณ์ด้วยกันและต่อเนื่องกัน จึงเป็นอุทธรณ์ที่ใช้ได้ตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นสืบพะยานของ ป.สองปากแล้วสั่งงดสืบพะยานของ ป. และพิพากษาให้ ป.แพ้คดี ป.ยื่นอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานไม่ชอบ และว่าพะยานหลักฐานของ ป.เท่าที่สืบมาแล้วควรฟังได้ เพราะเหตุใด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่เรื่องงดสืบพะยาน แล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสืบพะยานต่อไปและพิพากษาใหม่ศาลชั้นต้นสืบพะยานแล้วพิพากษาให้ ป.แพ้คดีตามเดิม ป.ยื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 บรรยาย การดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นและกล่าวว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลและข้อกฎหมายดังที่ ป.ได้ยกเป็นองค์อุทธรณ์ ในคำฟ้องอุทธรณ์เดิมแล้วขอศาลอุทธรณ์ได้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ฉะบับเดิมของ ป.มาเป็นองค์อุทธรณ์ในชั้นนี้ทุกประการด้วย ดังนี้เห็นได้ว่า คำฟ้องอุทธรณ์ใหม่ของ ป.ต่อเนื่องมาจากคำฟ้องอุทธรณ์เดิม ไม่ได้อ้างถึงถ้อยคำอื่นในสำนวนเช่นคำแถลงการณ์เป็นต้น แต่ต้องอ้างถึงคำฟ้องอุทธรณ์ด้วยกันและต่อเนื่องกัน จึงเป็นอุทธรณ์ที่ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472-1473/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ต้องชัดเจนและต่อเนื่อง โดยอ้างอิงประเด็นเดิมได้ หากไม่ได้อ้างอิงถ้อยคำอื่นในสำนวน
ฟ้องอุทธรณ์หรือฟ้องฎีกาจะต้องตั้งประเด็นตามมาตรา 225 และต้องแสดงเหตุผลประกอบตามมาตรา 172ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นสืบพยานของ ป.สองปากแล้วสั่งงดสืบพยานของป.และพิพากษาให้ป.แพ้คดี ป.ยื่นอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานไม่ชอบ และว่าพยานหลักฐานของ ป.เท่าที่สืบมาแล้วควรฟังได้ เพราะเหตุใด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่เรื่องงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสืบพยานต่อไปและพิพากษาใหม่ ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาให้ ป.แพ้คดีตามเดิม ป.ยื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 บรรยายการดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นและกล่าวว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลและข้อกฎหมายดังที่ ป. ได้ยกเป็นองค์อุทธรณ์ ในคำฟ้องอุทธรณ์เดิมแล้ว ขอศาลอุทธรณ์ได้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ฉบับเดิมของ ป.มาเป็นองค์อุทธรณ์ในชั้นนี้ทุกประการด้วยดังนี้เห็นได้ว่า คำฟ้องอุทธรณ์ใหม่ของ ป.ต่อเนื่องมาจากคำฟ้องอุทธรณ์เดิม ไม่ได้อ้างถึงถ้อยคำอื่นในสำนวนเช่นคำแถลงการณ์เป็นต้น จึงเป็นอุทธรณ์ที่ใช้ได้ตามกฎหมาย แต่อ้างถึงคำฟ้องอุทธรณ์ด้วยกันและต่อเนื่องกัน
ศาลชั้นต้นสืบพยานของ ป.สองปากแล้วสั่งงดสืบพยานของป.และพิพากษาให้ป.แพ้คดี ป.ยื่นอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานไม่ชอบ และว่าพยานหลักฐานของ ป.เท่าที่สืบมาแล้วควรฟังได้ เพราะเหตุใด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่เรื่องงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสืบพยานต่อไปและพิพากษาใหม่ ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาให้ ป.แพ้คดีตามเดิม ป.ยื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 บรรยายการดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นและกล่าวว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลและข้อกฎหมายดังที่ ป. ได้ยกเป็นองค์อุทธรณ์ ในคำฟ้องอุทธรณ์เดิมแล้ว ขอศาลอุทธรณ์ได้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ฉบับเดิมของ ป.มาเป็นองค์อุทธรณ์ในชั้นนี้ทุกประการด้วยดังนี้เห็นได้ว่า คำฟ้องอุทธรณ์ใหม่ของ ป.ต่อเนื่องมาจากคำฟ้องอุทธรณ์เดิม ไม่ได้อ้างถึงถ้อยคำอื่นในสำนวนเช่นคำแถลงการณ์เป็นต้น จึงเป็นอุทธรณ์ที่ใช้ได้ตามกฎหมาย แต่อ้างถึงคำฟ้องอุทธรณ์ด้วยกันและต่อเนื่องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกา: สิทธิของโจทก์ก่อนคู่ความตอบโต้
โจทก์ขอถอนฟ้องฎีกาก่อนจำเลยยื่นคำแก้ฎีกา ทำเป็นคำแถลงได้ และศาลฎีกาอนุญาตให้ถอนฎีกาได้โดยไม่ต้องฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องฎีกาทำได้ก่อนยื่นคำแก้ฎีกา ศาลอนุญาตได้โดยไม่ต้องฟังคู่ความอีกฝ่าย
โจทก์ขอถอนฟ้องฎีกา ก่อนจำเลยยื่นคำแก้ฎีกา ทำเป็นคำแถลงได้ และศาลฎีกาอนุญาตให้ถอนฎีกาได้โดยไม่ต้องฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของสำเนาฟ้อง: ศาลอ่านฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว ถือเป็นหลักสำคัญ มิใช่สำเนาฟ้อง
สำเนาฟ้องของโจทก์มีข้อความผิดพลาดไม่ตรงกับข้อความในฟ้องฉะบับที่ยื่นต่อศาล แต่ศาลได้อ่านฟ้องให้จำเลยฟัง และศาลยังบอกให้จำเลยเข้าใจว่า ให้ถือเอาข้อความตามฟ้องที่ศาลอ่าน จำเลยทราบดีว่าตามฟ้องโจทก์กล่าวหามีข้อความเป็นอย่างไร และสำเนาฟ้องที่โจทก์นำส่งให้จำเลยมีข้อความผิดพลาด ไม่ตรงกับฟ้องอย่างไรบ้าง ดังนี้ ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาฟ้องผิดพลาดไม่กระทบสิทธิจำเลย หากศาลอ่านฟ้องให้ฟังและจำเลยทราบข้อกล่าวหา
สำเนาฟ้องของโจทก์มีข้อความผิดพลาดไม่ตรงกับข้อความในฟ้องฉบับที่ยื่นต่อศาลแต่ศาลได้อ่านฟ้องให้จำเลยฟังและศาลยังบอกให้จำเลยเข้าใจว่าให้ถือเอาข้อความตามฟ้องที่ศาลอ่าน จำเลยทราบดีว่าตามฟ้องโจทก์กล่าวหามีข้อความเป็นอย่างไรและสำเนาฟ้องที่โจทก์นำส่งให้จำเลยมีข้อความผิดพลาดไม่ตรงกับฟ้องอย่างไรบ้าง ดังนี้ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกสมรส: สิทธิและวิธีการดำเนินการตามกฎหมาย
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตรนั้น เมื่อมีเหตุตามมาตรา 1529 แล้ว ก็ขอได้
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตรนั้น ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ต้องฟ้องบิดาเป็นจำเลย ถ้าบิดาตายแล้ว ก็ยื่นเป็นคำร้องอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตรนั้น ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ต้องฟ้องบิดาเป็นจำเลย ถ้าบิดาตายแล้ว ก็ยื่นเป็นคำร้องอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบุตรนอกสมรสขอรับรองสถานะทางกฎหมาย: เงื่อนไขและวิธีการฟ้องร้อง
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตร์นั้น เมื่อมีเหตุตามมาตรา 1529 แล้ว ก็ขอได้.
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตร์นั้น ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ต้องฟ้องบิดาเป็นจำเลย ถ้าบิดาตายแล้ว ก็ยื่นเป็นคำร้องอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท
การขอให้รับรองเด็กเป็นบุตร์นั้น ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ต้องฟ้องบิดาเป็นจำเลย ถ้าบิดาตายแล้ว ก็ยื่นเป็นคำร้องอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การกระทำของบุตรไม่ผูกพันจำเลยในคดีกับโจทก์
จำเลยฎีกาอ้างเหตุในข้อกฎหมายว่า บุตร์จำเลยเคยแสดงตนเป็นเจ้าของทรัพย์รายพิพาท โจทก์ก็มิได้คัดค้านดังนี้เหตุนี้ หายกขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ไม่เพระไม่ใช่เป็นเหตุส่วนตัวของจำเลยเอง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้