คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 1 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของบุตรไม่ผูกพันจำเลยในคดีแพ่ง การอ้างกรรมสิทธิ์ของบุตรใช้ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยฎีกาอ้างเหตุในข้อกฎหมายว่า บุตรจำเลยเคยแสดงตนเป็นเจ้าของทรัพย์รายพิพาท โจทก์ก็มิได้คัดค้าน ดังนี้เหตุนี้ หายกขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ไม่ เพราะไม่ใช่เป็นเหตุส่วนตัวของจำเลยเองศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุตติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การปฏิบัติตามสัญญา, เบี้ยปรับ, และการลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ขายฝาก: สิทธิของผู้รับซื้อฝากและสิทธิในการคัดค้านของจำเลย
โจทก์ผู้ชนะความจะยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้เพื่อขายทอดตลาดไม่ได้เพราะกรรมสิทธิ์ตกอยู่แก่ผู้รับซื้อฝากไม่ใช่ตกอยู่แก่จำเลย ในกรณีที่โจทก์ยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้จำเลยร้องคัดค้านได้ โดยถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 ในกรณียึดทรัพย์เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกา ก็ต้องเสียค่าขึ้นศาล เพราะถือว่าอุทธรณ์และฎีกานั้นเป็นคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์ขายฝาก: กัมสิทธิ์ตกแก่ผู้รับซื้อฝาก ไม่ใช่จำเลยขายฝาก การยึดทรัพย์จึงไม่ชอบ
โจทผู้ชนะความจะยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้เพื่อขายทอดตลาดไม่ได้เพราะกัมสิทธิตกหยู่แก่ผู้รับซื้อฝาก ไม่ไช่ตกหยู่แก่จำเลย
ไนกรนีที่โจทยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้จำเลยร้องคัดค้านได้ โดยถือว่าเปนผู้มีส่วนได้เสียตามวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา 280
ไรกรนียึดทรัพย์เมื่อโจทอุธรน์ดีกา ก็ต้องเสียค่าขึ้นสาล เพราะถือว่าอุธรน์และดีกานั้นเปนคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพครอบคลุมข้อหาทางแพ่งได้หรือไม่: การขยายความ 'ข้อหา' ให้รวมถึงคดีแพ่ง
ฟ้องไนทางแพ่งก็เรียกว่าเปนข้อหาได้ตามม. 1(3)
โจทฟ้องว่าค่าโคโดยไม่ได้รับอนุญาตและว่าสัญญาจ่ายสินบนนำจับด้วย เมื่อจำเลยไห้การรับเต็มข้อหา ก็ย่อมรับร่วมถึงเงินสินบนนำจับด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับข้อหาในคดีแพ่งย่อมรวมถึงข้อผูกพันในสัญญา
ฟ้องในทางแพ่งก็เรียกว่าเป็นข้อหาได้ตาม มาตรา 1(3) โจทก์ฟ้องว่าฆ่าโคโดยไม่ได้รับอนุญาตและว่าสัญญาจ่ายสินบนนำจับด้วย เมื่อจำเลยให้การรับเต็มข้อหา ก็ย่อมรับร่วมถึงเงินสินบนนำจับด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลกรณีดีกาคำสั่งบังคับคดีและการแปลความหมายคำพิพากษา
ดีกาคำสั่งชั้นบังคับคดีเปนฟ้องดีกาตามป.ม.วิ.แพ่งม. 1(3) ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นสาลตาม ม. 149,150.
ดีกาคำสั่งเรื่องแปลความหมายไนคำพิพากสาของสาลนั้นเปนคำขอไห้ปลดเปลื้องทุขไม่อาดคำนวนเปนราคาเงินได้ จึงต้องเรียกค่าขึ้นสาลตามข้อ 2 ไนตาราง 1 ท้ายป.ม.วิธีพิจารนาแพ่ง,
คำพิพากสาสาลชั้นต้นซึ่งมีความว่าไห้จำเลยปติบัติตามที่สาลสั่งบังคับไน 1 เดือนนั้นหมายฉเพาะบังคับจำเลยซึ่งเปนฝ่ายแพ้ไม่ไช่บังคับฝ่ายโจทด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลฎีกา: คำสั่งบังคับคดีและแปลความหมายคำพิพากษา
ฎีกาคำสั่งชั้นบังคับคดีเป็นฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(3) ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลตาม มาตรา 149,150 ฎีกาคำสั่งเรื่องแปลความหมายในคำพิพากษาของศาลนั้นเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงต้องเรียกค่าขึ้นศาลตาม ข้อ 2 ในตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งมีความว่าให้จำเลยปฏิบัติตามที่ศาลสั่งบังคับใน 1 เดือนนั้นหมายเฉพาะบังคับจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายแพ้ไม่ใช่บังคับฝ่ายโจทก์ด้วย ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับโอนที่ดินตามสัญญาซื้อขาย และการคำนวณค่าขึ้นศาลในคดีที่ขอให้ปลดเปลื้องทุกข์
ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้ค่าเสียหายดังนี้ เมื่อปรากฎว่าจำเลยยังสามารถกระทำการโอนให้ได้ แลถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ย่อมถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาได้
การฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินให้นั้นถือว่าเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาที่ดิน
of 16