คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 288.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการปล่อยทรัพย์: ศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์ไม่โต้แย้ง ถือเป็นที่สุด ส่วนข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในมรดกต้องไปฟ้องร้องอีกคดี
ในชั้นบังคับคดีมีผู้ร้องหลายรายร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีก็ย่อมเสร็จสิ้นไป ผู้ร้องด้วยกันจะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ร้องด้วยกันและจำเลยว่าฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิในทรัพย์สินนั้นอีกนั้น ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ควรจะต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องคัดค้านการยึดและการเพิกถอนสัญญายอมความต้องดำเนินการโดยการฟ้อง ไม่ใช่คำร้อง
โจทก์นำยึดนามีโฉนดของจำเลย ขอให้ศาลประกาศขายทอดตลาด เพื่อชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาท้ายยอม ปรากฎว่านารายนี้จำเลยได้ทำสัญญาขายให้ผู้ร้องไปครอบครองปีกว่าแล้ว แต่ยังติดขัดโอนโฉนดกันยังไม่ได้ เมื่อเกิดมีคดีระหว่างโจทก์จำเลยขึ้น ผู้ร้องจึงยื่นฟ้องจำเลยบ้างขอให้นาพิพาทแก่ผู้ร้อง และเมื่อนาพิพาทถูกโจทก์ยึดดังกล่าว ผู้ร้องจึงร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญายอมความระหว่างโจทก์จำเลยตามคำพิพากษาท้ายยอม และให้ถอนการยึด ดังนี้ วินิจฉัยว่า ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิจะมาร้องขอให้ถอนการยึดได้ และการขอให้จำเลยทำลายสัญญายอมความและคำพิพากษาท้ายยอม ก็ต้องทำเป็นฟ้องไม่ใช่ทำเป็นคำร้อง แม้ในคดีที่ผู้ร้องฟ้องจำเลยให้โอนนาพิพาทให้แก่ผู้ร้องศาลจะได้พิพากษาในภายหลังให้จำเลยโอนนาพิพาทให้ผู้ร้องตามสัญญาซื้อขายก็ดี ก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะต้องดำเนินการบังคับคดีนั้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องขัดทรัพย์: ศาลไม่อำนาจพิจารณาค่าเสียหายในชั้นขัดทรัพย์ ผู้ร้องต้องฟ้องแยกต่างหาก
การร้องขัดทรัพย์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 นั้น กฎหมายให้อำนาจผู้ร้องที่จะร้องขอได้ แต่เพียงให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดเท่านั้นจะเรียกร้องค่าเสียหายในการที่ถูกยึดด้วยไม่ได้ หากติดใจเรียกร้องเอาค่าเสียหาย ก็ต้องว่ากล่าวอีกส่วนหนึ่ง
ร้องขัดทรัพย์ และตั้งทุนทรัพย์มาเป็นเงิน 2000 บาท กับเรียกค่าเสียหายอีก 1000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ทักท้วงประการใดคงรับวินิจฉัยคดีให้ ในที่สุดพิพากษาต้องกันว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ มิใช่ของผู้ร้อง จึงยกคำร้องของผู้ร้องเสียดังนี้ ผู้ร้องจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่พิพาทในคดี ถือได้ว่ามีเพียง 2000 บาท เท่านั้น ส่วนค่าเสียหายอีก 1000 บาท ผู้ร้องจะร้องขึ้นมาด้วยไม่ได้ ต้องตัดออกเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละมฤดกโดยเอกสารปรานีประนอมยอมความ: ผลผูกพันต่อผู้รับมฤดกอื่น
ผู้รับมฤดกได้ทำเอกสารเป็นการปราณีประนอมยอมความในการสละมฤดกถูกต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1612, 850 และผู้รับมฤดกผู้รับผิดได้ลงชื่อไว้ให้แล้ว ผู้รับมฤดกคนอื่นที่มิได้สละสิทธิไม่จำต้องลงชื่อด้วย ก็ย่อมใช้ได้และผูกพันผู้รับมฤดกที่สละมฤดกนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการปล่อยทรัพย์สิน: สิทธิของเจ้าของรวม
ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 นั้นการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ ต้องเป็นกรณีที่กล่าวอ้างว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษามิใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นอยู่ด้วย ศาลต้องยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ปล่อยการยึดเสีย เพราะกรรมสิทธิของเจ้าของร่วม แต่ละคนย่อมครอบไปเหนือทรัพย์สินทั้งหมด จนกว่าจะมีการแบ่ง ผู้ร้องมีทางที่จะเรียกร้องขอแบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของรวมได้ในทางการบังคับคดี ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 287.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์มฤดกที่จำเลยครอบครองแทนทายาท ไม่ถือเป็นทรัพย์สินของจำเลย ศาลต้องถอนการยึด
ทรัพย์ที่ศาลสั่งยึดปรากฎว่าเป็นทรัพย์มฤดกของภรรยาจำเลย ซึ่งได้รับมฤดกมาจากบิดามารดา ร่วมกับทายาทคนอื่น ๆ แต่ทายาทได้มอบให้จำเลยกับภริยาครอบครองแทนทำได้ผลประโยชน์ก็แบ่งปันกัน ดังนี้ หาเป็นทรัพย์ของจำเลยไม่ ศาลต้องถอนการยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินราชพัสดุ: ผู้ไม่มีอำนาจยึด และสิทธิในการเรียกร้องค่าฤชาธรรมเนียม
ที่ดินซึ่งกระทรวงการคลังรับโอนจากเอกชนมาขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ แล้วเอามาให้เอกชนเช่าอยู่นั้น ย่อมเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
ที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ผู้ใดไม่มีอำนาจยึด
ผู้ร้องชนะคดีโจทก์ชั้นศาลอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดค่าฤชาธรรมเนียมให้โจทก์ชำระแทนผู้ร้อง ๆ ย่อมฎีกาฉะเพาะค่าฤชาธรรมเนียมได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 168 เพราะศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดค่าฤชาธรรมเนียมไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความข้อตกลงยอมความแบ่งทรัพย์สิน: ศาลฎีกาให้ความสำคัญกับถ้อยคำที่ใช้ในสัญญา
ทำสัญญายอมความต่อศาล ๆ จดว่าโจทก์ยอมให้ที่พิพาทหมายเลข 3 กับที่หมายเลข 1 กับหมายเลข 2 โจทก์จำเลยตกลงกันแบ่งคนละครึ่งนั้นหมายความว่าที่หมายเลข 3-1 โจทก์ยอมยกให้จำเลยทั้งแปลง ส่วนหมายเลข 2 โจทก์จำเลยแบ่งกันคนละครึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์ขายฝาก: กัมสิทธิ์ตกแก่ผู้รับซื้อฝาก ไม่ใช่จำเลยขายฝาก การยึดทรัพย์จึงไม่ชอบ
โจทผู้ชนะความจะยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้เพื่อขายทอดตลาดไม่ได้เพราะกัมสิทธิตกหยู่แก่ผู้รับซื้อฝาก ไม่ไช่ตกหยู่แก่จำเลย
ไนกรนีที่โจทยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้จำเลยร้องคัดค้านได้ โดยถือว่าเปนผู้มีส่วนได้เสียตามวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา 280
ไรกรนียึดทรัพย์เมื่อโจทอุธรน์ดีกา ก็ต้องเสียค่าขึ้นสาล เพราะถือว่าอุธรน์และดีกานั้นเปนคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์และการขัดทรัพย์: ผลของการยกคำร้องขัดทรัพย์ต่อการดำเนินการบังคับคดี
สาลไห้ยกคำร้องขัดทรัพย์ แต่ไม่ได้ไห้เพิกถอนนิติกัมซึ่งโอนระหว่างจำเลยและผู้ร้อง ผู้ร้องก๋ขอไห้ถอนการยึดไม่ได้ เพระาคำร้องขอขัดทรัพย์ถูกยกไปแล้ว.