คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 33

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4117/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้เช่าซื้อรับชำระค่างวดต่อหลังจำเลยใช้รถผิดกฎหมาย ย่อมเป็นการรู้เห็นเป็นใจและไม่มีสิทธิเรียกร้องคืน
จำเลยนำรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจากผู้ร้องไปใช้กระทำความผิดโดยผู้ร้องรู้และมิได้บอกเลิกสัญญาแต่กลับรับชำระค่าเช่าซื้อต่อไปอีก พฤติการณ์ของ ผู้ร้องจึงเป็นเพียงประสงค์จะได้รับค่าเช่าซื้อเท่านั้น และการที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง ก็เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์แก่จำเลยที่จะได้รับรถยนต์ของกลางไปจากผู้ร้องในภายหลังอันถือได้ว่าเป็นการร่วมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3617/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องขอคืนของกลางที่ศาลฎีกาเคยยกคำร้องแล้ว และประเด็นสินสมรสยังไม่สิ้นสุด
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลสั่งริบไว้แก่ผู้ร้องครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องเพราะผู้ร้องบรรยายคำร้องว่ารถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้เดียวจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้โดยผู้ร้องมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 โดยยังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดีที่ว่ารถยนต์ของกลางเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 หรือไม่สิทธิยื่นคำร้อง ของ ผู้ร้องจึงยังไม่ระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3617/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องขอคืนของกลางที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว แต่ยังสามารถยื่นคำร้องใหม่ได้ หากคำร้องเดิมไม่ครอบคลุมประเด็นสินสมรสและการรู้เห็นเป็นใจ
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลสั่งริบไว้แก่ผู้ร้องครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องเพราะผู้ร้องบรรยายคำร้องว่ารถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้เดียวจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้โดยผู้ร้องมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 โดยยังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดีที่ว่ารถยนต์ของกลางเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 หรือไม่สิทธิยื่นคำร้อง ของ ผู้ร้องจึงยังไม่ระงับไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวสารที่เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดเลียนเครื่องหมายการค้า
จำเลยทั้งสองร่วมกันทำเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นแล้วนำไปติดประทับไว้ที่กระสอบซึ่งมีข้าวสารเจ้าบรรจุอยู่ และร่วมกันเสนอจำหน่ายและจำหน่ายข้าวสารเจ้านั้นแก่ผู้ซื้อข้าวสารเจ้าทั้งหมดจึงเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลมีคำสั่งรับได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้าและจำหน่ายสินค้าปลอม ศาลมีอำนาจริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยทั้งสองร่วมกันทำเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นแล้วนำไปติดประทับไว้ที่กระสอบซึ่งมีข้าวสารเจ้าบรรจุอยู่ และร่วมกันเสนอจำหน่ายและจำหน่ายข้าวสารเจ้านั้นแก่ผู้ซื้อข้าวสารเจ้าทั้งหมดจึงเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้าและการเสนอขายสินค้าปลอม ศาลมีอำนาจริบข้าวสารที่เป็นของกลางได้
จำเลยทั้งสองร่วมกันทำเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นแล้วนำไปติดประทับไว้ที่กระสอบซึ่งมีข้าวสารเจ้าบรรจุอยู่ และร่วมกันเสนอจำหน่ายและจำหน่ายข้าวสารเจ้านั้นแก่ผู้ซื้อข้าวสารเจ้าทั้งหมดจึงเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปและประเด็นการริบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ
การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่ จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปและประเด็นการริบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ
การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่ จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปและการริบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการซ่อนพระพุทธรูปไม่ทำให้เสียสภาพการสักการะ และรถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง
การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะ บูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรมหาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะ บูชาไม่.
จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะ ไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึง ริบได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบธุรกิจเงินทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ประกอบธุรกิจเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ในรูปบริษัทมหาชน จำกัด โดยไม่ได้รับความเห็นชอบและไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินทุนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ความผิดของจำเลยที่ 1เกิดขึ้นเนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ฉะนั้นของกลางซึ่งเป็นสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาให้กู้ยืมเงินสมุดบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ไม่ใช่ของที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงริบไม่ได้.
of 55