คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 33

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเกวียนและกระบือที่ใช้ในการขนย้ายไม้ผิดกฎหมาย ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด
การใช้เกวียนและกระบือบรรทุกไม้แปรรูปผิดกฎหมายจากป่ามาไว้ที่เรือนนั้นเป็นการใช้เกวียนและกระบือเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด เกวียนและกระบือต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 18

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด แม้จะไม่อยู่ในอำนาจเจ้าพนักงาน
ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งบัญญัติเรื่องการริบทรัพย์สินนั้น มิได้บัญญัติให้ริบเฉพาะทรัพย์ที่นำมาอยู่ในอำนาจของศาลหรือเจ้าพนักงานเท่านั้น แต่มุ่งหมายถึงทรัพย์ที่บุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดเป็นสาระสำคัซญ ฉะนั้น ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดแม้จะไม่มีอยู่ที่เจ้าพนักงานก็ตาม ศาลก็สั่งให้ริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด แม้จะไม่อยู่ในความครอบครองของเจ้าพนักงาน
ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งบัญญัติเรื่องการริบทรัพย์สินนั้น มิได้บัญญัติให้ริบเฉพาะทรัพย์ที่นำมาอยู่ในอำนาจของศาลหรือ เจ้าพนักงานเท่านั้นแต่มุ่งหมายถึงทรัพย์ที่บุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดเป็นสาระสำคัญฉะนั้น ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดแม้จะไม่มีอยู่ที่เจ้าพนักงานก็ตาม ศาลก็สั่งให้ริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์เป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ แม้เจ้าของรถจะไม่มีส่วนรู้เห็น
การสั่งริบของกลางในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ ซึ่งบัญญัติไว้เป็นพิเศษต่างหากจากประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราตามกฎหมายโดยิมได้รับอนุญาตตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ส. 2484 เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ริบรถยนต์ที่จำเลยขับบรรทุกไม้ของกลางนี้มาจากป่าและถูกยึดไว้เป็นของกลางด้วยได้ เพราะรถยนต์นี้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการมีไม้หวงห้ามนั้นตามมาตรา 74 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์เป็นอุปกรณ์ในการกระทำความผิดฐานมีไม้หวงห้าม ต้องพิจารณาว่ารถยนต์ช่วยให้เกิดผลในการกระทำผิดหรือไม่
การสั่งริบของกลางในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ ซึ่งบัญญัติไว้เป็นพิเศษต่างหากจากประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราตามกฎหมายโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ริบรถยนต์ที่จำเลยขับบรรทุกไม้ของกลางนี้มาจากป่าและถูกยึดไว้เป็นของกลางด้วยได้ เพราะรถยนต์นี้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการมีไม้หวงห้ามนั้นตามมาตรา 74 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางแม้ผู้รับโอนจะสุจริต: สิทธิในทรัพย์สินเกิดขึ้นหลังการกระทำผิด
กระบือที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรนั้นหากผู้ร้องได้รับโอนกระบือนั้นไว้จากจำเลยภายหลังวันจำเลยกระทำผิด แม้จะโดยสุจริตก็ตาม ก็ถือได้ว่าในวันจำเลยกระทำผิดนั้น ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของกระบือนั้น จึงไม่เป็นเหตุที่จะให้กระบือนั้นรอดพ้นจากการถูกริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,34 ไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางแม้ผู้ซื้อสุจริตหลังกระทำผิด: สิทธิในทรัพย์สินเกิดหลังการกระทำผิด
กระบือที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรนั้น หากผู้ร้องได้รับโอนกระบือนั้นไว้จากจำเลยภายหลังวันจำเลยกระทำผิด แม้จะโดยสุจริตก็ตาม ก็ถือได้ว่าในวันจำเลยกระทำผิดนั้น ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของกระบือนั้น จึงไม่เป็นเหตุที่จะให้กระบือนั้นรอดพ้นจากการถูกริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 34 ไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคืนของกลาง: ศาลอนุญาตแก้ไขคำร้องได้ และไม่จำกัดเวลาการขอคืนก่อนคดีถึงที่สุด
คำร้องขอคืนของกลางนั้นไม่ใช่เป็นการฟ้องกล่าวหาผู้ใดกระทำผิดกฎหมาย และไม่ใช่คำร้องในทางแพ่ง ศาลจึงอนุญาตให้แก้ไขได้โดยไม่ต้องสอบถามคู่ความก่อน
คำร้องขอคืนของกลางไม่จำต้องอ้างตัวบทกฎหมาย ศาลยกขึ้นปรับวินิจฉัยเองได้
ร้องขอคืนทรัพย์ของกลางก่อนคดีถึงที่สุดได้ เพราะตามมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติเพียงว่า ในการที่เจ้าของแท้จริงจะร้องขอต่อศาลให้สั่งคืนทรัพย์สินในกรณีที่ศาลสั่งริบตามมาตรา 33 นั้น จะต้องร้องขอคืนต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดเท่านั้น หาได้บัญญัติห้ามไม่ให้ร้องขอคืนก่อนกำหนดดังกล่าวนี้ไม่ แต่ถ้าร้องขอคืนเกินกว่าหนึ่งปีนับจากวันมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วก็ตกอยู่ในเกณฑ์ถูกบัญญัติห้ามตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสื่อรองโขกโบกเป็นเครื่องมือการพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องพิจารณาพฤติการณ์
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 วรรค 2 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริง แต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อหรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้
3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป้นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 วรรค 2 การริบหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของศาล แต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบ ก็สั่งไม่ริบได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสื่อปรือรองโขกโบกเป็นเครื่องมือพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องใช้ดุลพินิจ
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย 2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริงแต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อปรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้ 3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองการริบหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลแต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบก็สั่งไม่ริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)
of 55