พบผลลัพธ์ทั้งหมด 410 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินต่อเนื่องหลังการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นการบุกรุก หากไม่มีการพ้นจากการครอบครอง
ที่ดินที่จำเลยใช้อยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวแม้ต่อมาจะตกเป็นของโจทก์ร่วม และจำเลยยอมรับว่าจะไม่รบกวนการเข้าทำประโยชน์โดยยอมรับเงินจากโจทก์ร่วมเป็นการตอบแทน การที่จำเลยยังคงอยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวรวมทั้งขัดขวางมิให้โจทก์ร่วมเข้าทำประโยชน์ เป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้เท่านั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าจำเลยพ้นจากการครอบครองที่ดินดังกล่าวไปอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงกลับเข้าไปทำประโยชน์อีก การที่จำเลยเข้าไปปลูกต้นไม้จึงเป็นการกระทำต่อเนื่องจากที่เคยทำ ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำประโยชน์ในที่ดินหลังยอมรับเงินชดเชย ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก หากยังไม่ได้พ้นจากการครอบครอง
ที่ดินที่จำเลยใช้อยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวแม้ต่อมาจะตกเป็นของโจทก์ร่วม และจำเลยยอมรับว่าจะไม่รบกวนการเข้าทำประโยชน์โดยยอมรับเงินจากโจทก์ร่วมเป็นการตอบแทน การที่จำเลยยังคงอยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวรวมทั้งขัดขวางมิให้โจทก์ร่วมเข้าทำประโยชน์ เป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้เท่านั้นเมื่อไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าจำเลยพ้นจากการครอบครองที่ดินดังกล่าวไปอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงกลับเข้าไปทำประโยชน์อีก การที่จำเลยเข้าไปปลูกต้นไม้จึงเป็นการกระทำต่อเนื่องจากที่เคยทำไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินต่อเนื่องหลังทำสัญญาไม่รบกวน ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญา ไม่ใช่ความผิดฐานบุกรุก
แม้ในขณะเกิดเหตุโจทก์ร่วมจะเป็นเจ้าของที่ดินและจำเลยตกลงว่าจะไม่รบกวนการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยยอมรับเงินจำนวนหนึ่งไปจากโจทก์ร่วมเป็นค่าตอบแทนก็ตาม แต่เนื่องจากจำเลยเคยอยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน และยังไม่พ้นไปจากการครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ฉะนั้นการที่จำเลยเข้าไปปลูกต้นไม้รวมทั้งขัดขวางมิให้โจทก์ร่วมทำประโยชน์ในที่ดินในเวลาต่อมาถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องจากที่เคยทำ จึงเป็นเรื่องที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาเท่านั้น หาเป็นความผิดฐานบุกรุกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดิน: การแย่งกรรมสิทธิ์ทำให้ไม่เข้าข่ายความผิดอาญา
โจทก์และจำเลยต่างนำสืบโต้แย้งแย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทกันอยู่ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงหรือไม่ มูลกรณีจึงเป็นเรื่องคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา การที่จำเลยเข้าไปในที่ดินพิพาทแล้วตักดินและต้นไม้ไปจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกและลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุกที่ดินราชพัสดุ - ความเข้าใจผิดโดยสุจริต - ขาดเจตนา - ยกฟ้อง
จำเลยเข้าทำประโยชน์ในที่ราชพัสดุอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์ของกรมตำรวจ แต่กรมตำรวจมิได้มีการทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวไม่มีประกาศในที่ดินดังกล่าวเพื่อให้ราษฎรทราบโดยเปิดเผยว่าเป็นที่ส่วนของทางราชการ จำเลยเข้าใจว่าไม่ใช่ที่สงวนหวงห้ามจึงได้ซื้อและเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์มาตลอดก็ไม่มีเจ้าพนักงานผู้ใดทักท้วงหวงห้าม นอกจากจำเลยแล้วยังมีราษฎรอื่นอีกหลายรายยึดถือครอบครองเช่นกัน เมื่อมีการห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุ จำเลยก็ไม่ยอมพฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยหลงเข้าใจโดยสุจริตว่าที่เกิดเหตุเป็นของจำเลยการกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนาที่จะเข้าถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นอันจะเป็นความผิดอาญาฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: ความผิดสำเร็จเมื่อเริ่มรบกวนการครอบครอง ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
ความผิดฐานบุกรุกเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่จำเลยเข้าไปรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาท ส่วนการที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้นหาใช่ความผิดต่อเนื่อง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 362 บทเดียวหาเป็นความผิดตามมาตรา 365(3) อีกบทหนึ่งไม่ ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้แม้จำเลยจะไม่ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4635/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: การใช้สิทธิของตนเองไม่ถือเป็นการรบกวนกรรมสิทธิ์หากเจ้าของยังไม่ได้รับมอบครอง
ความผิดบานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362มีความหมายเป็น 2 ตอน ตอนแรกรบกวนกรรมสิทธิ์ตอนที่สองรบกวนสิทธิครอบครอง โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวพิพาท แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าไปอยู่อาศัย เนื่องจากตึกทรุดและอยู่ระหว่างที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 กับพวกต่อศาลแพ่งให้ส่งมอบตึกแถวในสภาพเรียบร้อย แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้รับมอบการครอบครองตึกแถวพิพาท การที่จำเลยที่ 1 นำเสาเข็มและอิฐมอญจำนวนมากไปวางใต้กันสาดตึกแถวจึงเป็นเพียงการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับ ความเสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางแพ่งยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4635/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดบุกรุกต้องรบกวนการครอบครอง หากแค่ใช้สิทธิของตนเองไม่ถือเป็นบุกรุก
ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362มีความหมายเป็น 2 ตอน ตอนแรกรบกวนกรรมสิทธิ์ ตอนที่สองรบกวนสิทธิครอบครอง โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวพิพาท แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าไปอยู่อาศัย เนื่องจากตึกทรุดและอยู่ระหว่างที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 กับพวกต่อศาลแพ่งให้ส่งมอบตึกแถวในสภาพเรียบร้อย แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้รับมอบการครอบครองตึกแถวพิพาท การที่จำเลยที่ 1 นำเสาเข็มและอิฐมอญจำนวนมากไปวางใต้กันสาดตึกแถว จึงเป็นเพียงการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ในทางแพ่ง ยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2912/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันสมควรในการเข้าไปถามเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับมารดา
การที่จำเลยเดินเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเพราะต้องการถามผู้เสียหายว่า ด่ามารดาจำเลยด้วยเรื่องอะไร ถือว่าจำเลยมีเหตุอันสมควรเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและข่มขู่ด้วยอาวุธ: ศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกแม้โจทก์ไม่ได้ขอโทษฐานนี้
การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปบ้านผู้เสียหายในเวลากลางคืนโดยจำเลยที่ 1 ถือพร้ายืนคุมเชิงอยู่ที่บันไดบ้าน และจำเลยที่ 2ใช้มีดกดคอและใช้ปืนจี้ศีรษะผู้เสียหายแล้วขู่ว่าจะยิงหากขัดขืนจะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้ จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร ตามมาตรา 364 แม้โจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษตามมาตราดังกล่าวมาด้วย แต่ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยทั้งสองเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร ดังนี้ ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามมาตรา 365 ประกอบมาตรา 364 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคห้าได้