คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 362

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 410 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินเมื่อสิทธิครอบครองยังไม่ชัดเจน ไม่เป็นความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกขนำในที่ดินของผู้เสียหายเมื่อข้อเท็จจริงตามที่โจทก์และจำเลยนำสืบ กรณีเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายกับจำเลยยังโต้เถียงสิทธิครอบครองในที่พิพาทกันอยู่ทั้งตามพยานหลักฐานที่นำสืบกันมายังฟังไม่ได้โดยแจ้งชัดว่าสิทธิครอบครองในที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด การที่จำเลยเข้าไปปลูกขนำในที่พิพาทจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2824/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานเพื่อทำร้ายร่างกาย แม้ไม่เข้าข่ายรบกวนการครอบครอง แต่ผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา
ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ขับรถจักรยานยนต์เกือบจะเฉี่ยวชนจำเลยทั้งสองและเกิดการต่อว่าต่อขานกันขึ้น ผู้เสียหายได้ท้าทายให้จำเลยทั้งสองตามไปที่บ้านจำเลยทั้งสองจึงตามไปและเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันขึ้นที่บ้านผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหาเรื่องชวนวิวาทและทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายเท่านั้นจะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 แต่การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานของผู้เสียหายเป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 364อยู่ด้วย ฉะนั้นแม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา 364 แต่ได้บรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสองมีข้อความอันเป็นความผิดตามมาตรา 364 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 364 และบทฉกรรจ์ตามมาตรา 365(1)(2) ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2824/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุกรุกเคหสถาน: แม้ฟ้องผิดฐาน แต่ศาลลงโทษฐานบุกรุกได้ตามข้อเท็จจริง
จำเลยทั้งสองเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเพื่อทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้ จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา362 ตามฟ้อง แต่การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานของผู้เสียหายเป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 364 อยู่ด้วย ฉะนั้นแม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา 364 แต่ได้บรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสองมีข้อความอันเป็นความผิดตามมาตรา 364 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 364 และมาตรา 365 (1), (2) ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย การบุกรุกทำลายทรัพย์สินและการลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองเข้าไปขุดดิน เกรดิน ขุดบ่อ และปั้นอิฐขายในที่ดินซึ่งเป็นของโจทก์ร่วมโดยที่จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้ จึงเป็นการร่วมกันเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข และร่วมกันทำที่ดินของโจทก์ร่วมเสียหายกับเอาที่ดินของโจทก์ร่วมไปโดยทุจริต เป็นความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินพิพาท: การกระทำโดยได้รับอนุญาตจากผู้มีส่วนได้เสียทำให้ไม่มีความผิด
โจทก์ร่วมกับ ท. มารดาโจทก์ร่วมและจำเลยยังโต้เถียงความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทกันอยู่ จำเลยเข้าไปไถที่ดินพิพาทเพราะท. ให้จำเลยทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: สิทธิครอบครองที่ไม่สมบูรณ์และการเป็นที่ราชพัสดุ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก อ้างว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท แต่โจทก์ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินมาแสดง อีกทั้งทางราชการก็ยังโต้แย้งสิทธิในที่ดินพิพาทของโจทก์อยู่พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอรับฟังว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามกฎหมาย จึงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินราชพัสดุ: ผู้ครอบครองไม่มีสิทธิฟ้องบุกรุก แม้ครอบครองนานปี
ที่ราชพัสดุเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุฯ บัญญัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แม้โจทก์จะครอบครองมานานเพียงใดก็ไม่ได้สิทธิในที่ดินดังกล่าวตามกฎหมาย ทั้งยังอาจถูกฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญาอีกด้วย โจทก์จึงไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: เจ้าของที่ดินต้องมีสิทธิครอบครองก่อนการกระทำความผิด
กรณีจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362ตามที่โจทก์ฟ้องจะต้องได้ความว่า โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ในขณะที่กล่าวหาว่าจำเลยเข้าไปในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองหรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข แต่คดีนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้เข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ก่อนแล้ว โจทก์ร่วมเพิ่งจะอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทโดยการซื้อขายในภายหลัง ดังนี้ แม้จะรับฟังข้อเท็จจริงได้ตามที่โจทก์กล่าวอ้าง การกระทำของจำเลยที่เข้าไปครอบครองยึดถือที่ดินพิพาทอยู่ก่อนและคงอยู่ในที่ดินพิพาทตลอดมา ย่อมไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกที่ดินของโจทก์ร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: เจ้าของเดิมครอบครองก่อนมิใช่ความผิดฐานบุกรุก
กรณีจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362 นั้น ผู้เสียหายจะต้องเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ในขณะที่จำเลยเข้าไปในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองหรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยได้เข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ก่อนแล้ว ผู้เสียหายเพิ่งจะอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทโดยการซื้อขายในภายหลัง การที่จำเลยเข้าไปครอบครองยึดถือที่ดินพิพาทอยู่ก่อนและคงอยู่ในที่ดินพิพาทตลอดมา ย่อมไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยที่ไม่ได้รับการอุทธรณ์ในข้อหาบุกรุก ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
คดีนี้ โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษข้อหาบุกรุก เฉพาะจำเลยที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 และโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้น คดีเฉพาะจำเลยที่ 2ในข้อหาบุกรุกตามที่โจทก์ฟ้องจึงเป็นอันยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2ฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ประกอบมาตรา 365(2) อีกนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยที่ 2 จึงมิได้ฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้องได้
of 41