พบผลลัพธ์ทั้งหมด 410 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2186/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุก: การเข้าไปในบ้านโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย โดยถามหาสามีของผู้เสียหายก่อนแล้วไปนั่งคุยกับผู้เสียหายบนเตียงนอนโดยผู้เสียหายมิได้ห้ามปรามหรือขอร้องให้จำเลยออกไปจากบ้านนั้น เป็นการแสดงว่าผู้เสียหายอนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้โดยปริยาย ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรและมีเจตนารบกวนการครอบครองที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกโรงเรียนที่หมดอายุสัญญาเช่า แม้เจ้าของเป็นชื่อในนาม แต่ยังมีหน้าที่ครอบครองดูแลรักษา
จำเลยเอาข้าวเปลือกเข้าไปเก็บไว้ในอาคารโรงเรียนที่เกิดเหตุโดยมิได้รับอนุญาต แม้โรงเรียนจะเป็นของส่วนรวม ส. ผู้เสียหายเป็นเจ้าของแต่เพียงในนามเพื่อให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ ปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของมารดาจำเลยและหมดอายุสัญญาเช่าแล้ว ส.ผู้เสียหายก็มีหน้าที่ครอบครองดูแลรักษาโรงเรียนที่เกิดเหตุการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การบุกรุกต้องกระทบสิทธิครอบครองของผู้อื่น
กรณีจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา362,365 ได้ต้องเป็นเรื่องกระทำต่อสิทธิครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
ที่พิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304 กรมประมงได้ประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่อนุญาตตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 7และอนุญาตให้โจทก์ทำการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ดังนี้ โจทก์คงมีแต่เพียงสิทธิตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หามีสิทธิครอบครองหนองน้ำพิพาทไม่ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบัวในหนองดังกล่าวจึงไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใด
ที่พิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304 กรมประมงได้ประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่อนุญาตตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 7และอนุญาตให้โจทก์ทำการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ดังนี้ โจทก์คงมีแต่เพียงสิทธิตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หามีสิทธิครอบครองหนองน้ำพิพาทไม่ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบัวในหนองดังกล่าวจึงไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีบุกรุก และข้อจำกัดในการอุทธรณ์คดีที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง
ปรากฏจากบันทึกข้อตกลงว่า ผู้เสียหายได้กล่าวหาจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คนว่าบุกรุกที่ดินผู้เสียหายในที่สุดจำเลยที่ 1 กับพวกรับว่าได้บุกรุกและยอมออกไปจากที่ดินของผู้เสียหาย แต่จำเลยที่ 1 คนเดียวไม่ยอมออกไป คงครอบครองที่ดินนั้นตลอดมา ถือได้ว่าผู้เสียหายกับจำเลย ที่ 1 ได้ยอมความกันโดยตกลงเลิกคดีกันแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) การที่จำเลยที่ 1 ผิดเงื่อนไขไม่ยอมออกไปจากที่ดินเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่ามิได้มีการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 โจทก์จะฎีกาว่ามีการร่วมกันบุกรุกซึ่งเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่ามิได้มีการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 โจทก์จะฎีกาว่ามีการร่วมกันบุกรุกซึ่งเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีบุกรุกและการระงับสิทธิฟ้องร้อง รวมถึงข้อจำกัดในการโต้แย้งข้อเท็จจริงในฎีกา
ปรากฏจากบันทึกว่า ผู้เสียหายได้กล่าวหาจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คนว่าบุกรุกที่ดินผู้เสียหาย ในที่สุดจำเลยที่ 1 กับพวกรับว่าได้บุกรุกและยอมออกไปจากที่ดินของผู้เสียหายแต่จำเลยที่ 1 คนเดียวไม่ยอมออกไป คงครอบครองที่ดินนั้นตลอดมา ถือได้ว่าผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ได้ยอมความกันโดยตกลงเลิกคดีกันแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) การที่จำเลยที่ 1 ผิดเงื่อนไขไม่ยอมออกไปจากที่ดินเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่ามิได้มีการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 โจทก์จะฎีกาว่ามีการร่วมกันบุกรุกซึ่งเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่ามิได้มีการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 โจทก์จะฎีกาว่ามีการร่วมกันบุกรุกซึ่งเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2304/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้มีหมายค้นแต่การกระทำเกินกว่าเหตุ
ศ. และจำเลยทั้งสองมีสาเหตุโกรธเคืองฟ้องร้องกันเรื่องเครื่องหมายการค้า จำเลยแจ้งนำกำลังตำรวจมาตรวจค้นบ้านศ. แล้วจำเลยรื้อค้นของภายในบ้านโดยเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีอำนาจค้นมิได้มอบหมายให้ช่วยเหลือ การกระทำของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อ ศ. ออกปากไล่จำเลยก็ไม่ยอมออกไป ถือได้ว่าเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ศ. โดยปกติสุข จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุกศาลลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา365 ไม่ต้องอ้าง มาตรา362
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2125/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การระงับสิทธิฟ้องคดีบุกรุกหลังถูกลงโทษทำร้ายร่างกาย
โจทก์จำเลยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจนถูกศาลพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ทั้งสองคน0 และคดีถึงที่สุดแล้วนั้น เป็นผลสืบเนื่องและยังไม่ขาดตอนกับที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในข้อหาฐานบุกรุกอันเป็นมูลกรณีเดียวกันย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกหลังสิ้นสุดสัญญาเช่ารายวัน แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ถือเป็นการบุกรุกได้
เดิมตลาดที่เกิดเหตุเป็นของมารดาผู้เสียหาย จำเลยเป็นพ่อค้าเปิดพะโล้และลูกชิ้นทอด เข็นรถเข้าไปตั้งขายตรงทางเดินอันเป็นส่วนหนึ่งของตลาดดังกล่าวมาหลายปี โดยชำระค่าเช่าเป็นรายวันไม่ได้ทำสัญญาเช่ากัน ต่อมามรดกผู้เสียหายถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกตลาดให้ผู้เสียหาย จำเลยชำระค่าเช่าบ้างไม่ชำระบ้าง ผู้เสียหายจึงให้เจ้าพนักงานตำรวจเรียกจำเลยมาแจ้งไม่ให้เข้าไปขายของในตลาดพิพาท จำเลยยังขืนนำรถเข็นเข้าไปขายของดังที่เคยทำมา เช่นนี้การเช่าของจำเลยเป็นการเช่ารายวัน และพอสิ้นวันหนึ่ง ๆ จำเลยก็ได้ออกไปจากตลาด การครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลงเป็นวัน ๆ เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมให้จำเลยเข้าไปขายของในตลาดอีกต่อไป จำเลยยังขืนเข้าไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดบุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกตลาดหลังสิ้นสุดสัญญาเช่ารายวัน แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ถือเป็นความผิด
เดิมตลาดที่เกิดเหตุเป็นของมารดาผู้เสียหาย จำเลยเป็นพ่อค้าเป็ดพะโล้และลูกชิ้นทอดเข็นรถเข้าไปตั้งขายตรงทางเดินอันเป็นส่วนหนึ่งของตลาดดังกล่าวมาหลายปี โดยชำระค่าเช่าเป็นรายวันไม่ได้ทำสัญญาเช่ากัน ต่อมามารดาผู้เสียหายถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกตลาดให้ผู้เสียหายจำเลยชำระค่าเช่าบ้างไม่ชำระบ้าง ผู้เสียหายจึงให้เจ้าพนักงานตำรวจเรียกจำเลยมาแจ้งไม่ให้เข้าไปขายของในตลาดพิพาท จำเลยยังขืนนำรถเข็นเข้าไปขายของดังที่เคยทำมา เช่นนี้การเช่าของจำเลยเป็นการเช่ารายวัน และพอสิ้นวันหนึ่ง ๆ จำเลยก็ได้ออกไปจากตลาด การครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลงเป็นวัน ๆ เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมให้จำเลยเข้าไปขายของในตลาดอีกต่อไป จำเลยยังขืนเข้าไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในคดีบุกรุกเคหสถาน การไม่ร้องทุกข์ภายในกำหนด ทำให้คดีขาดอายุความ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน แต่ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364 ซึ่งเป็นบทความผิดอันยอมความได้ (มิได้อ้างมาตรา 365) โดยมิได้ร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96