คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 362

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 410 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาและแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกัน: คำสั่งศาลชั้นอุทธรณ์ให้ดำเนินคดีแพ่งต่อย่อมถึงที่สุดในส่วนอาญา
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องคดีส่วนอาญา และมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีส่วนแพ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ประทับฟ้องโจทก์รวมทั้งคดีส่วนแพ่งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนี้ คำสั่งศาลที่ให้คดีมีมูลย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาในส่วนอาญา แต่มีสิทธิฎีกาสำหรับคดีส่วนแพ่งได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีแพ่งอาญาเกี่ยวเนื่อง การสิ้นสุดสิทธิฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นว่าคดีมีมูล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องคดีส่วนอาญา และมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีส่วนแพ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ประทับฟ้องโจทก์รวมทั้งคดีส่วนแพ่งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนี้ คำสั่งศาลที่ให้คดีมีมูลย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาในส่วนอาญา แต่มีสิทธิฎีกาสำหรับคดีส่วนแพ่งได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการแย่งการครอบครอง: การเข้าครอบครองโดยเชื่อว่าเป็นเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยฟ้องคดีแพ่งว่า ม.บุกรุกที่ดินของจำเลย ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย แต่ ม. แย่งการครอบครองไปแล้ว คงเป็นของจำเลย 15 ไร่ ระหว่างฎีกาจำเลยจ้างคนเข้าหยอดปอในที่ดินส่วนที่ศาลพิพากษาว่าเป็นของ ม. และพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย ข้อหาบุกรุก ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าที่ดินที่กล่าวหายังพิพาทเป็นคดีแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ฟังไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิโดยแน่แท้ ยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาคดีถึงที่สุด ต่อมาเมื่อคดีแพ่งยุติลงว่าที่ดินเป็นของจำเลย 15 ไร่แล้ว จำเลยได้จ้างคนเข้ารื้อที่ดินเป็นส่วนของ ม. อีก ดังนี้ จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตั้งแต่เข้าหยอดปอ ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องฐานบุกรุกไปแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยยังไม่ยอมสละการครอบครอง มิใช่เข้าไปไถ่ที่พิพาทเป็นการแย่งการครอบครองใหม่ จึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการบุกรุกที่ดิน: การครอบครองต่อเนื่องแม้มีข้อพิพาท ไม่ถือเป็นการบุกรุกใหม่
จำเลยฟ้องคดีแพ่งว่า ม.บุกรุกที่ดินของจำเลย ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย แต่ม.แย่งการครอบครองไปแล้ว คงเป็นของจำเลย 15 ไร่ ระหว่างฎีกาจำเลยจ้างคนเข้าหยอดปอในที่ดินส่วนที่ศาลพิพากษาว่าเป็นของม. และพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยข้อหาบุกรุก ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าที่ดินที่กล่าวหายังพิพาทเป็นคดีแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ฟังไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิโดยแน่แท้ ยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาคดีถึงที่สุด ต่อมาเมื่อคดีแพ่งยุติลงว่าที่ดินเป็นของจำเลย 15 ไร่แล้ว จำเลยได้จ้างคนเข้าไถที่ดินที่เป็นส่วนของม.อีก ดังนี้ จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตั้งแต่เข้าหยอดปอ ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องฐานบุกรุกไปแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยยังไม่ยอมสละการครอบครอง มิใช่เข้าไปไถที่พิพาทเป็นการแย่งการครอบครองใหม่ จึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการบุกรุกที่ดินสาธารณะ หากเชื่อว่าทำได้ ย่อมไม่มีความผิด
ที่ดินตาม ส.ค.1 ซึ่งมีชื่อบิดาจำเลยครอบครองมา เป็นที่สาธารณะที่ทางราชการสงวนไว้เป็นทุ่งสำหรับเลี้ยงสัตว์ร่วมกัน จำเลยเข้าไปแผ้วถางก่นสร้างในที่ดินนั้นโดยเข้าใจว่าจำเลยกระทำได้ เป็นการขาดเจตนาในการกระทำผิดทางอาญา จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกที่ดินของรัฐโดยมิได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์, ขโมยรถ, และความผิดต่อทรัพย์สิน
จ. ใช้จำเลยที่ 1 ไปเอารถยนต์ที่ซื้อจากโจทก์ร่วม 2 คัน จำเลยทั้งสองพบโจทก์ร่วมและภริยานอกบ้าน จำเลยที่ 1 ฉุดโจทก์ร่วมลงจากรถแล้วจำเลยทั้งสองเดินตามโจทก์ร่วมเข้าไปในบ้านของโจทก์ร่วม โดยพลการจำเลยที่ 1 ได้งัดและเอาฆ้อนทุบกระจกหูช้างรถอีกคันหนึ่งงัดแงะสายยูหรือบานพับที่ใส่กุญแจออกจากบานประตูใหญ่ เปิดประตูบ้านแล้วจำเลยทั้งสองช่วยกันเข็นรถออกไป ดังนี้เป็นการที่จำเลยเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุขตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 และมีความผิดตามมาตรา 365(2) กับมีความผิดตามมาตรา 309 และ 358 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าและการใช้สิทธิของเจ้าของสถานที่เมื่อผู้เช่าผิดสัญญา ไม่เป็นความผิดอาญา
ข้อสัญญาเช่าสำนักงานมีว่า ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนด ผู้ให้เช่ากลับเข้าครอบครองสถานที่ ย้ายบุคคลออก ฯลฯ ได้ข้อสัญญานี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้เช่าค้างชำระค่าเช่าผู้ให้เช่าใช้ลวดไขกุญแจห้องเช่าออกเอากุญแจใหม่ใส่แทน ผู้เช่าเข้าห้องเช่าไม่ได้ ดังนี้ เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาเช่า ไม่เป็นความผิดอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินในเขตหวงห้ามและการมีอำนาจฟ้องคดีบุกรุก กรณีผู้ฟ้องไม่มีสิทธิครอบครอง
ที่พิพาทอยู่ในเขตหวงห้ามของทางราชการ โจทก์เข้าครอบครองเฉพาะฤดูฝนเพื่อปลูกพืชโดยพลการ สิ้นฤดูฝนแล้วก็มิได้ครอบครองและมิได้ล้อมรั้วกั้นเขตไว้ ขณะเกิดเหตุเป็นฤดูแล้ง โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิหวงห้ามบุคคลอื่นใดมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินในเขตหวงห้ามและการมีอำนาจฟ้องคดีบุกรุก การครอบครองเฉพาะฤดูกาลไม่ถือเป็นการครอบครองตามกฎหมาย
ที่พิพาทอยู่ในเขตหวงห้ามของทางราชการ โจทก์เข้าครอบครองเฉพาะฤดูฝนเพื่อปลูกพืชโดยพลการ สิ้นฤดูฝนแล้วก็มิได้ครอบครองและมิได้ล้อมรั้วกั้นเขตไว้ขณะเกิดเหตุเป็นฤดูแล้ง โจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิหวงห้ามบุคคลอื่นใดมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดิน: การอยู่ในที่ดินหลังบอกเลิกสัญญา ไม่ถึงขั้นเป็นความผิดฐานบุกรุก
ผู้เช่าที่ดินด้วยวาจาไม่ชำระค่าเช่าและไม่ออกจากที่เช่าตามที่เจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่า ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 362
of 41