พบผลลัพธ์ทั้งหมด 220 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมคำฟ้องที่ขาดรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลอนุญาตได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุสถานที่เกิดเหตุ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในวันเดียวกับที่จำเลยยื่นคำให้การยังไม่ทันลงมือสืบพยาน โดยกล่าวว่าโจทก์พิมพ์ฟ้องขาดตกบกพร่องไปเพราะความหลงลืม ดังนี้ ไม่มีเหตุจะว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในคดีเรื่องสถานที่เกิดเหตุแต่ประการใด โจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมฟ้องได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่20/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมคำฟ้องอาญาที่ขาดรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ จำเลยยังไม่ได้หลงข้อต่อสู้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุสถานที่เกิดเหตุ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมในวันเดียวกับที่จำเลยยื่นคำให้การ ยังไม่ทันลงมือสืบพะยาน โดยกล่าวว่าโจทก์พิมพ์ฟ้องขาดตกบกพร่องไปเพราะความหลงลืม ดังนี้ ไม่มีเหตุจะว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในคดีเรื่องสถานที่เกิดเหตุแต่ประการใด โจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมฟ้องได้.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2492
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการอุทธรณ์/ฎีกา: ใบแต่งทนายครอบคลุมสิทธิ
คดีอาญา ทนายโจทก์ลงชื่อในอุทธรณ์แทนโจทก์ ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย เพราะใบแต่งทนายความของโจทก์ได้ให้อำนาจทนายโจทก์ใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ: ฟ้องขาดองค์ความผิด ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้นศาลรับฟังไม่ได้
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตาม เมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตาม เมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หากไม่ชัดเจน ศาลไม่รับฟ้อง
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฎ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชะนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หรือประเภทลักษณะชัดเจน หากไม่ทำตามศาลสั่งแก้ฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องไม่ชัดเจน
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฏ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาล่วงหน้าและความไม่ชอบด้วยกฎหมายในการแก้ฟ้องหลังมีคำพิพากษา
ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันซึ่งเป็นเวลาภายหลังวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง เท่ากับเป็นการฟ้องล่วงหน้า อันยังไม่มีความผิดเกิดขึ้น ศาลจำต้องยกฟ้องโจทก์ ทั้งกรณีไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 161
การขอแก้ฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
การขอแก้ฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาคดีที่ยังไม่มีความผิดเกิดขึ้น ศาลต้องยกฟ้องตามหลักกฎหมาย
ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันซึ่งเป็นเวลาภายหลังวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง เท่ากับเป็นการฟ้องล่วงหน้า อันยังไม่มีความผิดเกิดขึ้นศาลจำต้องยกฟ้องโจทก์ ทั้งกรณีไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161
การขอแก้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
การขอแก้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องยักยอกต้องระบุชัดว่าจำเลยขายทรัพย์สินที่รับมอบหมายหรือไม่ หากไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
คดีหาว่า จำเลยยักยอกแหวนของโจทก์ที่ฝากจำเลยขายนั้น คำฟ้องของโจทก์จะต้องปรากฎให้แจ้งชัดว่า จำเลยได้ขายแหวนที่ได้รับมอบหมายไปจากโจทก์แล้ว มิฉะนั้นจะกล่าวหาว่าจำเลยยักยอกแหวนมิได้.
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวนแต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ ก็ไม่ได้ เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง./
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวนแต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ ก็ไม่ได้ เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องฐานยักยอกต้องชัดเจนว่าจำเลยขายทรัพย์สินแล้ว หากยังไม่ได้ขายถือว่าไม่ได้ยักยอก
คดีหาว่า จำเลยยักยอกแหวนของโจทก์ที่ฝากจำเลยขายนั้นคำฟ้องของโจทก์จะต้องปรากฏให้แจ้งชัดว่า จำเลยได้ขายแหวนที่ได้รับมอบหมายไปจากโจทก์แล้ว มิฉะนั้นจะกล่าวหาว่าจำเลยยักยอกแหวนมิได้
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวน แต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ก็ไม่ได้เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวน แต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ก็ไม่ได้เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง