คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 121

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 212 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้เสียหายที่แท้จริงต้องเป็นผู้ร้องทุกข์หรือมอบอำนาจ
จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งมีโจทก์ร่วมเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างฯ บ. จึงเป็นผู้ทรงเช็คนั้น โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ผู้ทรง โจทก์ร่วมนำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินในนามของห้างฯ บ. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ร่วมไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในนามของตนเอง ไม่ใช่ในนามของห้างฯ บ. ผู้ทรงเช็คซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลย โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีสิทธิร้องทุกข์ดำเนินคดีกับจำเลย ถือว่าห้างฯ บ.ผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ได้ร้องทุกข์พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวน และพนักงานอัยการไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้เสียหายที่แท้จริงต้องเป็นผู้ร้องทุกข์
จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งมีโจทก์ร่วมเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างฯ บ. จึงเป็นผู้ทรงเช็คนั้น โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ผู้ทรง โจทก์ร่วมนำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินในนามของห้างฯ บ. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ร่วมไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในนามของตนเอง ไม่ใช่ในนามของห้างฯ บ. ผู้ทรงเช็คซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลย โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิร้องทุกข์ดำเนินคดีกับจำเลย ถือว่าห้างฯ บ. ผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ได้ร้องทุกข์พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวน และพนักงานอัยการไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้ต้องมีคำร้องทุกข์ หากไม่มีคำร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนและอัยการไม่มีอำนาจ
ในคดีความผิดอันยอมความได้ ถ้าโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ตามระเบียบแล้ว หากจำเลยมิได้ยกข้อตอ่สู้ให้เป็นประเด็นขึ้นมาว่าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ โจทก์ก็ไม่มีข้อที่จะต้องนำสืบว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ระเบียบแล้ว แต่ถ้าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว ก็ไม่ทำให้ฟ้องนั้นไม่เป็นฟ้อง เพราะความข้อนี้มิใช่เป็นข้อความซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 บัญญัติให้โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบว่าคดีได้มีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลก็พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดหลายข้อหา เป็นความผิดอาญาแผ่นดินกับความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ แต่คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวว่าข้อหาความผิดอันยอมความได้นี้ได้มีการร้องทุกข์ตามระเบียบแล้ว และตามคำเบิกความของผู้เสียหาย ตำรวจผู้จับกุมจำเลยและพนักงานสอบสวนก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการร้องทุกข์ของผู้เสียหายแต่ประการใด เมื่อไม่มีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจทำการสอบสวนและพนักงานอัยการโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอันยอมความได้ต้องมีการร้องทุกข์ หากไม่มี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
ในคดีความผิดอันยอมความได้ ถ้าโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ตามระเบียบแล้ว หากจำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้ให้เป็นประเด็นขึ้นมาว่าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ โจทก์ก็ไม่มีข้อที่จะต้องนำสืบว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ตามระเบียบแล้ว แต่ถ้าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว ก็ไม่ทำให้ฟ้องนั้นไม่เป็นฟ้อง เพราะความข้อนี้มิใช่เป็นข้อความซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 บัญญัติให้โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบว่าคดีได้มีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลก็พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดหลายข้อหา เป็นความผิดอาญาแผ่นดินกับความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ แต่คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวว่าข้อหาความผิดอันยอมความได้นี้ได้มีการร้องทุกข์ตามระเบียบแล้ว และตามคำเบิกความของผู้เสียหาย ตำรวจผู้จับกุมจำเลยและพนักงานสอบสวนก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการร้องทุกข์ของผู้เสียหายแต่ประการใด เมื่อไม่มีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจทำการสอบสวนและพนักงานอัยการโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ของหุ้นส่วนผู้จัดการทำให้หุ้นส่วนอื่นเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง
ในกรณีที่หุ้นส่วนผู้จัดการยักยอกทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดเสียเองนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งย่อมเป็นผู้เสียหาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา ห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้จัดการยักยอกทรัพย์ ผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้เสียหาย
ในกรณีที่หุ้นส่วนผู้จัดการยักยอกทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดเสียเองนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งย่อมเป็นผู้เสียหาย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1880/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงสำเร็จเมื่อธนาคารจ่ายเงิน - อำนาจฟ้อง - อายุความ - ความผิดสำเร็จ
นำเช็คที่มีผู้ลักมาจากธนาคารโจทก์ไปขอซื้อดร๊าฟจากธนาคารโจทก์สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร โดยหลอกลวงเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่หลงเชื่อและออกดร๊าฟให้ไป แล้วนำดร๊าฟนั้นไปขอขึ้นเงินจากธนาคารโจทก์สาขาวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้จ่ายเงินตามดร๊าฟให้เช่นนี้ เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและถือว่าความผิดสำเร็จเมื่อธนาคารจ่ายเงินให้ตรมดร๊าฟ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อจำเลยที่ 1 ร่วมกับนายสมานฉ้อโกงโจทก์ แม้คำร้องทุกข์ของโจทก์จะไม่ได้ระบุชื่อจำเลยที่ 1 แต่ระบุให้ดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกงกับนายสมานกับพวก ดังนี้ย่อมถือว่าโจทก์ร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีฐานฉ้อโกงภายในสามเดือนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 แล้ว แม้จะนำคดีมาฟ้องหลังจากวันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเกินกว่าสามเดือน แต่อยู่ภายในสิบปีนับแต่วันกระทำผิดคดีไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2621/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่แท้จริงและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็ค - บุตรช่วยค้าขายไม่ใช่ผู้เสียหาย
ส. เป็นบุตร จ. ช่วย จ. ค้าขายอยู่ในร้าน จำเลยออกเช็คจ่ายเงินสดชำระหนี้ให้แก่ร้าน ขณะที่จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้นั้น จ. และ ส. อยู่พร้อมหน้ากัน จำเลยมอบเช็คให้ ส. แต่ก่อนที่ ส. จะรับเช็คไว้ ส. ได้ให้ จ. ตรวจดูเช็คนั้นแล้ว ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน ส. ได้ใช้ให้คนนำเช็คไปเบิกเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ถือได้ว่า จ. เจ้าของร้านผู้เป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ค ส. เป็นเพียงผู้เก็บรักษาเช็คไว้แทน จ. เท่านั้น ส. ไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค ส. ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย การที่ ส. ไปร้องทุกข์เป็นผู้เสียหายเสียเองจึงไม่ชอบ และพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2621/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่แท้จริง: การกำหนดตัวผู้เสียหายในคดีเช็ค และอำนาจฟ้อง
ส. เป็นบุตร จ. ช่วย จ. ค้าขายอยู่ในร้าน จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดชำระหนี้ให้แก่ร้าน ขณะที่จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้นั้น จ. และ ส.อยู่พร้อมหน้ากันจำเลยมอบเช็คให้ส.แต่ก่อนที่ส. จะรับเช็คไว้ ส. ได้ให้จ. ตรวจดูเช็คนั้นแล้ว ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน ส. ได้ใช้ให้คนนำเช็คไปเบิกเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ถือได้ว่า จ. เจ้าของร้านผู้เป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ค ส. เป็นเพียงผู้เก็บรักษาเช็คไว้แทน จ. เท่านั้น เมื่อ ส. ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คส.ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายการที่ส. ไปร้องทุกข์เป็นผู้เสียหายเสียเองจึงไม่ชอบ และพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ในความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค กรณีเจ้าของร้านเป็นภรรยา
จำเลยออกเช็คให้กับร้าน ม. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เจ้าของร้าน ม.ย่อมได้รับความเสียหาย ร้าน ม. นี้ ต. และ ก. สามีภรรยาเป็นเจ้าของร่วมกัน ก.จึงเป็นผู้เสียหายด้วยผู้หนึ่งมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแกจำเลย ในความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้
of 22