คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 220.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษอาญาในชั้นอุทธรณ์และการฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดสมคบทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254 จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาท โทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำ คุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่า เป็นการ แก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษ เท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาแก้โทษอาญา: การลดโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการเปลี่ยนแปลงบทมาตราที่ถูกลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 142 - 268, 270 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ว่า ผิดแต่เพียงมาตรา 268 - 270 เท่านั้น ไม่ผิดมาตรา 142 ด้วย และแก้โทษมาเป็นจำคุก 1 ปี และให้รอการลง
อาญาไว้ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากเล่นการพนันเป็นเจ้ามือ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาท ฐานเล่นการพนันป๊อก ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถฎีกาได้
พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้น ต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาพลามกอนาจาร: การตีความตามกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.วัตถุอันลามก
สมุดภาพของกลางเป็นภาพลามกอนาจารตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 240 หรือตาม พ.ร.บ.ปราบการทำให้แพร่หลายและการค้าวัตถุอันลามก พ.ศ. 2471 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเพื่อขอริบของกลางในคดีพะนัน: ข้อจำกัดตามมาตรา 220 ป.วิ.อาญา
โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลาง อ้างเหตุว่า เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเล่นการพะนัน ดังนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับจำเลยคนละ 50 บาท โจทก์จะฎีกาต่อไปไม่ได้ เพราะต้องด้วยข้อห้ามตามมาตรา 220 แห่ง ป.ม.วิ.อาญา
(อ้างฎีกา 824/2490)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินที่ขายแล้วยังถือเป็นทรัพย์ของทางราชการหรือไม่? ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากฎีกาเกี่ยวกับข้อเท็จจริง
ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำให้ทรัพย์ของใช้ในราชการเสียหายตาม ม.325 โดยให้จำคุก 2 เดือน แต่ให้รอการลงอาญาไว้นั้น จำเลยจะฎีกาว่า ทรัพย์ที่เสียหายนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในทางราชการไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง: คดีข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยรื้อเรือนส่วนหนึ่งของโจทก์ไป ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์จำเลยรับว่ารื้อจริง แต่จำเลยปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างนั้นไว้เมื่อเลิกเช่าจึงรื้อไปตามที่ตกลงไว้ ดังนี้ เป็นการต่อสู้กรรมสิทธิว่าตนเป็นเจ้าของและมีสิทธิจะรื้อไป ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างให้ลงโทษปรับจำเลย โดยฟังว่าจำเลยไม่มีสิทธิรื้อแล้ว คู่ความจะฎีกาต่อไปไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลเล็กน้อยไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
บาดแผลที่แก้มบวมฟกช้ำ รักษา 7 วันหาย และแผลที่ข้อศอกผิวหนังถลอกโลหิตซับรักษา 5 วันหายนั้น ไม่นับว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ vs. วิ่งราวทรัพย์: การไม่มีกิริยาฉกฉวย
เข้าไปไนร้านแล้วเอาทรัพย์ไส่กะเป๋าเวลาเขาเหลียวไปทางอื่นพอเขาเห็นร้องขึ้นก็หนีไปดังนี้ไม่เปนวิ่งราวเพราะไม่มีกิรินาฉกฉวย
ตามข้อเท็ดจิงที่สาลอุธรน์ฟังมาจะเปนผิดถานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ เปนปัญหาข้อกดหมาย