พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การท้ากันในศาล: ผลผูกพันตามข้อตกลง เงื่อนไขการสาบาน และผลต่อคู่ความ
คู่ความท้ากันโดยตกลงเอาการสาบานของจำเลยและ ส.เป็นเงื่อนไข กล่าวคือถ้าบุคคลทั้งสองยอมสาบานโจทก์ก็ยอมรับตามข้ออ้างของจำเลยและยอมแพ้คดี แต่ถ้าบุคคลทั้งสองไม่ยอมสาบานจำเลยก็เป็นฝ่ายแพ้คดี ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับระหว่างคู่ความได้ ส่วนการสาบานตนของ ส.เป็นเพียงเงื่อนไขที่คู่กรณีกำหนดขึ้น การที่ ส.ไม่ได้รู้เห็นยินยอมในการตกลงนั้น หาทำให้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ เมื่อจำเลยและส.ไปยังสถานที่กำหนดแล้ว แต่บุคคลทั้งสองไม่ยอมสาบาน จำเลยจึงต้องแพ้คดีตามคำท้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การขัดแย้งและไม่ชัดเจน จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบ โจทก์ต้องนำสืบตามฟ้องเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
จำเลยให้การในตอนแรกว่าไม่เคยทำสัญญาเช่ากับโจทก์และไม่ทราบว่าโจทก์วางมัดจำไว้ แต่ตอนหลังกลับให้การว่าจำเลยไม่ต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์เพราะหักเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ก่อขึ้นกับห้องเช่าที่ส่งมอบคืน ดังนี้เป็นคำให้การที่ขัดแย้งกันไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยให้โจทก์เช่าห้องและรับเงินมัดจำไว้หรือไม่เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบตามคำให้การ แต่คำให้การดังกล่าวเป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิง คดียังมีประเด็นข้อพิพาท โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้องจึงจะชนะคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิฟ้องร้องเมื่อเกิน 1 ปีหลังถอนการยกให้
จำเลยให้การว่าที่นาที่สวนเป็นของจำเลยได้มาโดยรับมรดกจากบิดามารดา บิดาตายมาประมาณ 16 ปีแล้ว จำเลยครอบครองแต่ผู้เดียวตลอดมา เป็นคำให้การที่แสดงข้อต่อสู้ถึงสิทธิครอบครองและสิทธิฟ้องร้องแล้ว ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375
จำเลยครอบครองที่พิพาทมาแต่ฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยตกลงทำบันทึกแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ การครอบครองของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย แต่ภายหลังจำเลยได้ขอถอนการยกให้ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลยได้ครอบครองเพื่อตนแต่นั้นมา โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้อง
จำเลยครอบครองที่พิพาทมาแต่ฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยตกลงทำบันทึกแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ การครอบครองของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย แต่ภายหลังจำเลยได้ขอถอนการยกให้ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลยได้ครอบครองเพื่อตนแต่นั้นมา โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในสัญญาซื้อขายไม้ การพิสูจน์จำนวนไม้ที่ส่งมอบ และหลักการคำนวณราคา
เมื่อโจทก์สืบจำนวนเนื้อไม้ที่ขายให้จำเลยตามฟ้องไม่ได้ จำเลยก็ควรรับผิดตามจำนวนเนื้อไม้เท่าที่จำเลยให้การรับเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดขอบเขตการฟ้องร้องตามคำบรรยายฟ้อง การวินิจฉัยนอกประเด็นฟ้อง
เมื่อฟ้องของโจทก์ข้อ 3 บรรยายว่า "บัดนี้โจทก์ทราบว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยเอาตึกที่เช่านี้บางส่วนไปให้เช่าช่วง โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์จึงไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไป โจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังจำเลยดังสำเนาท้ายคำฟ้อง จำเลยรับทราบแล้วไม่ปฏิบัติตาม โจทก์จึงจำต้องมาขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง" ดังนี้ เห็นได้ว่า โจทก์ยกเหตุเช่าช่วงเป็นข้ออ้างขอให้ศาลขับไล่ หาได้ยกเหตุอื่นใด (สิทธิบอกเลิกการเช่าอย่างสัญญาเช่าธรรมดา) เป็นข้ออ้างไม่ ข้อวินิจฉัยของศาลล่างที่นอกเหนือจากประเด็นเช่าช่วง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพื่อหักล้างข้อต่อสู้เรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การนำสืบถึงที่มาของทรัพย์สินไม่เป็นการนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากเจ้าของ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้อื่น ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิสืบได้ว่าเจ้าของ ได้ทรัพย์พิพาทมาอย่างไรไม่เป็นการนอกประเด็นและมีสิทธิสทบว่าผู้อื่นที่จำเลยอ้างนั้นได้อยู่ในที่พิพาทโดยทาง อาศัย เพราะเป็นการสืบหักล้างคำให้การต่อสู้ของจำเลย
ในกรณีที่จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนว่าเป็นการมิชอบนั้น เมื่อปรากฎว่าได้สืบ พยานเสร็จสิ้นไปทั้งสองฝ่ายแล้ว และในฎีกาของจำเลยก็หาได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่แต่ ประการใดไม่ และแม้การที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนจะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตามก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยคำ พยานของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ดังนี้ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ก็ย่อมฟังไม่ขึ้น./
ในกรณีที่จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนว่าเป็นการมิชอบนั้น เมื่อปรากฎว่าได้สืบ พยานเสร็จสิ้นไปทั้งสองฝ่ายแล้ว และในฎีกาของจำเลยก็หาได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่แต่ ประการใดไม่ และแม้การที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนจะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตามก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยคำ พยานของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ดังนี้ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ก็ย่อมฟังไม่ขึ้น./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนการขายฝากภายในกำหนด และสิทธิในการฟ้องบังคับไถ่ถอน แม้ฟ้องเกินกำหนดสัญญา
คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อน เพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝาทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มา ผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องของให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้ แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี
ขายฝาทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มา ผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องของให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้ แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1800/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า - การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน - สัญญาไม่ได้จำกัดวัตถุประสงค์ - การใช้เพื่อการอื่นย่อมไม่ผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าห้องโจทก์ ในสัญญามิได้ระบุว่าเช่าเพื่อใช้ฉะเพาะเป็นที่อยู่อาศัย แม้จำเลยทำการเจียรนัยพลอยที่ห้องนั้น โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยใช้ห้องเช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในสัญญามิได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วเปลี่ยนแปลงใช้ห้องเช่าเป็นโรงเจียรนัยพลอย ดังนี้ เป็นเรื่องหาว่าใช้ห้องเช่าผิดไปจากสัญญา จึงไม่มีประเด็นถึงเรื่องใช้ห้องผิดประเพณีนิยม หรือทำการดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่า.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วเปลี่ยนแปลงใช้ห้องเช่าเป็นโรงเจียรนัยพลอย ดังนี้ เป็นเรื่องหาว่าใช้ห้องเช่าผิดไปจากสัญญา จึงไม่มีประเด็นถึงเรื่องใช้ห้องผิดประเพณีนิยม หรือทำการดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการตัดสินคดี, ฟ้องซ้ำ, และอายุความ: การพิจารณาคดีที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงสัญญา และการระบุเหตุขาดอายุความ
เมื่อศาลเห็นว่า คดีได้ความชัดพอจะตัดสินได้แล้ว ศาลก็มีอำนาจตัดสินได้ โดยไม่ต้องมีการชี้สองสถาน ไม่เป็นการขัดต่อวิธีจารณาและไม่มีกฎหมายใดบังคับให้ศาลต้องรอการตัดสินไว้เพื่อให้โอกาศคู่ความที่จะแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง และคำให้การก่อน
เดิมโจทก์ฟ้อง เรียกเงินราคาแป้งที่โจทก์ขายให้จำเลย ศาลฎีกาพิพากษาในคดีนั้นว่า โจทก์,จำเลยได้ทำความตกลงกันใหม่ ยกเลิกสัญญาเดิมแล้ว ข้อที่หากันว่าผิดสัญญาจึงตกไป โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกเงินตามข้อตกลงใหม่ การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาใหม่นี้ ย่อมเป็นคนละประเด็นกับเรื่องก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
(อ้างฎีกาที่ 319/2492)
คดีที่ขาดอายุความ ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 165 มีหลายข้อหลายกรณี คำให้การของจำเลยกล่าวแต่ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 165 มิได้กล่าวว่าขาดอายุความในกรณีใดหรือข้อใดแม้อนุมาตราของมาตรา 165 ก็มิกล่าวถึง คดีจึงไม่มีประเด็นจะชี้ไปถึงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ.
เดิมโจทก์ฟ้อง เรียกเงินราคาแป้งที่โจทก์ขายให้จำเลย ศาลฎีกาพิพากษาในคดีนั้นว่า โจทก์,จำเลยได้ทำความตกลงกันใหม่ ยกเลิกสัญญาเดิมแล้ว ข้อที่หากันว่าผิดสัญญาจึงตกไป โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้เรียกเงินตามข้อตกลงใหม่ การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาใหม่นี้ ย่อมเป็นคนละประเด็นกับเรื่องก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
(อ้างฎีกาที่ 319/2492)
คดีที่ขาดอายุความ ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 165 มีหลายข้อหลายกรณี คำให้การของจำเลยกล่าวแต่ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 165 มิได้กล่าวว่าขาดอายุความในกรณีใดหรือข้อใดแม้อนุมาตราของมาตรา 165 ก็มิกล่าวถึง คดีจึงไม่มีประเด็นจะชี้ไปถึงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสอบถามคู่ความ & ผลของการไม่แถลงประเด็นข้อพิพาท
ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 183 ศาลมีอำนาจที่จะสอบถามคู่ความเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาท เมื่อศาลมีอำนาจแล้ว คู่ความก็มีหน้าที่ต้องแถลง หากไม่แถลง ข้อที่ไม่แถลงนั้น ย่อมไม่เป็นประเด็นในคดี
โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินให้แก่คนของโจทก์ไปจึงขอหักหนี้ ศาลสอบถามโจทก์ ๆ แถลงแต่เพียงว่าโจทก์เห็นว่าไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้อง ฉะนั้นการที่โจทก์นำสืบว่าได้ฝากเงินจำเลยไปและเงินที่ผู้แทนโจทก์ได้รับไปจากบุตรจำเลยคือเงินของโจทก์เอง ดังนี้เป็นข้อสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้.
โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินให้แก่คนของโจทก์ไปจึงขอหักหนี้ ศาลสอบถามโจทก์ ๆ แถลงแต่เพียงว่าโจทก์เห็นว่าไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้อง ฉะนั้นการที่โจทก์นำสืบว่าได้ฝากเงินจำเลยไปและเงินที่ผู้แทนโจทก์ได้รับไปจากบุตรจำเลยคือเงินของโจทก์เอง ดังนี้เป็นข้อสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้.