พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีนำของออกนอกราชอาณาจักร ไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบเสมอไป อัยการมีอำนาจฟ้องได้หากจำเลยไม่ขอปฏิบัติตามกฎหมาย
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยนำของออกนอกราชอาณาจักรไทยอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างนั้น ถ้าผู้กระทำผิดไม่ขอปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติศุลกากรเรื่องเปรียบเทียบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบและในกรณีเช่นนี้ อัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่จำต้องมีการเปรียบเทียบก่อน ทั้งในฟ้องก็ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าได้มีการเปรียบเทียบผู้กระทำผิดนั้นแล้วหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบข้าวสารลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักร แม้จำเลยจะขายไปแล้ว ก็ยังสามารถบังคับตามกฎหมายได้
จำเลยมีผิดฐานลักลอบนำข้าวสาร 14 กระสอบ ราคา 1680 บาทออกไปนอกราชอาณาจักร และข้าวรายนี้กำลังอยู่ในความรักษาของเจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ดังนี้ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 29 ศาลย่อมพิพากษาให้ริบข้าวสาร 14 กระสอบได้ ถ้าจำเลยส่งข้าวสารไม่ได้ ก็ต้องใช้ราคาข้าวแทน
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบข้าวสารลักลอบออกนอกราชอาณาจักร แม้จำเลยจะขายไปแล้ว ศาลยังสามารถพิพากษาให้ริบราคาแทนได้
จำเลยมีผิดฐานลักลอบนำข้าวสาร 14 กระสอบ ราคา 1,680 บาทออกไปนอกราชอาณาจักร และข้าวรายนี้กำลังอยู่ในความรักษาของเจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ดังนี้ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 29ศาลย่อมพิพากษาให้ริบข้าวสาร 14 กระสอบได้ ถ้าจำเลยส่งข้าวสารไม่ได้ ก็ต้องใช้ราคาข้าวแทน
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางที่ไม่อยู่ในความครอบครอง - กฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยลักลอบนำข้าวสารเหนียวออกไปนอกราชอาณาจักร์แล้ว เมื่อศาลสั่งริบข้าวสารเหนียวของกลางดั่งนี้ ต้องตีราคาข้าวสารเหนียว แล้วจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 18, 29.
มาตรา 29 ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาล แสดงอยู่ว่า ทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น
มาตรา 29 ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาล แสดงอยู่ว่า ทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางที่ไม่อยู่ในความครอบครอง การตีราคาและบังคับคดีตามกฎหมายอาญา
จำเลยลักลอบนำข้าวสารเหนียวออกไปนอกราชอาณาจักรแล้ว เมื่อศาลสั่งริบข้าวสารเหนียวของกลางดั่งนี้ ต้องตีราคาข้าวสารเหนียว แล้วจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18,29
มาตรา 29ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาลแสดงอยู่ว่าทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น
มาตรา 29ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาลแสดงอยู่ว่าทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งออกน้ำมันพืชโดยไม่แสดงรายการและการยึดของกลาง ศาลฎีกาพิพากษายึดของกลางไว้จนกว่าจะถูกต้องตามกฎหมาย
การส่งของชนิดที่ไม่ต้องห้ามและไม่ต้องเสียภาษีออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้แสดงรายการของที่ส่งและไม่หยุดให้เจ้าพนักงานตรวจ เป็นผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร 2480 มาตรา 8 และ มาตรา 11 แต่ไม่เป็นผิด พระราชบัญญัติศุลกากร2469 มาตรา 27 ของเช่นนี้ศาลให้ยึดไว้จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามกฎหมาย จะริบไม่ได้
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามส่งน้ำมันพืชออกนอกราชอาณาจักรต่อมามีฉบับใหม่ยกเลิกฉบับเก่าและไม่มีข้อห้ามส่งน้ำมันพืช ดังนี้ ถือว่ามีกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อความผิดที่ศาลลงโทษไม่มีการริบทรัพย์แล้ว ก็จ่ายเงินสินบนหรือรางวัลตาม พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง โจทก์ฎีกาขอให้ริบ แต่ไม่ได้บรรยายข้อที่ควรริบมาในฎีกาเลยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามส่งน้ำมันพืชออกนอกราชอาณาจักรต่อมามีฉบับใหม่ยกเลิกฉบับเก่าและไม่มีข้อห้ามส่งน้ำมันพืช ดังนี้ ถือว่ามีกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อความผิดที่ศาลลงโทษไม่มีการริบทรัพย์แล้ว ก็จ่ายเงินสินบนหรือรางวัลตาม พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง โจทก์ฎีกาขอให้ริบ แต่ไม่ได้บรรยายข้อที่ควรริบมาในฎีกาเลยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งออกน้ำมันพืชโดยไม่แสดงรายการและการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ศาลฎีกาพิพากษายึดของกลางไว้จนกว่าจะถูกต้องตามกฎหมาย
การส่งของชะนิดที่ไม่ต้องห้ามและไม่ต้องเสียภาษีออกนอกราชอาณาจักร์โดยไม่ได้แสดงรายการของที่ส่งและไม่หยุดให้เจ้าพนักงานตรวจ เป็นผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2480 ม. 8 และ ม. 11 แต่ไม่เป็นผิด พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 ม. 27 ของเช่นนี้ศาลให้ยึดไว้จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามกฎหมาย จะริบไม่ได้
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามส่งน้ำมันพืชออกนอกราชอาณาจักรต่อมามีฉะบับใหม่ยกเลิกฉะบับเก่าและไม่มีข้อห้ามส่งน้ำมันพืช ดังนี้ ถือว่ามีกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อความผิดที่ศาลลงโทษไม่มีการริบทรัพย์แล้ว ก็จ่ายเงินสินบลหรือรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง โจทก์ฎีกาขอให้ริบ แต่ไม่ได้บรรยายข้อที่ควรริบมาในฎีกาเลยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามส่งน้ำมันพืชออกนอกราชอาณาจักรต่อมามีฉะบับใหม่ยกเลิกฉะบับเก่าและไม่มีข้อห้ามส่งน้ำมันพืช ดังนี้ ถือว่ามีกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อความผิดที่ศาลลงโทษไม่มีการริบทรัพย์แล้ว ก็จ่ายเงินสินบลหรือรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง โจทก์ฎีกาขอให้ริบ แต่ไม่ได้บรรยายข้อที่ควรริบมาในฎีกาเลยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาเมื่อมีความผิดหลายบท ศาลต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุด แม้บทอื่นจะมีโทษขั้นต่ำสูงกว่า
ความผิดละเมิดกดหมายหลายบทนั้น สาลต้องลงโทสตามบทหนัก และถึงหากว่าตามกดหมายบทเบาทมีโทสคั่นต่ำสูงกว่าตามกดหมายบทหนัก สาลก็ไม่ต้องผู้พันธ์ไห้ต้องวางโทสตามอัตราคั่นต่ำของกดหมายบทเบา
พ.ร.บ.สุลกากร ม.120
ซึ่งบัญญัติมิไห้ถือว่ากดหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติไน พ.ร.บ.สุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรนีที่การกะทำเปนผิดต้องด้วยกดหมายหลายบทซึ่งสาลจะต้องลงโทสตามกดหมายอื่นอันเปนบทกำหนดโทสหนักกว่า
พ.ร.บ.สุลกากร ม.120
ซึ่งบัญญัติมิไห้ถือว่ากดหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติไน พ.ร.บ.สุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรนีที่การกะทำเปนผิดต้องด้วยกดหมายหลายบทซึ่งสาลจะต้องลงโทสตามกดหมายอื่นอันเปนบทกำหนดโทสหนักกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษหลายบท ศาลลงโทษตามบทหนักได้ แม้บทเบามีโทษขั้นต่ำสูงกว่า
ความผิดละเมิดกฎหมายหลายบทนั้นศาลต้องลงโทษตามบทหนัก และถึงหากว่าตามกฎหมายบทเบามีโทษขั้นต่ำสูงกว่าตามกฎหมายบทหนักศาลก็ไม่ต้องผูกพันให้ต้องวางโทษตามอัตราขั้นต่ำของกฎหมายบทเบา พระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 120ซึ่งบัญญัติมิให้ถือว่ากฎหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติในพระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรณีที่การกระทำเป็นผิดต้องด้วยกฎหมายหลายบทซึ่งศาลจะต้องลงโทษตามกฎหมายอื่นอันเป็นบทกำหนดโทษหนักกว่า