พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การกล่าวหาทั้งการนำเข้าและการครอบครองไม้ของกลางโดยเป็นไม้จำนวนเดียวกัน ไม่ถือว่าฟ้องขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวโดยสรุปถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดคือ นำไม้สักของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร และระหว่างวันเวลาเดียวกันร่วมกันมีไม้ของกลางจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองเป็นความผิด ทั้งนี้การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งสองประการดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างวันเวลาและสถานที่เดียวกัน เจ้าพนักงานยึดได้ไม้จำนวนเดียวกันเป็นของกลาง ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวนั้น โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นความผิดและมีไว้ในครอบครองเป็นความผิดด้วยไม่ทำให้เข้าใจไปว่าไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมิได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรในคราวเดียวกันอันเป็นการขัดแย้งกันแต่อย่างใด ส่วนปัญหาที่ว่าจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษา หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ หากเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การกล่าวหาทั้งนำเข้าและครอบครองไม้ผิดกฎหมายไม่ขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวโดยสรุปถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดคือ นำไม้สักของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร และระหว่างวันเวลาเดียวกันร่วมกันมีไม้ของกลางจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองเป็นความผิดทั้งนี้การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งสองประการดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างวันเวลาและสถานที่เดียวกันเจ้าพนักงานยึดได้ไม้จำนวนเดียวกันเป็นของกลาง ดังนี้ย่อมเข้าใจได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวนั้น โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นความผิดและมีไว้ในครอบครองเป็นความผิดด้วยไม่ทำให้เข้าใจไปว่าไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมิได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรในคราวเดียวกันอันเป็นการขัดแย้งกันแต่อย่างใดส่วนปัญหาที่ว่าจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษาหาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่หากเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612-613/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้าสินค้าควบคุม: การได้รับอนุญาตหลังนำเข้าไม่เป็นความผิด หากไม่มีเจตนาฉ้อภาษี
จำเลยสั่งซื้อกาแฟจากต่างประเทศก่อนมีประกาศควบคุม ภายหลังมีประกาศควบคุม จำเลยได้ยื่นคำขอและได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จำเลยย่อมไม่มีความผิด
แม้พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 16 ซึ่งบัญญัติเป็นความผิดโดยมิต้องคำนึงว่าผู้กระทำมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่จำเลยจะต้องมีเจตนาฉ้อภาษีอยู่ด้วย จึงจะผิดตามนัยฎีกาที่ 942/2503
แม้พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 16 ซึ่งบัญญัติเป็นความผิดโดยมิต้องคำนึงว่าผู้กระทำมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่จำเลยจะต้องมีเจตนาฉ้อภาษีอยู่ด้วย จึงจะผิดตามนัยฎีกาที่ 942/2503
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายใบอนุญาตส่งข้าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นโมฆะ
การที่ได้รับอนุญาตให้ส่งข้าวไปต่างประเทศนั้น เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนหรือซื้อขายกันไม่ได้
สัญญาซื้อขายใบอนุญาตให้ส่งข้าวไปต่างประเทศนี้เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะเป็นผลกระทบกระเทือนถึงราคาข้าวซึ่งในที่สุดจะทำให้ผู้ผลิตได้รับน้อยลง
เงินราคาใบอนุญาตส่งข้าวไปต่างประเทศซึ่งคู่สัญญาในการซื้อขายได้ชำระไปแล้วบางส่วนนั้นจะเรียกคืนหาได้ไม่เพราะสัญญามีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)
สัญญาซื้อขายใบอนุญาตให้ส่งข้าวไปต่างประเทศนี้เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะเป็นผลกระทบกระเทือนถึงราคาข้าวซึ่งในที่สุดจะทำให้ผู้ผลิตได้รับน้อยลง
เงินราคาใบอนุญาตส่งข้าวไปต่างประเทศซึ่งคู่สัญญาในการซื้อขายได้ชำระไปแล้วบางส่วนนั้นจะเรียกคืนหาได้ไม่เพราะสัญญามีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามส่งออกข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักร แม้ยังไม่ถึงกลางแม่น้ำโขง
จำเลยมีเจตนาจะขนข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักร แต่ถูกจับขณะเรือยังเทียบท่าริมแม่น้ำโขงอยู่ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าคั่นความผิดฐานพยายามแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอัยการสั่งจ่ายสินบลนำจับคดีลักลอบส่งออกสินค้า
ในกรณีที่ฟ้องผู้ลักลอบนำสินค้าที่ต้องห้ามออกไปนอกราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรและ พ.ร.บ.ควบคุมการออกไปนอก ฯลฯนั้น อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งจ่ายค่าสินบลและรางวัลแก่ผู้จับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯลฯมาตรา 9 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอัยการสั่งจ่ายค่าสินบนผู้จับกุมคดีลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักร
ในกรณีที่ฟ้องผู้ลักลอบนำสินค้าที่ต้องห้ามออกไปนอกราชอาณาจักรอันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรและพระราชบัญญัติควบคุมการออกไปนอกฯลฯ นั้น อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งจ่ายค่าสินบนและรางวัลแก่ผู้จับตาม พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯลฯ มาตรา 9 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการปรับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกฯ และข้อโต้แย้งเรื่องเลขที่ใบขน
จำเลยกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรและ พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างซึ่งศาลให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ฉบับหลังเป็นบทหนักนั้น ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปฯลฯ ( ฉบับที่ 3 ) 2490 ศาลย่อมมีอำนาจปรับจำเลยเป็นรายตัวคนละ 5 เท่าของราคาสินค้าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปรับบทหนัก พ.ร.บ.ศุลกากรและควบคุมการส่งออก-นำเข้า: ปรับตามราคาสินค้า
จำเลยกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรและพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างซึ่งศาลให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติฉบับหลังเป็นบทหนักนั้นตามมาตรา 3 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปฯลฯ (ฉบับที่3)2490 ศาลย่อมมีอำนาจปรับจำเลยเป็นรายตัวคนละ5 เท่าของราคาสินค้าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบก่อนเสมอไป
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำลเยนำของออกนาอกราชอาณาจักรไทย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างนั้นถ้าผู้กระทำผิดไม่ขอปฏิบัติตาม พ.ร.บศุลกากรเรื่องเปรียบเทียบแล้ว ก็ไม่จำเป็นเปรียบเทียบ และในกรณีเช่นนี้ อัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบก่นอ ทั้งในฟ้องก็ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่า ได้มีการเปรียบเทียบผู้กระทำผิดนั้นแล้วหรือไม่