พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องดอกเบี้ย: เริ่มคิดดอกเบี้ยเมื่อใด ศาลฎีกาชี้เริ่มนับจากวันที่ตกลงในสัญญา
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแก่โจทก์ ต่อมาคู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2523 มีข้อความเกี่ยวกับดอกเบี้ยว่า 'จำเลยทั้งสองจะร่วมกันชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 12 ครึ่ง ต่อปี ของเงินที่ยังค้างชำระให้แก่โจทก์ทั้งหมด โดยจะต้องชำระดอกเบี้ยดังกล่าวนี้ทุก ๆ 6 เดือน นับแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2524 เป็นต้นไป' ปัญหาว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือนับแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2524 เป็นต้นไป นั้น เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความลดอัตราดอกเบี้ยลง แสดงว่าคู่สัญญามีความประสงค์จะผ่อนผันให้แก่กัน และตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดไว้ให้ชัดเจนว่า จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่เมื่อใด เป็นกรณีที่มีข้อสงสัย ต้องตีความให้เป็นคุณแก่จำเลยผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้จำเลยจึงต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2525.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882-884/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรับฝากเงินเพื่อชำระหนี้ ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่มีอำนาจฟ้อง
รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของพนักงานสอบสวนมีข้อความว่าโจทก์ทั้งสามพร้อมด้วยจำเลยไปแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2526 ส. ได้นำเงินจำนวนหนึ่งมาไว้กับจำเลยเพื่อที่ให้มาจ่ายแก่โจทก์ทั้งสาม จำเลยได้เก็บรักษาไว้แล้วและได้พากันมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าในวันที่ 28 มีนาคม 2526 จำเลยจะมาจัดการเคลียเงินทั้งหมดให้แก่โจทก์ทั้งสามรายงานดังกล่าวไม่มีข้อความในทำนองว่ามีข้อตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทที่มีอยู่แล้วหรือที่จะมีขึ้นภายหลัง ทั้งไม่ปรากฏมูลหนี้ใด ๆ ที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ ข้อความในเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องจำเลยรับเงินไว้ในฐานะตัวแทนของ ส.เพื่อนำไปชำระให้โจทก์ การตกลงชำระเงินให้โจทก์ในวันใดก็เป็นการทำตามหน้าที่ของตัวแทนเท่านั้นจำเลยไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว เอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปราณีประนอมยอมความและผลกระทบต่อกรรมสิทธิ: การสละสิทธิเรียกร้องทรัพย์สินหลังถอนฟ้อง
โจทก์เป็นบิดาจำเลย และจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์พิพาทอยู่ก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์สินพิพาทนี้คืนครั้งหนึ่งแล้ว และต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนคดีโดยแถลงว่า โจทก์ไม่ติดใจเอาความกับจำเลยต่อไป โดยได้ทำสัญญาตกลงระงับข้อพิพาทกับจำเลยฉะบับหนึ่ง มีข้อความกล่าวอ้างถึงคดีที่ฟ้องนั้น และมีข้อความกล่าวถึงหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องปฏิบัติต่อโจทก์ โดยไม่ปรากฎว่าทรัพย์สินที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงให้กรรมสิทธิอยู่แก่ใคร เช่นนี้ เมื่อทรัพย์พิพาทอยู่ในความปกครองของจำเลย และโจทก์ตกลงทำปราณีประนอมกับจำเลยดังกล่าว ก็ต้องตีความว่าโจทก์ได้ตกลงไม่โต้แย้งกรรมสิทธิของจำเลยต่อไปแล้ว เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินและข้อสัญญาต่าง ๆ ที่จำเลยให้ไว้ โจทก์ก็ไม่มีสิทธินำคดีนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทจากจำเลยอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการยอมความ: สิทธิเรียกร้องเดิมย่อมระงับเมื่อทำสัญญาปรานีประนอมยอมความ
ข้อตกลงหรือข้อพิพาทใดที่มีอยู่ก่อนทำสัญญาปราณีประนอมยอมความนั้น ย่อมระงับไปในเมื่อได้ตกลงทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้และการสืบพยาน: ข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและวิธีพิจารณาความแพ่ง
ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.653 วรรค 2 ใช้บังคับฉะเพาะการชำระหนี้เงินกู้จะใช้แก่หนี้อย่างอื่นไม่ได้
การคืนเงินที่ได้รับจากการซื้อขายนั้นแม้ทำยอมใช้เงินนั้นที่อำเภอ ก็ไม่จำต้องมีใบรับหรือเวนคืนเอกสารคู่ความย่อมนำพะยานบุคคลมาสืบได้
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานก่อนถึงกำหนดเวลาที่จำเลยมีสิทธิจะยื่นบัญชีระบุพะยานตาม ม.88 แล้วตัดสินคดีนั้นเมื่อจำเลยอุทธรณ์จำเลยยื่นคำร้องขอสืบพะยานเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นตัดสินวันที่ 11 กรกฎ.จำเลยยื่นอุทธรณ์วันที่ 22 กรกฎ และในวันเดียวกันนี้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอสืบพะยานเพิ่มเติม.
การคืนเงินที่ได้รับจากการซื้อขายนั้นแม้ทำยอมใช้เงินนั้นที่อำเภอ ก็ไม่จำต้องมีใบรับหรือเวนคืนเอกสารคู่ความย่อมนำพะยานบุคคลมาสืบได้
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานก่อนถึงกำหนดเวลาที่จำเลยมีสิทธิจะยื่นบัญชีระบุพะยานตาม ม.88 แล้วตัดสินคดีนั้นเมื่อจำเลยอุทธรณ์จำเลยยื่นคำร้องขอสืบพะยานเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นตัดสินวันที่ 11 กรกฎ.จำเลยยื่นอุทธรณ์วันที่ 22 กรกฎ และในวันเดียวกันนี้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอสืบพะยานเพิ่มเติม.