พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.238 และการไม่ยกข้อต่อสู้ในฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลชั้นต้นฟังว่าห้องเช่าเป็นเคหะ จึงพิพากษายกฟ้องแต่ศาล อุทธรณ์ฟังว่า ไม่ใช่เคหะ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย ่จำเลยฎีกาเพียงว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เฉพาะใน ขจ้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ชอบด้วยป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 238 ส่วนข้อที่ว่าห้องเช่าไม่ใช่เคหะนั้น จำเลยมิได้คัดค้านในฎีกามา ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกา ขึ้นมาฟังไม่ขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องเคหะต่อไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แบบพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองไม่สมบูรณ์เมื่อพะยานไม่ครบตามกฎหมาย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกินประเด็น
คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงข้อเดียวว่า พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่จำเลยอ้าง จะเป็นการชอบด้วยประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 1658 หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พินัยกรรมฉะบับนี้ตกเป็นโมฆะในฐานะเป็นพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง แต่สมบูรณ์ในฐานะเป็นพินัยกรรมธรรมดาตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 136 ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่คู่ความโต้เถียงกัน เพราะคู่ความมิได้แถลงว่า ถ้าพินัยกรรมฉะบับนี้ไม่เป็นพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง ก็ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า จะเข้าแบบสมบูรณ์ เป็นพินัยกรรมอย่างอื่นหรือไม่
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองมีปลัดอำเภอลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพะยานรับรองพินัยกรรมอีกฐานะหนึ่งกับมีนายสุดเซ็นเป็นพะยานอีกคนหนึ่ง เมื่อตัดชื่อนายสุวัธน์ออกจากฐานะเป็นพะยาน โดยเหตุที่เป็นกรมการอำเภอผู้กระทำกิจการตามหน้าที่ราชการแล้ว ก็คงเหลือแต่นายสุดผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นพะยาน แต่เป็นผู้ที่ได้รับรู้การแจ้งความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมต่อกรมการอำเภอ พะยานขาดจำนวนไปคนหนึ่ง จึงไม่ครบจำนวนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ พินัยกรรมจึงตกเป็นโมฆะในฐานะพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองมีปลัดอำเภอลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพะยานรับรองพินัยกรรมอีกฐานะหนึ่งกับมีนายสุดเซ็นเป็นพะยานอีกคนหนึ่ง เมื่อตัดชื่อนายสุวัธน์ออกจากฐานะเป็นพะยาน โดยเหตุที่เป็นกรมการอำเภอผู้กระทำกิจการตามหน้าที่ราชการแล้ว ก็คงเหลือแต่นายสุดผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นพะยาน แต่เป็นผู้ที่ได้รับรู้การแจ้งความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมต่อกรมการอำเภอ พะยานขาดจำนวนไปคนหนึ่ง จึงไม่ครบจำนวนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ พินัยกรรมจึงตกเป็นโมฆะในฐานะพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นที่วัด ไม่ต้องใช้เอกสาร พยานบุคคลรับฟังได้
ประเด็นที่ว่าที่พิพาทเป็นที่วัดหรือไม่นั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีเอกสารมาแสดง.
ฉะนั้นแม้อีกฝ่าย 1 จะมีเอกสารแสดงว่าเป็นที่ป่า อีกฝ่าย 1 ก็นำพะยานบุคคลมาสืบได้ว่าเป็นที่วัด.
ฉะนั้นแม้อีกฝ่าย 1 จะมีเอกสารแสดงว่าเป็นที่ป่า อีกฝ่าย 1 ก็นำพะยานบุคคลมาสืบได้ว่าเป็นที่วัด.