คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 295

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ไม่มีบาดแผลชัดเจน ไม่ถึงขั้นอันตรายแก่กาย ลดโทษจากชิงทรัพย์เป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยชกต่อยผู้เสียหายที่บริเวณหน้าอกหลายครั้งแพทย์ตรวจร่างกายผู้เสียหายแล้วไม่พบบาดแผล และไม่มีรอยฟกช้ำ เพียงแต่ผู้เสียหายบอกว่าเจ็บที่หน้าอกเวลากด แพทย์จึงมีความเห็นว่ากล้ามเนื้อที่หน้าอกช้ำรักษาประมาณ 5 วันหาย ลักษณะบาดแผลเช่นนี้ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 การกระทำของจำเลยเป็นเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 เท่านั้น
การที่ม.พี่ของจำเลยทราบจากคนอื่นพูดกันว่าผู้เสียหายพูดจาดูหมิ่นมารดาของจำเลย เมื่อพบผู้เสียหาย ม. จึงเข้าไปสอบถามแล้วทันใดนั้นจำเลยก็เข้ามาชกต่อยผู้เสียหายทันทีโดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้พูดจาดูหมิ่นมารดาจำเลยในขณะเกิดเหตุ กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปเพราะบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายไม่ถึงอันตรายแก่กาย และไม่มีเหตุบันดาลโทสะ ลดโทษจากชิงทรัพย์เป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยชกต่อยผู้เสียหายที่บริเวณหน้าอกหลายครั้งแพทย์ตรวจร่างกายผู้เสียหายแล้วไม่พบบาดแผลและไม่มีรอยพกช้ำเพียงแต่ผู้เสียหายบอกว่าเจ็บที่หน้าอกเวลากดแพทย์จึงมีความเห็นว่ากล้ามเนื้อที่หน้าอกช้ำรักษาประมาณ5วันหายลักษณะบาดแผลเช่นนี้ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา295การกระทำของจำเลยเป็นเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา391เท่านั้น การที่ม.พี่ของจำเลยทราบจากคนอื่นพูดกันว่าผู้เสียหายพูดจาดูหมิ่นมารดาของจำเลยเมื่อพบผู้เสียหายม.จึงเข้าไปสอบถามแล้วทันใดนั้นจำเลยก็เข้ามาชกต่อยผู้เสียหายทันทีโดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้พูดจาดูหมิ่นมารดาจำเลยในขณะเกิดเหตุกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปเพราะบันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนไม่ถึงอันตรายแก่กาย และประเด็นบันดาลโทสะที่ไม่สมเหตุผล
จำเลยชกต่อยผู้เสียหายที่บริเวณหน้าอกหลายครั้ง แพทย์ตรวจร่างกายผู้เสียหายแล้วไม่พบบาดแผล และไม่มีรอยฟกช้ำ เพียงแต่ผู้เสียหายบอกว่าเจ็บที่หน้าอกเวลากด แพทย์จึงมีความเห็นว่า กล้ามเนื้อที่หน้าอกช้ำรักษาประมาณ 5 วันหาย ลักษณะบาดแผลเช่นนี้ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 การกระทำของจำเลยเป็นเพียงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 เท่านั้น
การที่ ม.พี่ของจำเลยทราบจากคนอื่นพูดกันว่าผู้เสียหายพูดจาดูหมิ่นมารดาของจำเลย เมื่อพบผู้เสียหาย ม. จึงเข้าไปสอบถาม แล้วทันใดนั้นจำเลยก็เข้ามาชกต่อยผู้เสียหายทันที โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้พูดจาดูหมิ่นมารดาจำเลยในขณะเกิดเหตุ กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปเพราะบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องฐานชิงทรัพย์-พยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339,288,80โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายหลายครั้งจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บความผิดฐานชิงทรัพย์นั้นมีการกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายรวมอยู่ด้วยแม้ข้อเท็จจริงจะไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์คงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยได้ร่วมทำร้ายผู้เสียหายศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องฐานชิงทรัพย์-พยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339,288,80 โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายหลายครั้งจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บความผิดฐานชิงทรัพย์ นั้นมีการกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายรวมอยู่ด้วย แม้ข้อเท็จจริงจะไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์คงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยได้ร่วมทำร้ายผู้เสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องฐานชิงทรัพย์-พยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 288, 80 โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายหลายครั้งจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บ ความผิดฐานชิงทรัพย์นั้นมีการกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายรวมอยู่ด้วย แม้ข้อเท็จจริงจะไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์คงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยได้ร่วมทำร้ายผู้เสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนาจากฤทธิ์สุรา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยที่1เมาสุราใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งตัวทั้งด้ามประมาณ1คืบแทงเปะปะไปโดยมิได้เลือกว่าเป็นที่ใดและแทงผู้ตายไปทีเดียวจะฟังว่ามีเจตนาฆ่ายังไม่ถนัดการกระทำของจำเลยที่1เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนา: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยที่ 1 เมาสุราใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งตัวทั้งด้ามประมาณ 1 คืบ แทงเปะปะไปโดยมิได้เลือกว่าเป็นที่ใด และแทงผู้ตายไปทีเดียว จะฟังว่ามีเจตนาฆ่ายังไม่ถนัด การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากแก้ไขเล็กน้อย การริบของกลาง ไม่กระทบโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงว่า ไม่ริบอาวุธปืนลูกโม่พร้อมด้วยกระสุนปืน 5 นัด กับปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกของนาย ช. ไม่ได้แก้บทแก้โทษที่ลงแก่จำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้ไขเพียงการริบของกลาง ไม่กระทบโทษจำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อยขัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงว่าไม่ริบอาวุธปืนลูกโม่พร้อมด้วยกระสุนปืน5นัดกับปลอกกระสุนปืน1ปลอกของนายช.ไม่ได้แก้บทแก้โทษที่ลงแก่จำเลยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218.
of 59