คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 295

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกลุ้มรุมทำร้ายร่างกายและการลักทรัพย์โดยฉวยโอกาส ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีเจตนาปล้นทรัพย์
ผู้เสียหายขี่รถจักรยานสองล้อจะกลับบ้าน ระหว่างทางจำเลยทั้งสองกับพวกขี่รถจักรยานยนต์ตามมาทันแล้วกลุ้มรุมทำร้ายการที่ ต. พวกจำเลยล้วงเอาเงินจากกระเป๋ากางเกงผู้เสียหายในขณะถูกกลุ้มรุมทำร้ายเป็นการฉวยโอกาสของ ต. ในขณะนั้นเองจะฟังว่าจำเลยร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วยไม่ได้จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์คงผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยเมาสุรา ไม่ปรากฏเจตนาฆ่า และผลกระทบของการล้างมลทินต่อการเพิ่มโทษ
ขณะเกิดเหตุจำเลยเมาสุราจนไม่รู้เรื่อง แม้จะไล่แทงผู้เสียหายหลายครั้งแต่แทงไม่ค่อยถูก เมื่อผู้เสียหายล้มลงและมีเสียงคนเรียกให้ช่วย จำเลยก็ผละไปไม่ได้ซ้ำเติมผู้เสียหาย บาดแผลที่ถูกแทงเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 1 วันแพทย์ก็ให้ออกมารักษาข้างนอก อาวุธมีดที่ใช้มีลักษณะเป็นมีดปอกผลไม้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยพ้นโทษจากการกระทำผิดในคดีก่อน ก่อนวันที่ 6 เมษายน 2525 ซึ่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ. 2526 ให้ถือว่ามิได้ถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยมีด แต่เจตนาไม่ถึงแก่ชีวิต และการเพิ่มโทษจากเคยมีประวัติอาญา
ขณะเกิดเหตุจำเลยเมาสุราจนไม่รู้เรื่อง แม้จะไล่แทงผู้เสียหายหลายครั้งแต่แทงไม่ค่อยถูก เมื่อผู้เสียหายล้มลงและมีเสียงคนเรียกให้ช่วย จำเลยก็ผละไปไม่ได้ซ้ำเติมผู้เสียหาย บาดแผลที่ถูกแทงเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 1 วันแพทย์ก็ให้ออกมารักษาข้างนอก อาวุธมีดที่ใช้มีลักษณะเป็นมีดปอกผลไม้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยพ้นโทษจากการกระทำผิดในคดีก่อน ก่อนวันที่ 6เมษายน 2525 ซึ่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2526 ให้ถือว่ามิได้ถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3987/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุกเคหะสถานและการทำร้ายร่างกาย: ความผิดสองกระทง
จำเลยมีมีดเป็นอาวุธบุกรุกเข้าไปถึงเตียงนอนผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายหลับอยู่ โดยจำเลยไม่ทำร้ายผู้เสียหายทันที เพิ่งจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายดิ้นเพื่อให้พ้นจากการถูกจำเลยบีบคอ แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้นจำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3266/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม พยายามฆ่า: การกระทำเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือผู้ถูกทำร้าย ย่อมถือเป็นเจตนาในการร่วมกระทำผิด
จำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันทำร้าย พ. เมื่อจำเลยที่ 1 ชกต่อยและใช้มีดพกปลายแหลมแทง พ.โดยเจตนาฆ่าแล้ว ป.จะเข้าช่วยเหลือ พ. จำเลยที่ 2 ซึ่งตามจำเลยที่ 1 เข้าไปอย่างใกล้ชิดได้ใช้เก้าอี้ไม้ตี ป.เพื่อมิให้เข้าช่วย พ.ทันที แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกพากันหลบหนีไป ย่อมเล็งเห็นเจตนาของจำเลยที่ 2 ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการที่จำเลยที่ 1 พยายามฆ่า พ.ด้วย แต่จำเลยที่ 2 มิได้เป็นคนแทง พ. จึงสมควรลงโทษลดหลั่นจากโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3266/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม พยายามฆ่า: การกระทำต่อเนื่องเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือบ่งชี้เจตนา
จำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันทำร้าย พ. เมื่อจำเลยที่ 1 ชกต่อยและใช้มีดพกปลายแหลมแทง พ.โดยเจตนาฆ่าแล้ว ป.จะเข้าช่วยเหลือ พ. จำเลยที่ 2 ซึ่งตามจำเลยที่ 1 เข้าไปอย่างใกล้ชิดได้ใช้เก้าอี้ไม้ตี ป.เพื่อมิให้เข้าช่วย พ.ทันที แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกพากันหลบหนีไป ย่อมเล็งเห็นเจตนาของจำเลยที่ 2 ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการที่จำเลยที่ 1 พยายามฆ่า พ.ด้วยแต่จำเลยที่2มิได้เป็นคนแทงพ. จึงสมควรลงโทษลดหลั่นจากโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดฟันคอ แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ถือเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 ศอกเศษ ซึ่งมีใบมีดกว้าง 3 เซนติเมตร ฟันถูกที่คอผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญและเป็นที่รวมของเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง หากเส้นโลหิตใหญ่ขาดก็อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แม้บาดแผลของผู้เสียหายจะไม่ฉกรรจ์ไม่ถึงกับเส้นโลหิตใหญ่ขาด ผู้เสียหายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3172/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดดาบฟันคอ แม้ไม่ถึงแก่ชีวิตก็เป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 ศอกเศษ ซึ่งมีใบมีดกว้าง 3 เซนติเมตร ฟันถูกที่คอผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญและเป็นที่รวมของเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง หากเส้นโลหิตใหญ่ขาดก็อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แม้บาดแผลของผู้เสียหายจะไม่ฉกรรจ์ไม่ถึงกับเส้นโลหิตใหญ่ขาด ผู้เสียหายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการร่วมกระทำความผิด: การพิสูจน์การมีส่วนร่วมโดยตรง
จำเลยแทงถูกผู้ตายล้มลง แต่ฟังไม่ได้ว่าแทงถูกอวัยวะส่วนไหนของผู้ตาย หลังจากนั้นมีชาวบ้านหลายคนช่วยกันแทงผู้ตาย บาดแผลที่ทำให้ตายเกิดจากการกระทำของพวกชาวบ้าน เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยได้ร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย ทั้งทางพิจารณาก็ไม่ปรากฏเช่นนั้น ดังนี้จะนำการกระทำของผู้อื่นซึ่งจำเลยไม่ได้ร่วมด้วยมาลงโทษจำเลยหาได้ไม่จำเลยคงมีความผิดตาม ป.อ. ม.295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธจนเป็นอันตรายสาหัส ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่รับฟังเหตุบันดาลโทสะและข้อต่อสู้เรื่องการชุลมุน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222
เหตุเกิดขึ้นเพราะฝ่ายโจทก์ร่วมกับจำเลยทะเลาะวิวาทด่าว่าแล้วท้าทายกัน กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการที่จำเลยทำร้ายโจทก์ร่วม จึงไม่ใช่ลักษณะที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
โจทก์ร่วมถูกฟันด้วยมีด มีบาดแผลฉีกขาด ขอบเรียบที่ต้นแขนปลายแขน ส่วนบนและบริเวณข้อมือขวารวม 3 แห่งขนาดบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึกผ่านชั้นกล้ามเนื้อแขนและตัดผ่านประสาทที่ไปเลี้ยงแขนต้องรักษาตัว 2 เดือนเศษจึงหายเป็นปกติแต่ทำงานหนักไม่ได้ ลักษณะบาดเจ็บของโจทก์ร่วมดังกล่าวถึงอันตรายสาหัสต้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 (8) แล้ว
โจทก์ร่วมวิ่งตามนาง พ. ไปเห็นจำเลยตบหน้านาง พ. แล้วเงื้อมีดดาบจะฟัน โจทก์ร่วมจึงผลักนาง พ. ให้พ้นทางไป ขณะนั้นเองจำเลยก็ฟันถูกโจทก์ร่วมถึง 3 ครั้งลักษณะการทำร้ายของจำเลยดังกล่าวมิใช่เนื่องในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299
of 59