คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 295

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องร่วมทำร้ายร่างกาย: การระบุตัวผู้กระทำความผิดไม่จำเป็นหากฟ้องว่าทั้งสองฝ่ายทำร้ายกัน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 2ที่ 3 ใช้มือผลักและชกจำเลยที่ 1 ที่ใบหน้า ส่วนพวกที่หลบหนีคนหนึ่งใช้จอบตีจำเลยที่ 1 ย่อมมีความหมายว่า ฝ่ายของจำเลยที่2ที่ 3 ได้ร่วมกันกระทำความผิดในการทำร้ายฝ่ายจำเลยที่ 1 นั่นเองซึ่งโจทก์ก็ได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาด้วยแล้วแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนใดผลักคนใดชกเป็นการกระทำร่วมกันหรือสมคบกันอย่างไร ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องร่วมทำร้ายร่างกาย: การบรรยายฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำร่วมกัน หากมีเจตนาและผลการกระทำร่วมกันชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2ที่ 3 กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ใช้มือผลักและชกจำเลยที่ 1 ที่ใบหน้า ส่วนพวกที่หลบหนีคนหนึ่งใช้จอบตีจำเลยที่ 1 ย่อมมีความหมายว่า ฝ่ายของจำเลยที่2 ที่ 3 ได้ร่วมกันกระทำความผิดในการทำร้ายฝ่ายจำเลยที่ 1 นั่นเอง ซึ่งโจทก์ก็ได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาด้วยแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนใดผลักคนใดชกเป็นการกระทำร่วมกันหรือสมคบกันอย่างไร ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย
จำเลยถือด้ามมีดทั้งสองมือ เหวี่ยงฟันผู้เสียหาย 2ครั้งติด ๆ กัน ถูกที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นที่สำคัญ มีบาดแผล 3 แห่งคือ ที่ข้างศีรษะขวาเหนือหูยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกจดกระดูกศีรษะ เย็บ 8 เข็ม ที่ข้างใบหูขวา ยาวประมาณ 6 เซนติเมตรลึกจดกระดูกศีรษะเย็บ 7 เข็ม และที่ใบหูขวาขาด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เย็บ 8 เข็ม ลักษณะและขนาดของมีดที่ใช้ฟันเฉพาะตัวมีดยาว 36 เซนติเมตร ด้ามยาว 19 เซนติเมตร ปลายมีดเป็นรูปหัวตัดกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร. ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ตายสมเจตนาจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น หาใช่เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน กรณีจำเลยร่วมกันกระทำความผิด แต่มีบทลงโทษต่างกัน
การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยจำเลยที่ 1 ชกพลตำรวจ อ. ที่หน้าอกและจำเลยทั้งสองชกต่อยพลตำรวจ อ. กับพวก นั้น เมื่อไม่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามมาตรา 138 วรรคสอง, 83 เท่านั้น โดยไม่มีความผิดตามมาตรา 295, 296, 83 อีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและการทำร้ายร่างกาย เจ้าพนักงานได้รับอันตรายหรือไม่?
การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยจำเลยที่ 1 ชกพลตำรวจ อ. ที่หน้าอกและจำเลยทั้งสองชกต่อยพลตำรวจ อ. กับพวก นั้น. เมื่อไม่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามมาตรา 138 วรรคสอง,83 เท่านั้น โดยไม่มีความผิดตามมาตรา 295,296,83 อีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งด้ามและใบมีดประมาณ 1 คืบเฉพาะตัวมีดยาวประมาณครึ่งคืบแทงผู้เสียหายที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญเพียงทีเดียวเป็นบาดแผลขนาด 1.5X1/2X1.5 เซนติเมตร แพทย์ลงความเห็นว่า แผลไม่ร้ายแรงที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้รักษาประมาณ 12 วันหาย ถ้าไม่มีโรคแทรก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผล, พฤติการณ์ และอาการเมาสุราของผู้กระทำ
จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งด้ามและใบมีดประมาณ 1 คืบเฉพาะตัวมีดยาวประมาณครึ่งคืบ แทงผู้เสียหายที่หน้าอก อันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญเพียงทีเดียว เป็นบาดแผลขนาด 1.5X1/2X1.5 เซนติเมตรแพทย์ลงความเห็นว่า แผลไม่ร้ายแรงที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้รักษาประมาณ 12 วันหาย ถ้าไม่มีโรคแทรก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาต้องยึดตามฟ้อง หากข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาไม่ตรงกับที่โจทก์กล่าวอ้าง ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุเวลากลางคืน จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายแล้วร่วมกันชกต่อยเตะผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295,365, 83 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับพวกเกิดชกต่อยกับผู้เสียหายและพวกที่หน้ากองดุริยางค์กรมตำรวจ เมื่อมีคนมาห้ามก็เลิกชกต่อยกัน และเหตุการณ์ก็ยุติลงแค่นั้น ตามฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้เสียหายแล้วทำร้ายผู้เสียหาย อันเป็นการกระทำคนละตอน ต่างกรรม ต่างวาระเมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยกับพวกได้บุกรุกเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายอีกดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องก็ต้องยกฟ้องโจทก์ จะถือเอาการที่จำเลยต่อยกับผู้เสียหายที่หน้ากองดุริยางค์มาลงโทษจำเลยหาได้ไม่เพราะต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเกิดอันตรายแก่กาย และการจับกุมผู้เมาสุรา การกระทำของเจ้าพนักงานที่ไม่ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหายถูกเตะทั้งรองเท้า มีบาดแผล คือ 1. รอยช้ำบวมที่หน้าผากข้างขวาเหนือคิ้วขวา 2. เบ้าตาขวาช้ำบวมเขียว ตาขาวมีรอยช้ำเลือด 3. ริมฝีปากล่างซ้ายแตก 4. รอยช้ำบวมที่ปลายคาง5. หัวเข่าซ้ายบวมเล็กน้อย มีรอยถลอกเลือดออกซับบาดแผลทั้งหมดควรจะหายภายใน 7 วัน เช่นนี้ ถือว่าได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แล้ว
จำเลยเป็นจ่าสิบตำรวจและสิบตำรวจเอกได้จับกุมผู้เสียหายในข้อหาเสพสุราจนเป็นเหตุให้เมาประพฤติวุ่นวายครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ เมื่อนำไปยังสถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายยังร้องเอะอะอาละวาด เตะโน่นเตะนี่ เดินไปมาและจะลงไปจากสถานีตำรวจ จำเลยจึงเอาตัวผู้เสียหายเข้าไปขังไว้ในห้องขังเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์ไล่ทำร้ายด้วยอาวุธใกล้ชิด ถือเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย แม้จะทำสำเร็จไม่ได้
จำเลยถือมีดพร้ายาวประมาณ 2 ศอก ในท่าเงื้อจะฟันวิ่งไล่ตามหลังผู้เสียหายไปเป็นระยะทาง 10 วา และห่างกันเพียง 2 วา การกระทำของจำเลยดังนี้ใกล้ชิดต่อ ผลแห่งการทำร้าย ถือว่าเป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายวิ่งเร็ว จำเลยไล่ไม่ทัน แม้ฟันไม่สำเร็จก็ต้องมีความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย
of 59