คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 295

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าในคดีวิวาท ทำร้ายร่างกาย บาดแผลไม่ฉกรรจ์
สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันคนหนึ่งถูกแทงที่รักแร้ขวาลึก 3 เซ็นติเมตร อีกคนหนึ่งถูกแทงที่ชายโครงลึกแฉลบไปใต้ผิวหนัง4 เซ็นติเมตร และอีกคนหนึ่งถูกแทงที่อกซ้ายเหนือราวนมลึก3 เซ็นติเมตร ซึ่งบาดแผลของบุคคลทั้ง 3 นี้แพทย์ลงความเห็นว่ารักษา 10 วันหาย ย่อมไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ และอาวุธที่ใช้ทำร้ายร่างกายก็จับไม่ได้ จึงไม่ถือว่าผู้ทำร้ายมีเจตนาจะฆ่าฉะนั้น จึงลงโทษผู้ทำร้ายฐานพยายามฆ่ามิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาโดยอาศัยสำนวนสอบสวนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายส่งผลต่อการวินิจฉัยสาเหตุแห่งการกระทำผิด
ศาลชั้นต้นตรวจสำนวนการสอบสวนโดยมิได้เรียกสำนวนสอบสวนมาจากโจทก์ แล้วรวมสำนวนไว้เพื่อประกอบการพิจารณาและโจทก์ก็มิได้ส่งสำนวนการสอบสวนต่อศาลหรือขออ้างส่งสำนวนในฐานะเป็นพยานเอกสารศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจึงไม่อาจรู้ได้ว่าสาเหตุแห่งการกระทำผิดเป็นความจริงถูกต้องดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาหรือไม่
ตามใบนำส่งผู้บาดเจ็บให้แพทย์ตรวจชันสูตรของพนักงานสอบสวนระบุว่าถูกคนร้ายใช้มีดแทง บาดแผลผู้เสียหายทั้งสองคนรวม 3 แผล ลึกเพียงครึ่งเซ็นติเมตรทั้ง 3 แผล และรักษา 7 วันหาย จึงไม่ใช่บาดแผลร้ายแรงที่อาจทำให้ถึงตายได้ จึงไม่ควรลงโทษจำคุกจำเลยเต็มตามอัตราโทษจำคุกที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาโดยไม่ตรวจสอบสำนวนสอบสวนอย่างถูกต้อง ทำให้ศาลฎีกาไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุการกระทำผิดได้
ศาลชั้นต้นตรวจสำนวนการสอบสวนโดยมิได้เรียกสำนวนสอบสวนมาจากโจทก์ แล้วรวมสำนวนไว้เพื่อประกอบการพิจารณาและโจทก์ก็มิได้ส่งสำนวนการสอบสวนต่อศาลหรือขออ้างส่งสำนวนในฐานะเป็นพยานเอกสารศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจึงไม่อาจรู้ได้ว่าสาเหตุแห่งการกระทำผิดเป็นความจริงถูกต้องดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาหรือไม่
ตามใบนำส่งผู้บาดเจ็บให้แพทย์ตรวจชันสูตรของพนักงานสอบสวนระบุว่าถูกคนร้ายใช้มีดแทง บาดแผลผู้เสียหายทั้งสองคนรวม 3 แผลลึกเพียงครึ่งเซนติเมตรทั้ง 3 แผล และรักษา 7 วันหาย จึงไม่ใช่บาดแผลร้ายแรงที่อาจทำให้ถึงตายได้ จึงไม่ควรลงโทษจำคุกจำเลยเต็มตามอัตราโทษจำคุกที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกลุ้มรุมทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลย 5 คนกลุ้มรุมทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 5 ได้รับบาดเจ็บรวม 5 รายการคือรายที่ 1 ถึง 3 เป็นรอยบวมช้ำโตกลมประมาณแห่งละ 4, 5 และ 3 เซ็นติเมตรตามลำดับ รายการที่ 4 เป็นรอยข่วน 3 แห่งยาวประมาณแห่งละ 3 เซ็นติเมตร และรายการที่ 5 ฟันล่างด้านหน้าโยก 1 ซี่อันเป็นผลเนื่องจากการร่วมกันกลุ้มรุมทำร้ายของจำเลยที่ 1 ถึง 4 เช่นนี้แม้ไม่ปรากฏว่ามีโลหิตไหล แต่ก็เป็นบาดแผลบวมช้ำหลายแห่งและถึงกับฟันโยก อันส่อถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำอันรุนแรงกรณีถือว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน บาดแผลบวมช้ำและฟันโยกเข้าข่ายอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลย 5 คนกลุ้มรุมทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 5 ได้รับบาดเจ็บรวม 5 รายการ คือรายที่ 1 ถึง 3 เป็นรอยบวมช้ำโตกลมประมาณแห่งละ 4,5 และ 3 เซนติเมตรตามลำดับ รายการที่ 4 เป็นรอยข่วน 3 แห่งยาวประมาณแห่งละ 3 เซนติเมตร และรายการที่ 5 ฟันล่างด้านหน้าโยก 1 ซี่ อันเป็นผลเนื่องจากการร่วมกันกลุ้มรุมทำร้ายของจำเลยที่ 1 ถึง 4 เช่นนี้ แม้ไม่ปรากฏว่ามีโลหิตไหล แต่ก็เป็นบาดแผลบวมช้ำหลายแห่งและถึงกับฟันโยก อันส่อถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำอันรุนแรง กรณีถือว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223-224/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: ผู้ถูกทำร้ายไม่มีอำนาจฟ้อง, การบรรยายฟ้องรวมความผิด, พยานหลักฐานไม่พอฟัง
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกันและกัน โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
แม้พยานหลักฐานของอัยการโจทก์ จะไม่พอฟังว่าจำเลยได้ร่วมกันชิงทรัพย์ของผู้เสียหาย แต่ความผิดฐานชิงทรัพย์นี้ อัยการโจทก์บรรยายฟ้องรวมความผิดฐานทำร้ายร่างกายอยู่ด้วย และคดีฟังได้ว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บ ศาลจึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223-224/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง หากเป็นผู้ร่วมวิวาท และการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องรวมคดีชิงทรัพย์
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกันและกัน โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
แม้พยานหลักฐานของอัยการโจทก์จะไม่พอฟังว่าจำเลยได้ร่วมกันชิงทรัพย์ของผู้เสียหายแต่ความผิดฐานชิงทรัพย์นี้ อัยการโจทก์บรรยายฟ้องรวมความผิดฐานทำร้ายร่างกายอยู่ด้วย และคดีฟังได้ว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บ ศาลจึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายต่อบุตรและป้องกันตนเอง ถือเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายมาขอน้ำบุตรสาวจำเลยกิน บุตรจำเลยเข้าไปในครัวจะตักน้ำให้ ผู้เสียหายตามเข้าไปจับมือและเข้ากอดบุตรจำเลยในครัว เมื่อจำเลยกลับมาบ้านได้ยินเสียงบุตรสาวร้องเรียกให้ช่วย จำเลยจึงได้เข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อให้ผู้เสียหายปล่อยจากกอดบุตรสาว แล้วผู้เสียหายหันกลับมาสู้ จำเลยจึงแทงป้องกันตัวไปอีกที ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อปกป้องบุตร การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ และข้อยกเว้นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ผู้เสียหายมาขอน้ำบุตรสาวจำเลยกิน บุตรจำเลยเข้าไปในครัวจะตักน้ำให้ ผู้เสียหายตามเข้าไปจับมือและเข้ากอดบุตรจำเลยในครัว เมื่อจำเลยกลับมาบ้านได้ยินเสียงบุตรสาวร้องเรียกให้ช่วย จำเลยจึงได้เข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อให้ผู้เสียหายปล่อยจากกอดบุตรสาว และผู้เสียหายหันกลับมาสู้ จำเลยจึงแทงป้องกันตัวไปอีก ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อปกป้องบุตรจากผู้บุกรุกและการป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายมาขอน้ำบุตรสาวจำเลยกิน. บุตรจำเลยเข้าไปในครัวจะตักน้ำให้ ผู้เสียหายตามเข้าไปจับมือและเข้ากอดบุตรจำเลยในครัว. เมื่อจำเลยกลับมาบ้านได้ยินเสียงบุตรสาวร้องเรียกให้ช่วย. จำเลยจึงได้เข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง. ครั้งแรกเพื่อให้ผู้เสียหายปล่อยจากกอดบุตรสาว และผู้เสียหายหันกลับมาสู้ จำเลยจึงแทงป้องกันตัวไปอีก ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายพอสมควรแก่เหตุ. จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68.
of 59