คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 266

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3108/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารหลายครั้งถือเป็นกรรมต่างกัน หากจำเลยมีเจตนาแยกต่างหากในแต่ละฉบับ
การที่จำเลยขีดฆ่าและลบลายมือชื่อของจำเลยในเช็คพิพาททั้งห้าฉบับเพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังในเช็คแต่ละฉบับนั้น แม้จะเป็นการกระทำในเวลาใกล้เคียงและต่อเนื่องกันแต่ก็เห็นได้ชัด ว่าจำเลยจะทำเพียงฉบับเดียวหรือบางฉบับก็ได้ สุดแต่เจตนาของจำเลย เมื่อจำเลยกระทำต่อเป็นทั้งห้าฉบับจึงเป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3108-3109/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสารสลักหลังเช็คหลายฉบับถือเป็นความผิดต่างกรรมกัน หากเจตนาแยกต่างหาก
การที่จำเลยขีดฆ่าและลบลายมือชื่อของจำเลยในเช็คพิพาททั้งห้าฉบับ เพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังในเช็คแต่ละฉบับนั้น แม้จะเป็นการกระทำในเวลาใกล้เคียงและต่อเนื่องกันแต่ ก็เห็นได้ชัดว่าจำเลยจะทำเพียงฉบับเดียวหรือบางฉบับก็ได้สุดแต่เจตนาของจำเลย เมื่อจำเลยกระทำต่อเช็คทั้งห้าฉบับ จึงเป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3392/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คแก้ไขเลขบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นเอกสารปลอม แต่ไม่มีหลักฐานการใช้เช็คปลอม
แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารมอบให้ ล. เพื่อใช้สั่งจ่ายเงินได้เขียนข้อความไว้ในเช็คว่า บัญชีเลขที่ 2009 เมื่อมีผู้แก้ไขเลขบัญชีในเช็คจากเลขที่ 2009 เป็นเลขที่ 2099 แล้วกรอกข้อความลงในเช็คครบถ้วนและลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายโดย ล. ไม่ได้อนุญาตเช็คดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3392/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คแก้ไขเลขบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นเอกสารปลอม แต่ขาดหลักฐานการใช้งาน
แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารมอบให้ ล. เพื่อใช้สั่งจ่ายเงินได้เขียนข้อความไว้ในเช็คว่า บัญชีเลขที่ 2009 เมื่อมีผู้แก้ไขเลขบัญชีในเช็คจากเลขที่ 2009 เป็นเลขที่ 2099 แล้วกรอกข้อความลงในเช็คครบถ้วนและลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายโดย ล. ไม่ได้อนุญาตเช็คดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5406/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้ปลอมและใช้เอกสารปลอมหลายฉบับในคราวเดียวกัน ต้องลงโทษตามจำนวนกรรมที่กระทำ
จำเลยปลอมเอกสาร 7 ฉบับอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม7 กระทง แล้วจำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 7 ฉบับไปใช้ในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาใช้เอกสารปลอมนั้นให้มีผลแยกเป็นรายฉบับต่างกัน ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวซึ่งต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคสอง รวม 7 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5406/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมหลายฉบับ แม้ปลอมครั้งเดียวแต่ใช้แยกรายฉบับ
จำเลยปลอมเอกสาร 7 ฉบับอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม 7 กระทง แล้วจำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 7 ฉบับไปใช้ในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาใช้เอกสารปลอมนั้นให้มีผลแยกเป็นรายฉบับต่างกัน ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวซึ่งต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง รวม 7 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5406/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมหลายฉบับ หากผู้ใช้เป็นผู้ปลอมเอง ต้องลงโทษตามแต่ละฉบับ
จำเลยปลอมเอกสาร 7 ฉบับอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม7 กระทง แล้วจำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 7 ฉบับไปใช้ในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาใช้เอกสารปลอมนั้นให้มีผลแยกเป็นรายฉบับต่างกัน ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าวซึ่งต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคสอง รวม 7 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5048/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้โฉนดที่ดินปลอมหลอกลวงเพื่อกู้ยืมเงิน ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยทั้งสองกับพวกนำโฉนด ที่ดินซึ่งทำปลอมขึ้นไปใช้แสดงหลอกลวงผู้เสียหายจนผู้เสียหายหลงเชื่อยอมให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงิน300,000 บาท และรับเอาโฉนด ที่ดินปลอมดังกล่าวไว้เป็นประกัน ดังนี้ถือว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอมประกอบในการแสดงข้อความอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่ดิน โดยจำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้เสียหาย เมื่อจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกระทำการดังกล่าวในวาระเดียวกัน จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา 90.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษในคดีทุจริตเงินบำนาญพิเศษหลายกระทง หากศาลมิได้รวมการพิจารณาคดี โทษจำคุกรวมอาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
คดีนี้และคดีที่ขอให้นับโทษต่อเป็นเรื่องทุจริตเงินบำนาญพิเศษจากส่วนราชการเดียวกันเพียงแต่อ้างชื่อผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญพิเศษต่างรายกันหน่วยราชการซึ่งเป็นผู้เสียหายก็รายเดียวกัน โจทก์อาจฟ้องจำเลยสำหรับการกระทำความผิดในคดีนี้และคดีที่ขอให้นับโทษต่อเป็นคดีเดียวกันได้เพราะโจทก์จำเลยเป็นคนเดียวกัน และพยานหลักฐานน่าจะเป็นชุดเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าโจทก์แยกฟ้องจำเลยแต่ละกระทงความผิดเป็นรายสำนวนไป และศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีทุกสำนวนรวมกัน ศาลจะลงโทษจำเลยได้ไม่เกินกำหนดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เมื่อโจทก์แยกฟ้องคดีนี้กับคดีที่ขอให้นับโทษต่อโดยศาลมิได้สั่งรวมการพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกันแล้วศาลลงโทษจำเลยทุกกรรมโดยจำคุกจำเลยเต็มตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 91 ทั้งสองสำนวนแล้ว ศาลก็นับโทษจำเลยต่อกันไม่ได้เพราะจะทำให้จำเลยต้องรับโทษเกินกำหนดที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 บัญญัติไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีทุจริต - การพิจารณาโทษรวมเมื่อศาลไม่รวมสำนวน
คดีนี้และคดีที่ขอให้นับโทษต่อเป็นเรื่องทุจริตเงินบำนาญพิเศษจากส่วนราชการเดียวกันเพียงแต่อ้างชื่อผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญพิเศษต่างรายกันหน่วยราชการซึ่งเป็นผู้เสียหายก็รายเดียวกัน โจทก์อาจฟ้องจำเลยสำหรับการกระทำความผิดในคดีนี้และคดีที่ขอให้นับโทษต่อเป็นคดีเดียวกันได้เพราะโจทก์จำเลยเป็นคนเดียวกัน และพยานหลักฐานน่าจะเป็นชุดเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าโจทก์แยกฟ้องจำเลยแต่ละกระทงความผิดเป็นรายสำนวนไป และศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีทุกสำนวนรวมกัน ศาลจะลงโทษจำเลยได้ไม่เกินกำหนดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 เมื่อโจทก์แยกฟ้องคดีนี้กับคดีที่ขอให้นับโทษต่อโดยศาลมิได้สั่งรวมการพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกันแล้วศาลลงโทษจำเลยทุกกรรมโดยจำคุกจำเลยเต็มตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 91 ทั้งสองสำนวนแล้ว ศาลก็นับโทษจำเลยต่อกันไม่ได้เพราะจะทำให้จำเลยต้องรับโทษเกินกำหนดที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 บัญญัติไว้.
of 13